เพื่อสมองใสกิ๊ง ห่างไกลอัลไซเมอร์ อย่ามัวชักช้า รีบหาอาหารบำรุงสมองทั้ง 20 ชนิดนี้มารับประทานโดยด่วน !
อาหารบำรุงสมอง
ได้ยินคำนี้แล้วหลายคนก็คงจะนึกถึงบรรดาอาหารเสริมหลากหลายขนาน
ต่างยี่ห้อที่วางขายกันอยู่ในท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันปลา กิงโกะ
หรือวิตามินต่าง ๆ ซึ่งว่ากันว่ารับประทานแล้วดีต่อสมอง
ช่วยให้ห่างไกลจากความเสี่ยงอัลไซเมอร์ และบำรุงสมองให้แข็งแรง
ความจำเป็นเลิศ ทั้ง ๆ
ที่จริงแล้วอาหารที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นอาหารบำรุงสมองได้โดยไม่ที่ต้องเสียเงินไปซื้อยากันเป็นขวด
ๆ ที่บางทีก็ลืมกิน
วันนี้เราลองไปดูอาหารบำรุงสมองที่อยู่ใกล้ตัวที่สามารถหารับประทานได้ง่ายกันดีกว่า บอกเลยแค่กินอาหารเหล่านี้สมองก็ใสปิ้ง แบบไม่ต้องพึ่งพาอาหารเสริมใด ๆ
วันนี้เราลองไปดูอาหารบำรุงสมองที่อยู่ใกล้ตัวที่สามารถหารับประทานได้ง่ายกันดีกว่า บอกเลยแค่กินอาหารเหล่านี้สมองก็ใสปิ้ง แบบไม่ต้องพึ่งพาอาหารเสริมใด ๆ
1. ธัญพืชชนิดต่าง ๆ
สมองจำเป็นต้องใช้พลังงานจากกลูโคสในการทำงานต่าง ๆ ซึ่งธัญพืชนี้ก็เป็นอาหารอีกหนึ่งชนิดที่มีคาร์โบไฮเดรต และที่สำคัญยังมีไฟเบอร์สูงอีกด้วย และเจ้าไฟเบอร์นี่ล่ะที่จะช่วยชะลอให้กลูโคสอยู่ในกระแสเลือดได้นานขึ้น ส่งผลให้สามารถดึงพลังงานจากกลูโคสมาใช้ได้ตลอดทั้งวัน ผลที่ได้ก็คือสมองของเราจะสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตั้งแต่เช้าจรดเย็นเลย
2.ปลาไขมันสูง
ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลาเฮอร์ริง ปลาเหล่านี้เป็นปลาที่มีไขมันโอเมก้า 3 สูง ซึ่งไขมันชนิดนี้เป็นไขมันชนิดที่ดีเและมีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยบำรุงการทำงานของสมอง หัวใจ ข้อต่อต่าง ๆ รวมทั้งสุขภาพร่างกายโดยรวมอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ในปลาที่มีไขมันสูงยังมี DHA ที่สำคัญและสมองขาดไมได้ หากร่างกายมีระดับ DHA ต่ำเกินไปอาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์และสูญเสียความทรงจำได้อีกด้วย
3. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี
เชื่อว่าหลายคนก็คงจะทราบกันอยู่แล้วว่าผลไม้ตระกูลเบอร์รีนี่ดียังไง ทั้งสารอาหารและคุณประโยชน์นี่เพียบกันถึงขนาดว่าสามารถหยิบมารับประทานกันได้โดยไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง โดยการศึกษาล่าสุดซึ่งตีพิมพ์ในวารสารวิชาการอย่าง Annals of Neurology ก็ยังแสดงให้เห็นอีกว่า ผลไม้ตระกูลเบอร์รีนั้นสามารถช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของสมองในส่วนความทรงจำและสมาธิได้ โดยเฉพาะในกลุ่มหญิงสูงวัยที่หมดประจำเดือน
4. มะเขือเทศ
ถ้าจะหาอาหารที่มีไลโคปีนสูงก็คงต้องแนะนำมะเขือเทศเป็นอย่างแรก เพราะในมะเขือเทศมีไลโคปีนสูง ซึ่งเจ้าไลโคปีนนี้มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการถูกทำลายของเซลล์จากสารต้านอนุมูลอิสระ อันเป็นสาเหตุของโรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์
5. แบล็คเคอร์แรนท์
