วิธีดับกลิ่นปากแบบเร่งด่วน ในสถานการณ์คับขัน ไม่อยากให้กลิ่นปากลดความมั่นใจ วิธีนี้ล่ะใช่สำหรับคุณ
กลิ่นปากเป็นอีกเรื่องที่เราต้องให้ความใส่ใจกันมากเป็นพิเศษ
เพราะคงไม่อยากให้คนที่เราคุยด้วยต้องเบือนหน้าหนีด้วยกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ที่ออกมาจากปากของเรากันหรอกใช่ไหมคะ
แต่ก็ต้องยอมรับว่าเราไม่สามารถเอาใจใส่กลิ่นปากกันได้ตลอดเวลา
ยิ่งถ้าเราต้องออกไปข้างนอก
จะให้ไปแปรงฟันหรือบ้วนน้ำยาบ้วนปากใหม่อีกรอบก็คงจะไม่สะดวก
วันนี้เราขอนำเสนอวิธีดับกลิ่นปากแบบเร่งด่วน
ที่ช่วยบรรเทาปัญหากลิ่นปากได้แม้อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย
ตัวช่วยดี ๆ เพื่อเสริมความมั่นใจให้คุณค่ะ
1. เลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
2. ดื่มน้ำเปล่า
ในเมื่อเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถแปรงฟันหรือบ้วนปากได้ อย่าเพิ่งสิ้นหวังค่ะ เพราะการดื่มน้ำเปล่าจะช่วยชะล้างเศษอาหาร รวมทั้งเชื้อแบคทีเรียบางส่วนให้ลงไปในกระเพาะอาหาร ทำให้กลิ่นปากลดลง จะเป็นน้ำอุ่น หรือน้ำเย็นก็ได้ตามสะดวก หยิบมาดื่มสักแก้ว รับรองว่ากลิ่นปากลดลงแน่นอน
3. ดื่มชา
หากคุณกำลังอยู่ในที่ประชุม และคุณจำเป็นที่จะต้องพูดต่อหน้าคนมาก ๆ แต่ก็รู้สึกว่ากลิ่นปากยังไม่โอเคเท่าไร ลองหันมาดื่มชาดูค่ะ ชาร้อน ๆ นอกจากจะสามารถช่วยให้ผ่อนคลายแล้วก็ยังช่วยขจัดเชื้อแบคทีเรียได้ด้วย เพราะในใบชาโดยเฉพาะชาดำและชาเขียว มีสารโพลีฟีนอลที่มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย แต่ขอย้ำนะคะว่าวิธีนี้ใช้ไม่ได้กับชาเขียวบรรจุขวดที่มีวางขายทั่วไป เพราะชาเหล่านั้นมีน้ำตาลสูง ไม่เพียงแต่จะไม่ช่วยดับกลิ่นปาก แต่จะเพิ่มกลิ่นปากให้แทน แบบนั้นคงไม่ดีแน่ จริงไหมคะ
4. เคี้ยวหมากฝรั่ง
วิธีดับกลิ่นปากสุดเบสิกที่ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไร คนก็เลือกใช้วิธีนี้เพื่อดับกลิ่นปากกันแบบเร่งด่วน สาเหตุที่หมากฝรั่งช่วยดับกลิ่นปากได้แบบทันใจสุด ๆ ก็เป็นเพราะเมื่อเราเคี้ยวหมากฝรั่ง ภายในปากของเราก็จะหลั่งน้ำลายออกมามากขึ้น และป้องกันไม่ให้แบคทีเรียในช่องปากของเราส่งกลิ่นออกมา อีกทั้งยังช่วยขจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟันให้ออกไปได้ด้วย แต่ขอบอกไว้ก่อนนะคะว่าหมากฝรั่งที่เคี้ยว อย่าเคี้ยวนานเกิน 20 นาที เพราะนอกจากรสชาติจะหมดไปแล้ว บรรดาเศษอาหารและเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในหมากฝรั่งอาจจะกลายเป็นตัวการเกิดกลิ่นปากแทน
5. ดื่มกาแฟ
ใครที่ไม่ชอบดื่มชา จะเลือกดื่มกาแฟเพื่อดับกลิ่นปากแบบเร่งด่วนก็ไม่ผิดนะคะ เพราะมีการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Tel Aviv พบว่าการดื่มกาแฟดำ สามารถช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในช่องปากและลดปัญหากลิ่นปากได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องระมัดระวังผลข้างเคียงด้วย เนื่องจากกาแฟอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ซึ่งก่อให้เกิดกลิ่นปากได้เช่นกัน
