ลิ้นเป็นฝ้า ลิ้นเป็นแผล ลิ้นแตก ลิ้นบวม อาการเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร รู้หรือไม่ว่าลิ้นบอกโรคได้
ลิ้นเลี่ยน (ลิ้นเรียบผิดปกติ)
ภาพจาก doctoroz.com
ปกติแล้วลิ้นของคนเราจะมีลักษณะตะปุ่มตะป่ำเพราะมีตุ่มรับรสกระจายอยู่ทั่ว
แต่ถ้าหากลิ้นของคุณเริ่มมีลักษณะเรียบผิดปกติ หรือที่เรียกว่าลิ้นเลี่ยน
นั่นแปลว่าคุณกำลังเกิดภาวะร่างกายขาดธาตุเหล็ก วิตามินบี 12 กรดโฟลิก
ที่ทำให้เกิดอาการอักเสบจนตุ่มรับรสตายและหลุดลอกไปจนผิวลิ้นเรียบแล้วล่ะค่ะ
ทั้งนี้อาการดังกล่าวก็ไม่ได้เกิดจากการขาดสารอาหารเพียงอย่างเดียวแต่ยังอาจเกิดจากการติดเชื้อยีสต์ในช่องปากได้ด้วยเช่นกัน
โดยนอกจากอาการลิ้นเลี่ยนแล้ว
ก็ยังอาจมีอาการแสบร้อนที่ลิ้นขณะที่รับประทานอาหารที่เป็นกรดหรือมีรสชาติเค็มร่วมด้วย
ฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดก่อนจะดีกว่าค่ะ
ลิ้นเป็นสีแดงสดลักษณะคล้ายผลสตรอว์เบอร์รี
หากลิ้นของคุณที่เคยปกติเปลี่ยนเป็นสีแดงสดโดยไม่มีสาเหตุ
แปลว่าคุณกำลังขาดวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินบี 12 และธาตุเหล็ก
เพราะแร่ธาตุทั้ง 2 ชนิดนี้มีความสำคัญกับตุ่มรับรสบนลิ้นเป็นอย่างมาก
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่รับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุทั้ง 2 ชนิดอยู่เป็นประจำ
ทว่าก็ยังมีอาการดังกล่าว
คุณควรไปพบแพทย์เพราะนี่อาจจะเป็นสัญญาณที่เกี่ยวข้องกับโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองซึ่งเข้าไปทำให้ร่างกายของคุณไม่สามารถดูดซึมวิตามินทั้ง
2 ชนิดได้
ลิ้นเป็นสีดำ หรือมีขนขึ้นที่ลิ้น
ภาพจาก doctoroz.com
แม้ลิ้นจะเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลาแต่ก็ใช่ว่าไม่สามารถมีขนขึ้นได้
และถ้าลิ้นของคุณมีขนอ่อน ๆ เกิดขึ้น
บอกได้เลยว่านั่นคือสัญญาณของปัญหาของสุขภาพช่องปากที่ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพหัวใจ
คุณอาจจะกำลังมีความเสี่ยงสูงที่่จะเป็นโรคหัวใจ
นอกจากนี้การที่ลิ้นของคุณเปลี่ยนสีเป็นสีดำ
ก็อาจจะเป็นสัญญาณของการติดเชื้อราที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันอันเนื่องมาจากโรคบางชนิด
อย่างเช่น โรคเบาหวาน ได้เช่นกัน
ลิ้นบวม
ภาพจาก medicalpoint.org
ถ้าวันดีคืนดีคุณเริ่มคิดว่าลิ้นของคุณดูใหญ่ขึ้นหรือรู้สึกว่าลิ้นของคุณกำลังบวมโดยไม่มีสาเหตุ
ก็ขอให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าคุณอาจจะกำลังเป็นโรคไทรอยด์ชนิดขาดฮอร์โมนไทรอยด์
(Hypothyroidism) ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถผลิตฮอร์โมนได้เพียงพอ
ทำให้ระบบเผาผลาญของคุณทำงานลดลงจนทำให้ไม่มีแรง