แบล็คเคอร์แรนท์เป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อว่ามีวิตามินซีสูง ซึ่งวิตามินซีมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระทั้งช่วยป้องกันการถูกทำลายของเซลล์จากสารอนุมูลอิสระและช่วยชะลอความแก่ชราลงได้ ดี 2 ต่อแบบนี้ต้องลองหามารับประทานกันค่ะ
สังกะสีถือเป็นธาตุอาหารที่ช่วยเสริมสร้างความจำและช่วยบำรุงสมอง เพิ่มทักษะความคิดได้ และถ้าอยากจะให้ได้สังกะสีจากอาหารอย่างเต็มที่ ก็ลองหยิบเมล็ดฟักทองมาแกะรับประทานกันค่ะ เพราะเมล็ดฟักทอง 1 กำมือ ก็ช่วยให้คุณได้รับสังกะสีเทียบเท่ากับปริมาณที่ร่างกายต้องการแล้วล่ะ ของทานเล่นที่เปี่ยมประโยชน์แบบนี้มีติดบ้านไว้ดีสุด ๆ เลย
7. บรอกโคลี
บรอกโคลี อาหารมากคุณประโยชน์ที่มีสารอาหารมากมายรวมทั้งวิตามินเค ซึ่งช่วยเพิ่มพลังให้สมองในด้านทักษะการเรียนรู้ รวมทั้งยังช่วยทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
คะน้า ผักกาด หรือแม้แต่ผักโขมล้วนเป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามินอี และโฟเลท โดยเฉพาะผักโขมสด 1 ถ้วยก็มีปริมาณวิตามินอีถึง 15 % ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน และถ้ายิ่งไปปรุงให้สุก ผักโขมสุกเพียงครึ่งถ้วยก็มีวิตามินอีสูงถึง 25 % ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวันเลยเชียว
นอกจากนี้โฟเลทในอาหารยังช่วยป้องกันอาการสมองเบลอ และช่วยลดกรดอะมิโนที่มีชื่อว่าโฮโมซีสเทอีน (Homocysteine) ซึ่งกรดนี้เป็นตัวการก่อให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือดและอัมพาตได้ หากในร่างกายมีมากเกินไป
9. อะโวคาโด
อะโวคาโดนอกจากจะมีไขมันที่ดีต่อร่างกายแล้ว ก็ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินอีอีกด้วย โดยจากการศึกษาหนึ่งพบว่าสารอาหารในอะโวคาโดอย่างวิตามินอี และวิตามินซี สามารถลดความเสียงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ค่ะ
10. เมล็ดทานตะวัน
ไม่เพียงผักและผลไม้เท่านั้น เมล็ดทานตะวันก็ยังมีวิตามินอีที่ดีต่อสมองเช่นเดียวกัน โดยเมล็ดทานตะวันเพียงประมาณ 30 กรัม ก็มีวิตามินอีถึง 30 % ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวันเช่นกัน ยิ่งถ้าหากรับประทานคู่กับผักใบเขียวในสลัดละก็ยิ่งยอดเยี่ยมไปเลย
11. ถั่วลิสงและเนยถั่ว
ถั่วลิสงและเนยถั่ว ของโปรของใครหลาย ๆ คน เป็นอาหารที่มีไขมันที่ดีต่อสุขภาพและยังอุดมไปด้วยวิตามินอีอีกด้วย โดยถั่วและเนยถั่วนี้เป็นอาหารที่ช่วยบำรุงทั้งสมองและหัวใจ มีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์น้อย ทำให้ความเสียงโรคหัวใจลดลงได้ แต่ถ้าคุณแพ้ถั่วลิสงหรือไม่ชอบรับประทานละก็ เปลี่ยนไปรับประทานอัลมอนด์ หรือถั่วฮัทเซลนัทก็ได้ประโยชน์ไม่แพ้กันค่ะ
12. ไวน์แดง
การศึกษาแสดงให้เห็นว่าคนที่ดื่มไวน์แดงในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ได้ ทั้งนี้ปริมาณที่พอเหมาะก็คือวันละ 1 แก้ว เพราะถ้ามากเกินไปจนเมา อาจจะทำให้เซลล์สมองถูกทำลาย กลายเป็นผลเสียแทนนะคะ
