อาหารเพื่อสุขภาพในหมวดนี้ไม่น่าจะมีชีสรวมอยู่ด้วย ทว่าชีสก็มีประโยชน์ของตัวเองเหมือนกัน อ๊ะ ๆ ชีสเลิฟเว่อร์คงอยากรู้ประโยชน์ของชีสแล้วสินะ
นึกถึงชีสขึ้นมาก็อยากจะกินชีสซะเดี๋ยวนั้น หลายคนคงมีอาการคล้าย ๆ กันใช่ไหมคะ แต่ก็ไม่แปลกหรอกค่ะ เพราะชีสมีรสชาติเข้มข้น หอม มัน ใคร ๆ จึงต่างสมัครเป็นชีสเลิฟเว่อร์จนหมดใจ และวันนี้เราอาจจะเลิฟชีสมากขึ้นกว่าเก่า เพราะชีสก็มีประโยชน์พอตัวเหมือนกัน ดังนี้เลย
1. สารอาหารเทียบเท่านม และปลอดภัยต่อผู้แพ้แลคโตส
สารอาหารที่มีอยู่ในชีสอัดแน่นไปด้วยโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี วิตามินบี 12 เทียบเท่าสารอาหารที่มีอยู่ในนม ทว่าน้ำตาลแลคโตสของชีสจะมีระดับต่ำกว่านม ดังนั้นคนที่มีอาการแพ้น้ำตาลแลคโตสในนมจึงสามารถรับสารอาหารที่มีอยู่ในชีสแทนนมได้สบาย ๆ
2. เสริมสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อ
ชีสเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับเด็กวัยกำลังเจริญเติบโต ซึ่งเป็นวัยที่ต้องการอาหารที่ให้พลังงานสูง มีสารอาหารแน่น ๆ เหมือนอย่างที่ชีสมี โดยเฉพาะแคลเซียมและโปรตีน ซึ่งมีส่วนสำคัญกับการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก ฟัน และกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ
3. ปลุกพลังงานในร่างกาย
ไขมันอิ่มตัวที่มีอยู่ในชีสได้รับการยืนยันจาก Harvard School of Public Health แล้วว่า มีส่วนช่วยปลุกความตื่นตัวและให้พลังงานกับร่างกายได้เป็นอย่างดี
ทว่าการรับประทานไขมันอิ่มตัวจากชีสก็ควรต้องจำกัดปริมาณกันสักหน่อย เนื่องจากหากรับประทานไขมันอิ่มตัวมากจนเกินไปอาจเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ ความดัน และโรคอ้วนได้ง่าย ๆ ซึ่งประเด็นนี้ทาง Harvard School of Public Health ก็แนะนำว่า หากรับประทานชีสแค่พอหอมปากหอมคอทุกวัน แทนขนมขบเคี้ยวอย่างคุกกี้ หรือขนมแคลอรีสูงอื่น ๆ ชีสจะช่วยให้ความอยากอาหารขยะลดลงได้ด้วยนะ เพราะแค่ฟินกับความมันของชีสก็คงไม่อยากกินอาหารรสเลี่ยนอื่น ๆ อีกแล้วล่ะเนอะ
4. เสริมแคลเซียมด้วยชีสได้ง่าย ๆ
ปกติร่างกายควรได้รับแคลเซียมประมาณ 1,000-1,300 มิลลิกรัมต่อวัน และชีสก็สามารถเติมเต็มความต้องการแคลเซียมของร่างกายได้ดีพอสมควร โดยบรีชีสเพียง 2 ออนซ์ก็มีปริมาณแคลเซียมอยู่ที่ 308 มิลลิกรัม เชดดาร์ชีสไขมันต่ำ 2 ออนซ์ให้แคลเซียม 478 มิลลิกรัม สวิสชีส 2 ออนซ์ให้แคลเซียม 570 มิลลิกรัม ในขณะที่พาเมซานชีสให้แคลเซียมสูงถึง 684 มิลลิกรัม ต่อขนาด 2 ออนซ์เลยทีเดียว
5. วิตามินและแร่ธาตุสูง แถมเป็นมิตรกับแบคทีเรียชนิดดี
ระบบการย่อยของเราต้องการแบคทีเรียชนิดดีที่อยู่ในช่องท้อง ซึ่งชีสมีคุณสมบัติเป็นมิตรกับแบคทีเรียเหล่านี้ เนื่องจากชีสอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินหลากหลายชนิด จึงช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตแบคทีเรียที่ดีกับระบบย่อยอาหารได้มากขึ้น และเมื่อระบบย่อยอาหารไร้ปัญหา ระบบเผาผลาญก็จะทำงานสะดวกโยธิน การไหลเวียนเลือดก็คล่องตัวตามไปด้วยสวย ๆ
ประโยชน์ของชีสที่นอกจากความอร่อยแล้วก็ยังดีต่อสุขภาพอย่างที่เราเพิ่งบอกกันไปนี่ล่ะค่ะ แต่ก็อย่าลืมนะว่าชีสมีไขมันอิ่มตัวอยู่ด้วย ดังนั้นกินชีสเยอะ ๆ ก็ใช่ว่าจะดีหรอกนะ เสี่ยงทั้งคอเลสเตอรอล โรคหัวใจ โรคความดัน โรคอ้วน และไขมันอุดตัน ดังนั้นพยายามเลือกรับประทานแต่ชีสไขมันต่ำ ซึ่งจะมีคอเลสเตอรอลต่ำไปด้วย อีกทั้งอดใจกินชีสแค่พอกรุบกริบดีกว่านะคะ ไม่อย่างนั้นหากกินเพลินมีหวังอ้วนและเสี่ยงต่อโรคแแน่ ๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Healthy Eating
LIVESTRONG