ท่าโยคะบรรเทาอาการหวัด ที่ท้าให้คุณลอง ถึงจะคัดจมูก เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว หรือปวดศีรษะ แค่เพียงฝึกท่าเหล่านี้อาการก็ดีขึ้นเห็น ๆ
เมื่อใดที่อากาศเกิดแปรปรวนจนร่างกายปรับสภาพไม่ทัน ก็ทำให้หลายคนป่วยเป็นไข้หวัด ซึ่งแม้ว่าอาการป่วยนี้จะไม่ร้ายแรงเหมือนกับไข้หวัดใหญ่ แต่ก็ทำให้รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว แถมยังมีอาการคัดจมูกอีกด้วย ซึ่งนอกจากการรับประทานอาหาร การพักผ่อนอย่างเพียงพอ และการรับประทานยาแล้ว การออกกำลังกายก็ช่วยบรรเทาอาการไข้หว้ดได้เหมือนกันนะคะ โดยเฉพาะการฝึกโยคะท่าง่าย ๆ ทั้ง 5 ท่าเหล่านี้ ทำแล้วรับรองได้เลยว่าอาการคัดจมูกจะดีขึ้น ที่ปวดเนื้อปวดตัว หรือปวดศีรษะก็จะบรรเทา แถมยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้อีก คุ้มสุด ๆ ไปเลย แต่จะมีท่าไหนบ้างนั้น ลองไปดูกันค่ะ
1. ท่าศพอาสนะ (Corpse Pose)
ท่าศพอาสนะ เป็นท่าที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วน และช่วยฝึกการหายใจ เหมาะสำหรับคนที่รู้สึกไม่กระฉับกระเฉงขณะที่เป็นหวัด เพราะการหายใจเข้าลึก ๆ และหายใจออกช้า ๆ จะช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไปเลี้ยงทั่วร่างกายได้ดีขึ้นนั่นเอง
วิธีฝึก
1. นอนหงายราบ เหยียดขา เหยียดแขนข้างลำตัว มือห่างจากสะโพกเล็กน้อย หงายมือ
2. หลับตา ดึงจิตมาอยู่ที่ลมหายใจเข้า-ออก เพียงอย่างเดียว
3. ฝึกหายใจลึก และยาว ปรับลมหายใจเข้า-ออก ให้สม่ำเสมอ ไม่กระตุก
4. ผ่อนคลายส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และจิตใจ
5. หากจิตล่องลอยคิดเรื่องต่าง ๆ เมื่อรู้สติ ให้ดึงจิตกลับมา แล้วปล่อยวางความคิดนั้นไป แล้วดึงจิตกลับไปอยู่ที่ลมหายใจเข้า-ออกใหม่
2. ท่าสะพาน (Bridge Pose)
ข้อดีของท่าสะพานที่หลายคนทราบดีกันอยู่แล้วนั่นก็คือช่วยแก้อาการปวดหลัง แต่ถ้าฝึกท่านี้ในขณะที่กำลังเป็นหวัด ท่านี้จะช่วยเปิดช่องอก ทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น รวมทั้งช่วยให้เลือดไปไหลเวียนที่บริเวณศีรษะดีขึ้น ใครเป็นไข้หวัดแล้วมักจะปวดศีรษะก็ท่านี้เลยค่ะ
วิธีฝึก
1. เริ่มจากนอนหงาย ให้หลังแนบกับพื้น
2. ชันเข่าขึ้น แยกเท้าห่างเท่ากับความกว้างของสะโพก แขนวางแนบลำตัว
3. ค่อย ๆ ยกสะโพกขึ้นจนก้นกบอยู่ระนาบเดียวกับหัวเข่า ยกหน้าอกให้อยู่เหนือไหล่ (หากรู้สึกยันตัวไม่ถนัด ให้ขยับเท้าทั้งสองเข้าหาตัวได้เล็กน้อย)
4. จากนั้นหายใจเข้า แล้วกลั้นหายใจไว้ครู่หนึ่ง แล้วค่อยผ่อนลมหายใจออก ก่อนจะกลับเข้าสู่ท่าผ่อนคลาย
5. เมื่อหายใจเข้า ให้ยกสะโพกขึ้นเท่าที่ทำได้ และสามารถใช้มือค้ำที่เอวได้ และหายใจออก หายใจเข้าอีกครั้ง
6. เกร็งกล้ามเนื้อต้นขาและสะโพก หายใจออก แล้วค่อย ๆ วางตัวลงกับพื้น