ถ้าจะนับอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ คงจะต้องนับรวมเจ้าดาร์กช็อกโกแลตนี้เข้าไปด้วย เพราะไม่เพียงแต่สารฟลาโวนอยด์ในช็อกโกแลตที่ช่วยทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีเท่านั้น แต่ยังช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลและระดับความดันโลหิตได้อีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น คาเฟอีนเพียงเล็กน้อยในดาร์กช็อกโกแลตก็ยังช่วยเสริมสร้างสมองได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน
ผงกะหรี่ เครื่องเทศที่มีสรรพคุณช่วยต่อสู้กับอาการอักเสบนี้ มีการศึกษาในสัตว์พบว่า ส่วนผสมเคอร์คูมินในผงกะหรี่ สามารถช่วยขจัดโปรตีนที่มีชื่อว่าเบต้าอะมีลอยด์ (Beta-Amyloid) อันเป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์ได้ แค่เพียงโรยผงกะหรี่ลงในอาหาร ก็จะได้ประโยชน์กันไปเต็ม ๆ แถมยังช่วยเพิ่มกลิ่นหอมในอาหารได้อีกด้วย
15. กาแฟ
แม้ว่าเราจะได้ยินกันมานานว่าการดื่มกาแฟอาจจะส่งผลเสียต่อสมอง แต่ถ้าหากเราดื่มในปริมาณที่พอเหมาะก็สามารถช่วยให้สร้างเสริมสมาธิ, ปฏิกิริยาการตอบรับ และทักษะสมองอื่น ๆ ได้
โดยการศึกษาหนึ่งในฝรั่งเศสได้แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ที่ดื่มกาแฟวันละ 3 แก้วต่อวันจะสามารถจดจำได้ดีกว่าผู้หญิงที่ดื่มกาแฟน้อยหรือไม่ดื่มเลย นอกจากนี้ยังมีการศึกษาอื่นที่ได้ผลว่าการดื่มกาแฟสามารถช่วยลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ได้ถึง 30 %
16. ไข่
อาหารที่ทุกบ้านต้องมีติดไว้อย่างไข่ ก็เป็นอาหารที่ทุกคนสามารถรับประทานเพื่อบำรุงสมองได้ เพราะในไข่แดงอุดมไปด้วยโคลีน (Choline) และวิตามินบี ซึ่งเมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว สมองก็จะใช้โคลีนในการสร้างสารสื่อประสาทในสมองที่เกี่ยวข้องกับความจำและการสื่อสาร โดยการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบอสตันแสดงให้เห็นว่าผู้ที่รับประทานไข่และบริโภคอาหารที่มีสารโคลีนเข้าไปเป็นประจำจะสามารถทำแบบทดสอบได้ดีกว่าคนที่ไม่รับประทานค่ะ
17. วอลนัท
หนึ่งในถั่วเปลือกแข็งที่ว่ากันว่ามีประโยชน์มากมายอย่างไม่น่าเชื่อ รูปร่างที่อาจจะดูแข็ง ๆ จนแกะยาก แต่ภายในนั้นอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อหัวใจและช่วยป้องกันการอักเสบไว้เพียบ โดยเฉพาะกรดอัลฟาไลโนเลนิก (ALA) ทีมีคุณสมบัติช่วยให้สร้างเสริมระบบไหลเวียนเลือดให้ออกซิเจนสามารถถูกส่งไปยังสมองได้มากขึ้น ไม่เพียงเท่านี้ การศึกษาในปี 2010 ก็ยังแสดงให้เห็นอีกว่าเมื่อทดลองกับหนู โดยให้หนูกินวอลนัท ก็พบว่าความจำ รวมทั้งการเรียนรู้ของสมองยังดีขึ้นอีกด้วย
18. น้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอกถือเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพและมักถูกนำมาปรุงอาหารเพื่อสุขภาพมากมาย ซึ่งไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่อยู่ในน้ำมันมะกอกนั้นก็ช่วยชะลอความการเสื่อมสภาพของสมองตามวัยได้
19. กระเทียม
