อยากชวนทุกคนเก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหนก็ได้ เพราะแค่ไปเที่ยวก็ช่วยฟื้นฟูสุขภาพให้ดีขึ้นในหลาย ๆ ด้านแล้ว
แม้จะมีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากไปเที่ยวบ่อย ๆ แต่เชื่อไหมคะว่าก็มีคนกลุ่มหนึ่งเหมือนกันที่ชอบเก็บตัวอยู่กับบ้าน ประเภทเอาชนะความขี้เกียจไม่ได้สักที ลงท้ายเลยไม่ค่อยได้ออกไปเปิดหูเปิดตาที่ไหนกับเขาเลย ทั้งที่จริงแล้วแค่เราพาร่างกายไปท่องเที่ยวสักหน่อย สุขภาพก็จะแฮปปี้ตั้งเท่านี้แน่ะ
1. กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
ยิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์ ประโยคนี้ใช่ว่าจะมีไว้เพื่อเด็กวัยกำลังซนซะเมื่อไร เพราะเรายังสามารถใช้กับภูมิคุ้มกันในร่างกายได้เช่นกัน โดยมีการศึกษาที่บอกว่า การเปิดโอกาสให้ร่างกายได้ออกไปผจญภัยกับเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อโรคนอก พื้นที่บ้าง ก็เหมือนเป็นการเพิ่มสกิลให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายในการหาวิธีจัดการกับ เชื้อส่ออันตรายชนิดต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราต้องไปคลุกคลีกับเชื้อโรคอย่างเต็มที่นะคะ การดูแลสุขอนามัยให้สะอาดอยู่เสมอ และยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ก็ยังคงเป็นหลักปฏิบัติที่ไม่ควรละเลยอย่างเด็ดขาดด้วยเช่นกัน
2. คลายเครียด
เพราะการได้ไปเที่ยวช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย เปรียบเป็นการรีแล็กซ์ร่างกายโดยตรงอีกทางหนึ่ง ซึ่งก็มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์รายงานไว้ว่า หลังจากกลับมาจากท่องเที่ยว ร่างกายจะยังคงอิ่มเอมไปด้วยความสุขต่อเนื่องไปอีกราว ๆ 3-7 วัน โดยอ้างอิงจากการวัดมวลความสุขของอาสาสมัครซึ่งพบว่า ร่างกายของคนที่ได้ไปเที่ยวจะยังคงรู้สึกผ่อนคลาย มีระดับความเครียดค่อนข้างต่ำ และพบว่ามีอารมณ์ดียาวไปเกือบ 1 สัปดาห์หลังจากกลับถึงบ้านเลยทีเดียว
3. ช่วยบำรุงสมอง
อธิบายง่าย ๆ ว่าการได้ออกไปเที่ยว ไปเปิดหูเปิดตา จะช่วยให้เราได้เจอกับประสบการณ์ที่ต่างออกไปจากชีวิตเดิม ๆ ดังนั้นสมองจึงต้องทำงานหนักในการประมวลผล ซึ่งจะช่วยให้สมองได้ออกกำลังกายกันบ้าง โดยเฉพาะในส่วนกระบวนการเรียนรู้และจดจำ ที่ทำท่าว่างานจะเข้ามากกว่าส่วนอื่น ๆ
4. พัฒนาอารมณ์
การวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Personality and Social Psychology รายงานว่า คนที่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศหรือไปเรียนเมืองนอก มีแนวโน้มจะพัฒนาทักษะการแสดงออกทางอารมณ์ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าจะมีความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ที่มั่นคงกว่า เนื่องจากต้องผจญกับสถานการณ์ที่ต้องเอาตัวรอด และการได้เปิดโลกกว้างยังจะช่วยเพิ่มทักษะชีวิตได้มากกว่าคนที่อยู่กับสภาพ แวดล้อมเดิม ๆ
5. ช่วยให้ร่างกายฟิต