6. ดื่มนมสักแก้ว
สำหรับใครที่ทานกระเทียมมาแล้วอยากจะรีบดับกลิ่นปากแบบฉับไวละก็ หานมมาดื่มเลยค่ะ เพราะไขมันจากนมสามารถช่วยทำให้สารกำมะถันในกระเทียมมีความเป็นกลาง จึงทำให้กลิ่นกระเทียมในลมหายใจลดลงได้ แต่ก็ต้องเลือกนมแบบธรรมดานะคะ เพราะนมแบบพร่องมันเนยไขมันจะน้อยหรืออาจไม่มีไขมันเลย ซึ่งอาจจะทำให้วิธีนี้ไม่ได้ผล
7. ทานแอปเปิล
ผลไม้มากคุณค่าอย่างแอปเปิลเองก็มีประโยชน์ดับกลิ่นปากแบบฉับพลันเช่นกัน แค่เพียงหยิบแอปเปิลมารับประทาน สารในแอปเปิลก็จะก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ทางเคมีออกมาดับกลิ่นปากที่เหม็นอี๋ได้ แถมยังช่วยทำให้อิ่มท้องด้วย
8. เคี้ยวมะนาว
แม้มะนาวจะมีรสชาติที่เปรี้ยวจี๊ดจนบางคนอาจทนไม่ไหว แต่กรดที่อยู่ในมะนาวนั้นสามารถดับกลิ่นปากแบบเฉพาะกิจได้เป็นอย่างดี แค่มองหามะนาวชิ้นเล็ก ๆ หรือนำมะนาวมาฝานบาง ๆ เคี้ยวเล่นจนหมดรสชาติ รับรองว่ากลิ่นปากไม่มารบกวนแน่นอน
การที่กลิ่นปากจะหมดไปได้นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวิธีแก้ที่ปลายเหตุเท่านั้น แต่ยังควรกลับไปแก้ไขที่ต้นเหตุ นั่นก็คือสุขภาพและสุขอนามัยของช่องปาก รวมถึงอาหารที่เรารับประทานด้วย หากยังคงแปรงฟันไม่สะอาด ปล่อยให้มีฟันผุ สูบบุหรี่และดื่มเหล้าเป็นประจำ หรือรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรงอยู่เสมอ ๆ ไม่ว่ายังไงกลิ่นปากก็ไม่มีวันหายไปอย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก
huffingtonpost.com
greatist.com
หากคุณรู้ตัวว่าตัวเองกำลังจะต้องเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องพบปะผู้คน
แต่ไม่มั่นใจในเรื่องกลิ่นปาก ทางที่ดีที่สุดคืองดของหวานทุกชนิด
เพราะเจ้าของหวานทุกชนิดที่รสชาติถูกปาก เมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว
และไม่มีการแปรงฟัน น้ำตาลก็จะแปรสภาพและสร้างกลิ่นเหม็น ๆ
พร้อมทั้งความรู้สึกเปรี้ยว ๆ ในปาก
ดังนั้นไม่อยากถูกเบือนหน้าหนีเพราะกลิ่นปาก
ของหวานเนี่ยอย่าแตะเลยดีที่สุด
2. ดื่มน้ำเปล่า
ในเมื่อเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถแปรงฟันหรือบ้วนปากได้ อย่าเพิ่งสิ้นหวังค่ะ เพราะการดื่มน้ำเปล่าจะช่วยชะล้างเศษอาหาร รวมทั้งเชื้อแบคทีเรียบางส่วนให้ลงไปในกระเพาะอาหาร ทำให้กลิ่นปากลดลง จะเป็นน้ำอุ่น หรือน้ำเย็นก็ได้ตามสะดวก หยิบมาดื่มสักแก้ว รับรองว่ากลิ่นปากลดลงแน่นอน
3. ดื่มชา
หากคุณกำลังอยู่ในที่ประชุม และคุณจำเป็นที่จะต้องพูดต่อหน้าคนมาก ๆ แต่ก็รู้สึกว่ากลิ่นปากยังไม่โอเคเท่าไร ลองหันมาดื่มชาดูค่ะ ชาร้อน ๆ นอกจากจะสามารถช่วยให้ผ่อนคลายแล้วก็ยังช่วยขจัดเชื้อแบคทีเรียได้ด้วย เพราะในใบชาโดยเฉพาะชาดำและชาเขียว มีสารโพลีฟีนอลที่มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย แต่ขอย้ำนะคะว่าวิธีนี้ใช้ไม่ได้กับชาเขียวบรรจุขวดที่มีวางขายทั่วไป เพราะชาเหล่านั้นมีน้ำตาลสูง ไม่เพียงแต่จะไม่ช่วยดับกลิ่นปาก แต่จะเพิ่มกลิ่นปากให้แทน แบบนั้นคงไม่ดีแน่ จริงไหมคะ
