
อ้วนเพราะฮอร์โมน ! สำหรับสาวที่อ้วนด้วยฮอร์โมน วันนี้จะมาบอกสูตรฟิตหุ่นให้กลับมาสวยเพรียวได้ชนิดที่ไม่แคร์ฮอร์โมนหน้าไหนทั้งนั้น !
นึกแล้วก็เจ็บใจชะมัด เพราะไม่ทันได้กินอะไรร่างกายก็อ้วน แถมมีไขมันสะสมตามแขน ขา พุง เพราะเจ้าฮอร์โมนพาอ้วนตัวร้าย วันนี้นิตยสาร Lisa เลยขอแชร์ข้อมูลดี ๆ ให้กับสาว ๆ ที่ไม่ได้อ้วน แต่กลับมีไขมันสะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เรามีข้ออ้างให้ไขมันดังกล่าวอย่างหน้าท้อง สะโพก และต้นขาแล้วล่ะ
เพราะมีผลการวิจัยพบว่า การที่ฮอร์โมนไม่สมดุลมีส่วนทำให้ไขมันไปคั่งอยู่ตามบริเวณที่คุณผู้หญิงไม่พึงประสงค์ ยิ่งอายุมากขึ้นก็มีโอกาสที่ฮอร์โมนบางส่วนจะลดหรือเพิ่มขึ้น จากไม่เคยมีหน้าท้องหรือสะโพกเล็กเสมอ ก็กลับกลายเป็นมีสัดส่วนบิ๊กบึ้มภายในเวลาไม่กี่ปี
โชคดีนะที่เรามีทางออกให้คุณ เพียงแค่เปลี่ยนการกินและไลฟ์สไตล์เท่านั้น



ต่อมไทรอยด์อยู่บริเวณลำคอ มีหน้าที่ควบคุมการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย การที่ไทรอยด์ทำงานน้อยจะทำให้ร่างกายมีการสะสมไขมันในทุกส่วน แต่สำหรับผู้หญิงจะพบไขมันสะสมเป็นเนื้อปลิ้นบริเวณรอบชุดชั้นใน






หน้าที่ของอินซูลินคือย้ายกลูโคสจากกระแสเลือดเอาไปเก็บไว้ใช้งานต่อไปในเซลล์ร่างกาย กลูโคสที่เหลือคั่งค้างจะกลายเป็นไกลโคเจนในเซลล์ ซึ่งระดับอินซูลินจะเพิ่มขึ้นตามอายุ โดยเฉพาะเมื่อคุณกินแป้ง การมีอินซูลินในระดับสูงนอกจากทำให้คุณมีเนื้อปลิ้นรอบเอวแล้ว ยังทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานประเภท 2 ได้อีกด้วย






ฮอร์โมนชนิดนี้เพิ่มสูงขึ้นเวลาคุณเครียด และจะปล่อยน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้น้ำตาลสูงขึ้นด้วย และน้ำตาลที่ร่างกายกำจัดไม่หมดเพราะวัน ๆ เราต้องนั่งจัดการกับงานหรือรถติดหลายชั่วโมง ทำให้เกิดการสะสมของน้ำตาลบริเวณท้อง ซึ่งเป็นส่วนที่สะสมได้ง่ายที่สุด
นอกจากนี้เวลาคุณเครียดก็เป็นไปได้ว่าจะหาอะไรหวาน ๆ มากินเพื่อช่วยคลายเครียด จึงยิ่งทำให้น้ำตาลสะสมมากขึ้น







"ฮอร์โมนเพศหญิงทำให้ไขมันสะสมตรงก้นและต้นขา ยิ่งหากมีลูกอาจยิ่งมีขนาดใหญ่ได้ แต่ในผู้หญิงบางคนก็มีฮอร์โมนนี้เยอะเกินไป สังเกตได้จากประจำเดือนมาเยอะมาก หรือมีหน้าอกใหญ่มาก เป็นต้น" Max Tomlinson เจ้าของหนังสือ Target Your Fat Spots กล่าว



ทางที่ดีคือกินอาหารที่มีโพรไบโอติกส์อย่างโยเกิร์ตให้มากขึ้น เพราะโยเกิร์ตมีเชื้อจุลินทรีย์ซึ่งจะช่วยสร้างสมดุลของแบคทีเรียชนิดเป็นมิตรต่อลำไส้ ช่วยกระตุ้นให้ระบบย่อยทำงานดีขึ้น ขณะเดียวกันการกินไฟเบอร์เพิ่มก็ช่วยได้เช่นกัน




"ฮอร์โมนชนิดนี้ไม่ได้มีอยู่ในผู้ชายเท่านั้น ผู้หญิงก็มีอยู่นิดหน่อย โดยผลิตจากต่อมหมวกไตและรังไข่ ซึ่งจะช่วยสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ กระดูก การทำงานของสมอง และความต้องการทางเพศ ทว่าหากคุณมีเทสโทสเทอโรนน้อยเกินไปก็เป็นไปได้ว่าจะมีท้องแขนที่หย่อนยานได้ ซึ่งการที่ผู้ชายไม่มีปีกใต้แขนเพราะเขามีเทสโทสเทอโรนอยู่เยอะนั่นเอง" Max Tomlinson เจ้าของหนังสือ Target Your Fat Spots กล่าว
นอกจากนี้เขายังเสริมด้วยว่า "หลังอายุ 40 เป็นต้นไป ฮอร์โมนนี้จะเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียวจากช่วงอายุ 20 ทำให้ต้นแขนหย่อนยานอย่างหนัก แถมยังรู้สึกเหนื่อยง่ายและความต้องการทางเพศลดลงด้วย"




เจอวิธีลดน้ำหนักที่ตอบโจทย์แบบนี้เข้าไป เชื่อได้เลยว่าเจ้าฮอร์โมนพาอ้วนทั้งหลายต้องยกธงขาวและทำตัวสงบเสงี่ยมอยู่เงียบ ๆ ในร่างกายเรา ปล่อยให้เราเฉิดฉายหุ่นเป๊ะสวย ๆ ไปอย่างแน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