กระเทียมที่ว่าฉุน ๆ จนหลาย ๆ คนไม่ชอบนั้น มีการศึกษาออกมายืนยันแล้วล่ะค่ะว่าสามารถป้องกันการเกิดโรงมะเร็งในสมองได้ โดยการศึกษานี้ถูกตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ของสมาคมมะเร็งอเมริกัน ซึ่งพบว่าสารออร์กาโนซัลเฟอร์ (Organo-sulfur) ที่อยู่กระเทียม สามารถทำลายเซลล์กลีโอบลาสโทมา ซึ่งเป็นเซลล์ร้ายในก้อนเนื้อมะเร็งค่ะ
20. น้ำเปล่า
น้ำเปล่า เป็นเครื่องดื่มที่ดีที่สุดต่อร่างกาย เพราะเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายจำเป็นต้องใช้น้ำ แถม 3 ใน 4 ของสมองคนเราก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบอีกด้วย ดังนั้นเราจึงขาดน้ำไม่ได้เลย
ทั้งนี้มีการศึกษาหนึ่งจากมหาวิทยาลัยในรัฐโอไฮโอพบว่า คนที่ดื่มน้ำอย่างเพียงพอสามารถทำแบบทดสอบได้ดีกว่าคนที่ดื่มน้ำน้อย แค่เพียงดื่มน้ำให้ได้วันละ 6-8 แก้วเท่านั้นก็ช่วยให้คุณเห็นความเปลี่ยนแปลงของสมองแล้วล่ะค่ะ
มองข้ามไปไม่ได้เลยกับประโยชน์ดี ๆ ของอาหารบำรุงสมองเหล่านี้ ที่สามารถหารับประทานได้ง่ายสุด ๆ ในเมื่อทราบกันแบบนี้แล้วก็ได้เวลาที่จะต้องออกจากบ้านไปหาซื้อมาเก็บเอาไว้ในบ้านบ้างแล้ว บำรุงกันวันละนิดละหน่อย แก่ตัวลงจะได้ไม่มีโรคอัลไซเมอร์มาเยือนให้หนักใจ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
prevention.com, bbcgoodfood.com, health.com, huffingtonpost.com, Reader\'s Digest
18. น้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอกถือเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพและมักถูกนำมาปรุงอาหารเพื่อสุขภาพมากมาย ซึ่งไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่อยู่ในน้ำมันมะกอกนั้นก็ช่วยชะลอความการเสื่อมสภาพของสมองตามวัยได้
กระเทียมที่ว่าฉุน ๆ จนหลาย ๆ คนไม่ชอบนั้น มีการศึกษาออกมายืนยันแล้วล่ะค่ะว่าสามารถป้องกันการเกิดโรงมะเร็งในสมองได้ โดยการศึกษานี้ถูกตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ของสมาคมมะเร็งอเมริกัน ซึ่งพบว่าสารออร์กาโนซัลเฟอร์ (Organo-sulfur) ที่อยู่กระเทียม สามารถทำลายเซลล์กลีโอบลาสโทมา ซึ่งเป็นเซลล์ร้ายในก้อนเนื้อมะเร็งค่ะ
น้ำเปล่า เป็นเครื่องดื่มที่ดีที่สุดต่อร่างกาย เพราะเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายจำเป็นต้องใช้น้ำ แถม 3 ใน 4 ของสมองคนเราก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบอีกด้วย ดังนั้นเราจึงขาดน้ำไม่ได้เลย
ทั้งนี้มีการศึกษาหนึ่งจากมหาวิทยาลัยในรัฐโอไฮโอพบว่า คนที่ดื่มน้ำอย่างเพียงพอสามารถทำแบบทดสอบได้ดีกว่าคนที่ดื่มน้ำน้อย แค่เพียงดื่มน้ำให้ได้วันละ 6-8 แก้วเท่านั้นก็ช่วยให้คุณเห็นความเปลี่ยนแปลงของสมองแล้วล่ะค่ะ
มองข้ามไปไม่ได้เลยกับประโยชน์ดี ๆ ของอาหารบำรุงสมองเหล่านี้ ที่สามารถหารับประทานได้ง่ายสุด ๆ ในเมื่อทราบกันแบบนี้แล้วก็ได้เวลาที่จะต้องออกจากบ้านไปหาซื้อมาเก็บเอาไว้ในบ้านบ้างแล้ว บำรุงกันวันละนิดละหน่อย แก่ตัวลงจะได้ไม่มีโรคอัลไซเมอร์มาเยือนให้หนักใจ
prevention.com, bbcgoodfood.com, health.com, huffingtonpost.com, Reader\'s Digest