วิธีแก้ปวดประจำเดือนที่ไม่ต้องพึ่งยาขนานไหนให้เป็นภาระของตับและไต เพราะเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องในวันนั้นของเดือนได้ ดีต่อสุขภาพของสาว ๆ อย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ
สิ่งที่ทรมานสาว ๆ ได้ทุกเดือนก็มีอาการปวดประจำเดือนนี่แหละค่ะ
ยิ่งบางคนมีอาการปวดประจำเดือนหนักมากก็ถึงขั้นจะลุกไม่ไหว
แถมบางเคสยังมีอาการท้องเสียร่วมกับอาการปวดประจำเดือนซ้ำเติมเข้าให้อีก
โธ่...ช่างเป็นความทรมานที่ยากจะบรรยายรายละเอียดได้หมดจริง ๆ เนอะ
แต่ไม่เป็นไรค่ะสาว ๆ เพราะเรามีวิธีแก้ปวดประจำเดือนด้วย
เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ มาฝาก โดยเฉพาะสาวคนไหนไม่ชอบกินยาแก้ปวดประจำเดือน เครื่องดื่มแก้ปวดประจำเดือนเหล่านี้น่าจะโดนใจอย่างแรง อ้อ ! และเรายังมีเครื่องดื่มที่ควรเลี่ยงตอนเป็นประจำเดือนแถมให้ด้วยนะ
เครื่องดื่มที่ควรดื่มช่วงมีประจำเดือน
1. น้ำอุ่น
ในช่วงที่มีประจำเดือนสาว ๆ จะสูญเสียน้ำในร่างกายไปด้วย ดังนั้นการดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้นจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ โดยหากดื่มน้ำเปล่าอุ่น ๆ ได้ด้วยก็จะยิ่งดี เพราะน้ำอุ่นจะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกยิ่งขึ้น พร้อมทั้งช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อในร่างกายให้หายจากอาการ
ปวดประจำเดือนไปด้วยในตัว
ขิงเป็นสมุนไพรที่มีรสเผ็ดร้อน จึงช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกยิ่งขึ้น และการดื่มน้ำขิงอุ่น ๆ ก็จะช่วยบรรเทาอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อได้ นอกจากนี้ขิงยังเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ซึ่งมักจะเกิดในช่วงที่เรามีประจำเดือน ทั้งยังสามารถลดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้อีกด้วยนะคะ
คุณสมบัติของน้ำผึ้งสามารถช่วยบำรุงเลือดได้ อีกทั้งสรรพคุณของมันยังต้านการอักเสบ แก้อาการท้องเสียก็ได้อีก ส่วนน้ำมะนาวก็อุดมไปด้วยวิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนของสาว ๆ ได้ ยิ่งหากดื่มน้ำผึ้งมะนาวอุ่น ๆ ขณะมีอาการ ความอุ่นก็จะเพิ่มความสะดวกในการไหลเวียนของเลือดไปในตัวด้วยค่ะ
โดยสูตรน้ำผึ้งมะนาวแก้ปวดประจำเดือนก็เพียงผสมน้ำอุ่น 1 แก้วกับน้ำมะนาว 1 ลูก และน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ง่าย ๆ แค่นี้เอง
4. น้ำสับปะรด
ไม่ว่าคั้นเป็นน้ำหรือกินสับปะรดเป็นชิ้นก็ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ไม่ต่างกัน เนื่องจากสับปะรดเป็นผลไม้ฉ่ำน้ำ และยังมีสรรพคุณช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อในร่างกาย ส่งผลให้อาการปวดประจำเดือนลดลงไปด้วยนั่นเอง
ชาเขียวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้ แต่ทั้งนี้ก็ควรดื่มชาเขียวอุ่น ๆ ที่ไม่ผสมน้ำตาลนะคะ แต่หากใครติดรสหวานอาจเติมน้ำผึ้งลงไปเพิ่มรสชาติด้วยก็ได้
6. ชาคาโมมายล์
ตัวชาชนิดนี้มีคุณสมบัติเด่นคือช่วยลดอาการปวดเกร็งของกล้ามเนื้อ และช่วยแก้อักเสบได้ ดังนั้นหากปวดประจำเดือนก็ลองให้ชาคาโมมายล์ช่วยก็ได้ค่ะ
7. ชาเปปเปอร์มินต์
ชาเปปเปอร์มินต์มีรสเผ็ดร้อน ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้อีกต่างหาก ดังนั้นหากไม่มีชาคาโมมายล์จะดื่มชาเปปเปอร์มินต์อุ่น ๆ แทนก็น่าจะช่วยแก้ปวดประจำเดือนได้ไม่ต่างกัน
ผสมน้ำอุ่น 1 แก้วกาแฟกับแอปเปิลไซเดอร์ 1 ช้อนชา แล้วจิบก่อนอาหาร 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น เพื่อช่วยแก้อาการปวดประจำเดือน แอปเปิลไซเดอร์มีแคลเซียมและโพแทสเซียมที่ช่วยลดอาการอ่อนเพลียในระหว่างมีประจำเดือน ทั้งยังช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ขดเกร็งได้อีกด้วยค่ะ
9. นมอุ่น ๆ
นมมีแคลเซียมสูง แถมยังมีแมกนีเซียมที่ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้ และการดื่มนมอุ่น ๆ ยังช่วยให้กล้ามเนื้อเกิดการผ่อนคลาย อาการปวดท้องประจำเดือนของเราก็จะลดลงไปได้บ้าง
นอกจากนี้สาว ๆ
ที่มีอาการปวดประจำเดือนควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มซึ่งอาจจะกระตุ้นให้เรารู้สึกปวดประจำเดือนด้วยนะคะ
และวันนี้เราก็มีข้อมูลมาเสิร์ฟให้ถึงที่แล้วว่า
ปวดประจำเดือนไม่ควรกินอะไรบ้าง มาดูกันเลยจ้า
เครื่องดื่มที่ควรเลี่ยงช่วงมีประจำเดือน
1. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง
คาเฟอีนจะทำให้เลือดข้นกว่าปกติ
ก่อให้เกิดอาการปวดประจำเดือนรุนแรงขึ้นได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นกาแฟ ชา
ช็อกโกแลต โกโก้ หรือแม้แต่เครื่องดื่มชูกำลังทั้งหลาย สาว ๆ
ก็พยายามอยู่ให้ไกลจะดีกว่า
2. น้ำอัดลม
ในน้ำอัดลมมีทั้งแก๊สและคาเฟอีนเลยล่ะค่ะสาว ๆ
ซึ่งก็อาจจะทำให้เกิดอาการท้องอืด แน่นท้อง แถมยังมีส่วนทำให้เลือดข้น
ไหลเวียนได้ลำบากจนส่งผลให้อาการปวดประจำเดือนรุนแรงกันไปใหญ่
3. แอลกอฮอล์
เครื่องดื่มมึนเมาอย่างแอลกอฮอล์ก็ตัวร้ายใช่ย่อย เพราะมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ
ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าที่ควร และยังอาจก่อให้เกิดอาการท้องอืด
แน่นท้อง ซ้ำเติมให้เราปวดประจำเดือนมากขึ้นได้ด้วยล่ะค่ะ
และอีกประเด็นที่สาว ๆ ค่อนข้างสับสนกันพอสมควรอย่างประเด็นที่ว่า
เป็นประจำเดือนกินน้ำมะพร้าวได้ไหม
เราก็มีเฉลยมาให้คลายความสงสัยกันด้วยจ้า
-
เป็นประจำเดือนกินน้ำมะพร้าวได้หรือไม่ เรื่องแบบนี้สาว ๆ ต้องรู้ คราวนี้สาว ๆ ที่มองหาวิธีแก้ปวดประจำเดือนแต่ไม่อยากกินยาก็คงมีทางเลือกเพิ่มขึ้นแล้วเนอะ ขอบคุณข้อมูลจาก :
ชีวจิต, gurl, theindianspot, naturalsociety, top10homeremedies, livestrong