ดังนั้นหากพบว่าลิ้นบวมผิดปกติควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจดีกว่าปล่อยทิ้งไว้
ลิ้นแตก
หากลิ้นของคุณเริ่มเกิดรอยแตก โดยที่ไม่มีเลือดไหลออกมา
ก็อย่าเพิ่งวิตกกังวลไป เพราะนั่นเป็นอาการที่เกิดขึ้นตามวัย
ยิ่งถ้ามีอายุมากก็จะยิ่งพบได้ง่าย
จึงไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะเป็นสัญญาณของอาการป่วยใด ๆ แต่ก็ใช่ว่าจะละเลยได้
คุณควรจะเอาใจใส่สุขภาพช่องปากให้มากขึ้นเนื่องจากเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรียนั้นอาจจะเข้าไปอยู่ตามรอยแตกของลิ้นได้
ควรแปรงฟันและลิ้นให้สะอาด ดื่มน้ำให้เพียงพอ
และหมั่นไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากอย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือนค่ะ
ลิ้นลายแผนที่
ลิ้นลายแผนที่คืออาการที่ลิ้นมีส่วนที่ขรุขระและส่วนที่เรียบสลับกันไปมาจนคล้ายกับแผนที่
มีสาเหตุจากการสูญเสียตุ่มรับรสจากอาการต่าง ๆ เช่น
การรับประทานของร้อนมาก ๆ หรืออาหารรสจัดเกินไป
ส่วนใหญ่แล้วอาการเหล่านี้จะหายไปได้เอง
แต่ต้องใช้เวลาหลายเดือนจนถึงเป็นปี ๆ
โดยอาการที่อาจจะพบได้หากมีลิ้นลักษณะแบบนี้ก็คือ
ลิ้นอาจจะมีความไวต่อการรับรสเมื่อรับประทานอาหารบางชนิด เช่น อาหารร้อน ๆ
อาหารที่มีรสเผ็ด เค็ม หรืออาหารที่เป็นกรดค่ะ
มีแผลร้อนใน
ภาพจาก doctoroz.com
แผลร้อนในภายในช่องปากเป็นสิ่งที่เราพบได้เป็นปกติ
แต่รู้หรือไม่ว่าแผลร้อนในเหล่านี้มีสาเหตุการเกิดอยู่หลายอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นการเผลอกัดลิ้นตัวเอง หรือการไวต่ออาหารของตุ่มรับรส
การขาดวิตามิน หรือการติดเชื้อ
นอกจากนี้โรคลำไส้อักเสบก็ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดแผลร้อนในที่ลิ้นได้อีกด้วย
โดยส่วนใหญ่แล้วแผลร้อนในเหล่านี้จะหายไปได้เองภายในเวลา 10-14 วัน
และไม่ทิ้งร่องรอยของแผลไว้
ซึ่งถ้าหากอยากจะให้หายเร็วขึ้นก็สามารถใช้ยาทาช่วยได้ หรือจะดื่มน้ำมาก ๆ
ก็ทำให้แผลร้อนในหายไวขึ้นได้เหมือนกัน
ลิ้นเป็นฝ้า
ริ้วขาวข้างลิ้น หรือลิ้นเป็นฝ้า เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทำให้หลายคนเป็นกังวลอยู่บ่อย ๆ ซึ่งฝ้าที่ขึ้นบนลิ้นก็เกิดได้จากหลายสาเหตุ
ไม่ว่าจะเนื่องมาจากเชื้อราในช่องปาก โดยสาเหตุนี้มักจะเกิดกับเด็กทารก
ผู้สูงอายุ และผู้ที่ต้องใช้อุปกรณ์ทางทันตกรรม
ไม่ว่าจะเป็นฟันปลอมหรืออุปกรณ์จัดฟัน
สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการใช้ยาและน้ำยาบ้วนปาก ส่วนสาเหตุอื่นก็ได้แก่
การที่เซลล์เยื่อเมือกในปากเจริญเติบโตมากผิดปกติ พบได้ในคนที่สูบบุหรี่จัด
แม้ไม่เป็นอันตราย