3. ท่านั่งบิดตัว (Seated Spinal Twist)
เมื่อเป็นไข้หวัด การทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายอาจไม่เต็มที่เท่าที่ควร ซึ่งการฝึกโยคะท่านี้ จะช่วยกระตุ้นการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ รวมทั้งระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวออกมาต่อสู้กับเชื้อไข้หวัดได้ดียิ้งขึ้น อีกทั้งยังลดอาการปวดเนื้อปวดตัวได้อีกด้วย
วิธีฝึก
1. นั่งบนพื้น ยืดเท้าให้เหยียดตรง จากนั้นนำเท้าซ้ายสอดเข้าไปใต้เท้าข้างขวา ให้ส้นเท้าซ้ายอยู่ใกล้กับสะโพกขวาให้มากที่สุด โดยเข่าซ้ายต้องแนบติดพื้น
2. ยกเท้าขวาขึ้น ให้ส้นเท้าขวาวางอยู่บนพื้นใกล้กับสะโพก ตั้งเข่าให้ตรง
3. หายใจออก แล้วบิดตัวไปทางขวา โดยให้มือขวาวางบนพื้น ส่วนมือซ้ายยกขึ้นให้อยู่ด้านข้างต้นขาซ้าย
4. ค้างท่านั้นไว้ 30-60 วินาที แล้วจึงคลายท่า
4. ท่าธนู (Bow Pose)
บรรดาเสมหะและน้ำมูกที่เกิดจากไข้หวัด จะทำให้เราหายใจได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ อันนำมาสู่อาการอ่อนเพลีย และการฝึกท่าธนูจะช่วยเปิดช่องอกและคอให้กว้างขึ้น ทำให้หายใจได้สะดวก อีกทั้งยังช่วยผ่อนคลายร่างกายซึ่งเมื่อยล้าจากการพักผ่อนไม่เพียงพอที่เกิดขึ้นเพราะไข้หวัดได้ด้วย
วิธีฝึก
1. นอนคว่ำ เท้าแยกกันพอประมาณ หน้าคว่ำ หน้าผากจรดพื้น
2. งอเข่า แล้ววาดมือทั้ง 2 ข้างไปจับที่ข้อเท้า ให้มือซ้ายจับข้อเท้าซ้าย มือขวาจับข้อเท้าขวา
3. หายใจเข้า แล้วยกลำตัว ศีรษะขึ้น พร้อมกับใช้มือดึงข้อเท้า เพื่อยกเข่าและต้นขาขึ้นจากพื้น
4. หลังจากยกขาได้สูงสุด ให้บีบเข่าและปลายเท้าเข้าหากันให้มากที่สุด ค้างท่านี้ไว้ 30 วินาที แล้วคลายท่า
5. ท่ายกขาพิงผนัง (Viparita Karani)
สำหรับหลาย ๆ ที่เวลาเป็นไข้หวัดแล้วจะรู้สึกปวดศีรษะ และปวดหลัง หรือมีอาการหงุดหงิดง่ายเนื่องมาจากอาการหวัด ท่านี้ถือว่าช่วยได้เยอะเลยค่ะ เพราะท่านี้จะช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปที่ศีรษะมากขึ้น อีกทั้งลดอาการปวดหลัง และทำให้รู้สึกจิตใจผ่อนคลายลง
วิธีฝึก
1. นอนหงาย ให้บั้นท้ายชิดผนัง ขาพาดขึ้นไปบนฝาผนัง ขาทั้ง 2 ข้างชิดกัน และชิดผนัง
2. วางมือหงายทั้งสองข้าง กางแขนออกเล็กน้อย หลังแนบพื้น
3. ค้างท่าไว้ประมาณ 5 นาที แล้วคลายท่า
ได้วิธีการฝึกโยคะเพื่อบรรเทาอาการหวัดกันไปแล้ว ก็ลองเอาไปทำตามกันดูนะคะ แต่ก็อย่าลืมทำควบคู่กับการพักผ่อนและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ด้วยล่ะ จะได้หายไข้หวัดเร็ว ๆ แล้วก็อย่าหักโหมมากนะคะ ไม่อย่างนั้นจะยิ่งเพลียแล้วพาลทำให้ป่วยเรื้อรังแทนค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
activebeat.com
yoganonymous.com
artofliving.org
spafinder.com