ไวรัสเมอร์ส อาการแบบนี้ต้องสงสัย ป่วยแล้วรีบไปโรงพยาบาล



ไวรัสเมอร์ส

           ไวรัสเมอร์ส อาการแสดงของโรคมีอะไรบ้าง ที่ทำให้เราต้องฉุกคิดว่าอาจจะป่วย พร้อมวิธีป้องกันเบื้องต้น ก่อนโรคไวรัสเมอร์สจะคร่าชีวิต

          ไวรัสเมอร์สดูเป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิดเมื่อพบผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศไทยแล้ว แม้กระทรวงสาธารณสุขจะออกมายืนยันว่าไม่ใช่เรื่องน่าตื่นตระหนก เพราะพบผู้ป่วยได้เร็วและขณะนี้ยังไม่มีการระบาดในประเทศไทย แต่เราทุกคนจะเพิกเฉยเรื่องนี้ไม่ได้ ต้องรู้ว่า ไวรัสเมอร์ส คืออะไร โดยเฉพาะอาการที่ต้องสงสัยเข้าข่ายไวรัสเมอร์ส เพราะหากพบเจอขึ้นมาจะได้รักษาทัน



ไวรัสเมอร์ส อาการเด่น ๆ มีอะไรบ้าง

          //img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 1. มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดทั่วไป หรือไข้หวัดใหญ่

          //img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 2. มีไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส

          //img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 3. มีอาการไอ หอบ หายใจลำบากตามความรุนแรงของภาวะขาดออกซิเจน

          //img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 4. ผู้ป่วยประมาณ 30-40% จะมีอาการท้องเสีย มวนท้อง คลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย ซึ่งเป็นอาการเด่นชัดที่แตกต่างจากไข้หวัดธรรมดา

          //img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 5. มีอาการปอดบวม

          หากใครมีอาการในลักษณะนี้มากกว่า 2 ข้อขึ้นไป และมีประวัติเดินทางมาจากประเทศในตะวันออกกลาง หรือเคยสัมผัส อยู่ใกล้ชิดกับคนที่เดินทางมาจากตะวันออกกลาง ขอให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที เพราะโรงพยาบาลมีเครื่องมือในการตรวจสอบได้ดีกว่าคลินิก ซึ่งถ้าใครไปช้าจนมีอาการรุนแรงแล้ว อาจเสียชีวิตได้จากอาการปอดอักเสบรุนแรง หรือไตวาย
 
ไวรัสเมอร์ส

ไวรัสเมอร์ส ป้องกันเบื้องต้นอย่างไรดี

          การป้องกันไวรัสเมอร์สก็ไม่ต่างจากอาการไข้หวัดทั่วไป นั่นก็คือการดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรง และมีสุขอนามัยที่ดี อย่างเช่น
 
          //img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 1. ล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดบ่อย ๆ หากไม่มีสบู่สามารถใช้เจลล้างมือได้

          //img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 2. หากมีอาการไอหรือจาม ให้ใช้ทิชชูหรือผ้า ปิดจมูกและปาก จากนั้นนำทิชชูทิ้งขยะ

          //img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 3. หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสดวงตา จมูก และปาก หากยังไม่ได้ล้างมือ

          //img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 4. หลีกเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์ อาทิ จูบ หรือการมีสัมพันธ์ร่วมกันกับคนที่มีอาการป่วย

          //img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 5. ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคบริเวณที่ต้องมีการสัมผัสบ่อย ๆ เช่น ประตู หรือโทรศัพท์

          //img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 6. ทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ และใช้ช้อนกลาง

          //img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 7. สวมหน้ากากอนามัยหากต้องไปสถานที่ที่ผู้คนจำนวนมาก

          //img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 8. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รักษาสุขภาพให้แข็งแรง

          //img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 9. ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วยไข้หวัด หรือมีอาการปอดบวม

          //img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 10. หากมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาดของโรค ควรดูแลสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่เลี้ยงสัตว์ต่าง ๆ เช่น ฟาร์ม ตลาด เป็นต้น

          //img.kapook.com/image/icon/48be2683.gif 11. หากเดินทางกลับจากประเทศแล้วมีอาการไข้และไอเกิน 2 วัน ขอให้รีบเดินทางมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที และแจ้งประวัติการเดินทางต่อแพทย์ด้วย


          อย่าเพิ่งตื่นตระหนกกับโรคไวรัสเมอร์ส แม้จะเป็นโรคที่ยังไม่มียาต้านไวรัสจำเพาะต่อเชื้อนี้ในการรักษา แต่ถ้าหากป่วยแล้วรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว ก็สามารถรักษาตามอาการแบบประคับประคองจนกว่าการอักเสบในระบบทางเดินหายใจจะลดน้อยลงจนหายเป็นปกติได้






อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล











เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ไวรัสเมอร์ส อาการแบบนี้ต้องสงสัย ป่วยแล้วรีบไปโรงพยาบาล อัปเดตล่าสุด 20 มิถุนายน 2558 เวลา 08:24:38 49,086 อ่าน
TOP
x close