4. เคี้ยวหมากฝรั่ง
วิธีดับกลิ่นปากสุดเบสิกที่ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไร คนก็เลือกใช้วิธีนี้เพื่อดับกลิ่นปากกันแบบเร่งด่วน สาเหตุที่หมากฝรั่งช่วยดับกลิ่นปากได้แบบทันใจสุด ๆ ก็เป็นเพราะเมื่อเราเคี้ยวหมากฝรั่ง ภายในปากของเราก็จะหลั่งน้ำลายออกมามากขึ้น และป้องกันไม่ให้แบคทีเรียในช่องปากของเราส่งกลิ่นออกมา อีกทั้งยังช่วยขจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟันให้ออกไปได้ด้วย แต่ขอบอกไว้ก่อนนะคะว่าหมากฝรั่งที่เคี้ยว อย่าเคี้ยวนานเกิน 20 นาที เพราะนอกจากรสชาติจะหมดไปแล้ว บรรดาเศษอาหารและเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในหมากฝรั่งอาจจะกลายเป็นตัวการเกิดกลิ่นปากแทน
5. ดื่มกาแฟ
ใครที่ไม่ชอบดื่มชา จะเลือกดื่มกาแฟเพื่อดับกลิ่นปากแบบเร่งด่วนก็ไม่ผิดนะคะ เพราะมีการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Tel Aviv พบว่าการดื่มกาแฟดำ สามารถช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในช่องปากและลดปัญหากลิ่นปากได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องระมัดระวังผลข้างเคียงด้วย เนื่องจากกาแฟอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ซึ่งก่อให้เกิดกลิ่นปากได้เช่นกัน
6. ดื่มนมสักแก้ว
สำหรับใครที่ทานกระเทียมมาแล้วอยากจะรีบดับกลิ่นปากแบบฉับไวละก็ หานมมาดื่มเลยค่ะ เพราะไขมันจากนมสามารถช่วยทำให้สารกำมะถันในกระเทียมมีความเป็นกลาง จึงทำให้กลิ่นกระเทียมในลมหายใจลดลงได้ แต่ก็ต้องเลือกนมแบบธรรมดานะคะ เพราะนมแบบพร่องมันเนยไขมันจะน้อยหรืออาจไม่มีไขมันเลย ซึ่งอาจจะทำให้วิธีนี้ไม่ได้ผล
7. ทานแอปเปิล
ผลไม้มากคุณค่าอย่างแอปเปิลเองก็มีประโยชน์ดับกลิ่นปากแบบฉับพลันเช่นกัน แค่เพียงหยิบแอปเปิลมารับประทาน สารในแอปเปิลก็จะก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ทางเคมีออกมาดับกลิ่นปากที่เหม็นอี๋ได้ แถมยังช่วยทำให้อิ่มท้องด้วย
8. เคี้ยวมะนาว
แม้มะนาวจะมีรสชาติที่เปรี้ยวจี๊ดจนบางคนอาจทนไม่ไหว แต่กรดที่อยู่ในมะนาวนั้นสามารถดับกลิ่นปากแบบเฉพาะกิจได้เป็นอย่างดี แค่มองหามะนาวชิ้นเล็ก ๆ หรือนำมะนาวมาฝานบาง ๆ เคี้ยวเล่นจนหมดรสชาติ รับรองว่ากลิ่นปากไม่มารบกวนแน่นอน
การที่กลิ่นปากจะหมดไปได้นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวิธีแก้ที่ปลายเหตุเท่านั้น แต่ยังควรกลับไปแก้ไขที่ต้นเหตุ นั่นก็คือสุขภาพและสุขอนามัยของช่องปาก รวมถึงอาหารที่เรารับประทานด้วย หากยังคงแปรงฟันไม่สะอาด ปล่อยให้มีฟันผุ สูบบุหรี่และดื่มเหล้าเป็นประจำ หรือรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรงอยู่เสมอ ๆ ไม่ว่ายังไงกลิ่นปากก็ไม่มีวันหายไปอย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก
huffingtonpost.com
greatist.com