แต่ถ้าหากเกิดขึ้นในคนที่สูบบุหรี่เป็นประจำก็อาจจะก่อให้เกิดมะเร็งช่องปากในอนาคตได้
อย่างไรก็ตาม ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV หรือโรคเอดส์ อาการริ้วขาวข้างลิ้น ก็เป็นหนึ่งในโรคติดเชื้อฉวยโอกาสที่พบได้บ่อย
มีติ่งเนื้อเล็ก ๆ ขึ้นที่ขอบลิ้น
ภาพจาก doctoroz.com
หากคุณสังเกตว่ามีติ่งเนื้อเล็ก ๆ เกิดขึ้น โดยที่ไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ
ร่วมด้วย เช่น ตุ่มน้ำใส ๆ หรือฝ้าบนลิ้นที่ดูผิดปกติ
นั่นอาจจะเป็นติ่งเนื้อที่เกิดขึ้นจากการที่เนื้อเยื่อเจริญเติบโตมากเกินไปจนทำให้กลายเป็นติ่งเนื้อ
ซึ่งไม่เป็นอันตราย
โดยส่วนใหญ่แล้วติ่งเนื้อเหล่านี้กว่าจะสังเกตเห็นได้ก็นับปี
แต่ถ้าหากเกิดติ่งเนื้อขึ้นอย่างรวดเร็ว
ก็ควรไปตรวจว่าติ่งเนื้อเป็นอันตรายหรือไม่จะดีกว่า
เห็นไหมคะว่าลิ้นบอกโรคได้มากมายขนาดไหน ดังนั้นจึงควรดูแลสุขภาพช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อที่เราจะได้สังเกตเห็นความผิดปกติที่ลิ้นได้ชัดเจนขึ้น และถ้าพบความผิดปกติเหล่านี้แล้วไม่มั่นใจก็อย่ามัวแต่เก็บเงียบไว้ ไปตรวจเพื่อความแน่ใจจะดีกว่านะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
rd.com
clevelandclinic.org
doctoroz.com
womenshealthmag.com
เราทุกคนต่างรู้ถึงความสำคัญของลิ้นกันเป็นอย่างดี
นอกจากจะเป็นอวัยวะที่ว่ากันว่าแข็งแรงที่สุดในร่างกายเพราะลิ้นประกอบด้วยกล้ามเนื้อมัดใหญ่กว่า
60 มัดรวมกันแล้ว ก็ยังทำหน้าที่รับรู้รสชาติอาหารที่เรากินเข้าไป
และช่วยในการออกเสียงพูด
แต่รู้กันหรือไม่ว่าลิ้นของเราก็สามารถบ่งบอกโรคได้อีกด้วย
อย่างที่เราจะมาเรียนรู้กันวันนี้ กับความผิดปกติของลิ้นที่ไม่ควรมองข้าม
เพราะนี่ล่ะคือสัญญาณของการเจ็บป่วยหรือโรคบางชนิดที่ควรรีบรับการรักษาก่อนที่จะสายเกินแก้
แต่ลิ้นของเราจะบ่งบอกสัญญาณสุขภาพอะไร และจะแสดงออกมาอย่างไร
มาเช็กกันเลยค่ะ
ลิ้นเป็นสีแดงสดลักษณะคล้ายผลสตรอว์เบอร์รี
ลิ้นเป็นสีดำ หรือมีขนขึ้นที่ลิ้น
ลิ้นบวม
ลิ้นแตก
ลิ้นลายแผนที่
มีแผลร้อนใน
ลิ้นเป็นฝ้า
อย่างไรก็ตาม ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV หรือโรคเอดส์ อาการริ้วขาวข้างลิ้น ก็เป็นหนึ่งในโรคติดเชื้อฉวยโอกาสที่พบได้บ่อย
มีติ่งเนื้อเล็ก ๆ ขึ้นที่ขอบลิ้น
เห็นไหมคะว่าลิ้นบอกโรคได้มากมายขนาดไหน ดังนั้นจึงควรดูแลสุขภาพช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อที่เราจะได้สังเกตเห็นความผิดปกติที่ลิ้นได้ชัดเจนขึ้น และถ้าพบความผิดปกติเหล่านี้แล้วไม่มั่นใจก็อย่ามัวแต่เก็บเงียบไว้ ไปตรวจเพื่อความแน่ใจจะดีกว่านะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
rd.com
clevelandclinic.org
doctoroz.com
womenshealthmag.com