
พบชายวัย 63 ปี เสียชีวิตจากโรคไข้กาฬหลังแอ่น ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ถือเป็นรายแรกในรอบ 20 ปี สั่งเฝ้าระวังบุคคลใกล้ชิด 19 ราย
วันที่ 28 พฤษภาคม 2558 นพ.สุรพร ลอยหา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา พบผู้ป่วยโรคไข้กาฬหลังแอ่นที่ถูกส่งต่อมาจากโรงพยาบาลพิบูลมังสาหาร และโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ด้วยอาการช็อก คอแข็ง มีอาการคล้ายเลือดออกในสมอง ทางทีมแพทย์จึงได้เจาะไขสันหลังตรวจโดยละเอียด พบว่าเป็นโรคไข้กาฬหลังแอ่นจริง ซึ่ง จ.อุบลราชธานีไม่ได้มีผู้ป่วยด้วยโรคนี้มาเกือบ 20 ปีแล้ว ซึ่งถือเป็นโรคที่ค่อนข้างรุนแรง
ส่วนคนไข้ที่พบเป็นชายอายุ 63 ปี เป็นพนักงานขับรถของบริษัทผลิตเชื้อเพลิงแห่งหนึ่ง ใน อ.นาเยีย มีผู้ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะเฝ้าระวังทั้งหมด 19 ราย ทางสำนักงานสาธารณสุขและสำนักงานควบคุมโรคที่ 7 ได้ส่งชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าตรวจสอบโรค โดยให้ยาและวัคซีนกับผู้ใกล้ชิดทั้งหมดแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคว่าติดมาจากที่ไหนอย่างไร แต่ที่น่าสนใจคือผู้ป่วยรายนี้อยู่นอกเหนือจากกลุ่มเสี่ยง อีกทั้งยังเป็นรายแรกของจังหวัดในรอบเกือบ 20 ปีอีกด้วย
สำหรับโรคไข้กาฬหลังแอ่น เป็นการติดเชื้อที่เกิดเฉพาะจากคนสู่คน ไม่มีสัตว์ที่เป็นพาหะหรือเป็นแหล่งนำโรค การติดต่อเกิดจากการหายใจเอาเชื้อแบคทีเรียที่กระจายอยู่ในละออง เสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย หรือของผู้ที่เป็นพาหะ หรือการสัมผัสกับสิ่งคัดหลั่งเหล่านี้ แล้วนำมาสัมผัสกับเยื่อบุจมูก ตา หรือปากของตนเอง ส่วนใหญ่กลุ่มเสี่ยงจะเป็นเด็กและวัยรุ่น
ส่วนอาการของโรคที่สำคัญประกอบด้วย
- ไข้สูง ปวดศีรษะ
- คอแข็งผื่นตามตัว มีลักษณะจุดแดงหรือดำคล้ำบางทีมีตุ่มน้ำซึ่งมีเชื้ออยู่ภายใน
- คลื่นไส้อาเจียน ซึมลง
ทั้งนี้ นพ.สุรพร กล่าวต่อว่า หากมีอาการตั้งแต่ 2 อย่างขึ้นไป ต้องรีบพบแพทย์ทันที ซึ่งในปัจจุบันโรคไข้กาฬหลังแอ่นเป็นโรคที่มียารักษาหายขาดได้ หากเข้าพบแพทย์อย่างทันท่วงที และไม่ต้องวิตกกังวลเนื่องจากสถานการณ์ของโรคดังกล่าวไม่ได้น่าเป็นห่วง อีกอย่างการเข้าเฝ้าระวังควบคุมโรคค่อนข้างจะครอบคลุมแล้ว
ภาพจาก springnews
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