แค่ขยับก็เท่ากับออกกำลังกาย ซึ่งการออกเดินทางไปท่องเที่ยวก็แน่นอนว่าเราจะได้ทำมากกว่าแค่ขยับแน่ ๆ ค่ะ เพราะนี่คือโอกาสที่เราจะได้เดินเยอะขึ้น ได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่มากกว่าการนั่งทำงานติดโต๊ะ หรือนอนดูซีรีส์อยู่กับบ้าน ดังนั้นไปเที่ยวบ่อย ๆ ก็เหมือนได้ฟิตร่างกายให้แข็งแรงขึ้นอีกทางหนึ่งล่ะเนอะ
6. ช่วยลดความรู้สึกหดหู่
สำหรับคนที่รู้สึกเฉื่อยชาคล้าย ๆ กับชีวิตไร้ซึ่งแรงบันดาลใจใด ๆ จนรู้สึกหดหู่ แนะนำให้รีบเก็บข้าวของแล้วออกเดินทางไปเที่ยวโดยด่วนเลยค่ะ เพราะการได้ไปเปิดหูเปิดตาในสถานที่ใหม่ ๆ จะช่วยดึงคุณออกจากความเศร้าสลดหดหู่ได้ หรืออย่างน้อย ๆ ก็จะช่วยเปิดโลกอีกใบทำให้คุณได้เห็นมุมมองในชีวิตที่กว้างกว่าเดิม
7. เรียกคืนความสงบในจิตใจ
การปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับสภาพแวดล้อมเดิม ๆ อาจทำให้จิตใจเราฟุ้งซ่านได้ ซึ่งสภาวะไร้ความสุขเหล่านี้ก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกายของเรา ไม่ในทางตรงก็ทางอ้อม ดังนั้นแนะนำให้เดินทางไปเปลี่ยนบรรยากาศ ไปเที่ยวในที่สวย ๆ มีกิจกรรมให้ทำหรือไปเที่ยวแบบคณะทัวร์ก็ได้ การได้พบเพื่อนใหม่ ได้อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ อาจเปิดโอกาสให้เราได้ทบทวนความคิดของตัวเอง จัดระเบียบชีวิตให้ลงตัวอีกครั้ง และมีสติมากพอจะกลับมาสู้กับปัญหาทุกอย่างด้วยความคิดที่ปลอดโปร่งแจ่มใส
8. ช่วยป้องกันความเสี่ยงโรคหัวใจได้ !
การศึกษาจาก Global Coalition on Aging และสมาคมบริษัทนำเที่ยวของอเมริกาพบว่า แค่ได้แพลนทริปท่องเที่ยวก็ช่วยกระตุ้นความสุข ลดความตึงเครียดและภาวะกดดันให้เราได้แล้ว ซึ่งก็จะช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจไปด้วยในตัว นอกจากนี้การศึกษาจาก Framingham Heart ยังพบว่า คนที่ออกเดินทางท่องเที่ยวอยู่บ่อย ๆ มีแนวโน้มป่วยด้วยโรคหัวใจล้มเหลว รวมทั้งมีภาวะเสี่ยงต่อโรคหัวใจอื่น ๆ ลดลงด้วยนะคะ
9. อายุยืนขึ้น
การศึกษาจากคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัย Arkansas พบว่า การท่องเที่ยวมีส่วนช่วยลดความเครียด ส่งผลดีต่อสุขภาพทั้งภายนอกและภายใน อีกทั้งยังช่วยบำรุงการทำงานของสมองได้อีกต่างหาก ซึ่งข้อดีดังที่กล่าวมาทั้งหมดก็ช่วยยืนยันได้ว่าถ้าเรามีความสุขกับการ เที่ยวบ่อย ๆ สุขภาพโดยรวมที่ดีก็จะช่วยยืดอายุของเราไปด้วยนั่นเอง
นอกจากจะได้ชาร์จพลังแล้ว ยังเห็นได้ชัดว่าการเดินทางไปท่องเที่ยวมอบเรื่องดี ๆ ต่อสุขภาพเราได้อีกไม่น้อยเลยทีเดียว งั้นจะมัวรออะไรกันอยู่ล่ะค่ะ หยอดกระปุก เก็บกระเป๋าแล้วจองตั๋วกันโลด !
ภาพจาก pexels.com
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
matadornetwork
marketwatch
seniorliving
healthfitnessrevolution
U.S. News
แม้จะมีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากไปเที่ยวบ่อย ๆ แต่เชื่อไหมคะว่าก็มีคนกลุ่มหนึ่งเหมือนกันที่ชอบเก็บตัวอยู่กับบ้าน ประเภทเอาชนะความขี้เกียจไม่ได้สักที ลงท้ายเลยไม่ค่อยได้ออกไปเปิดหูเปิดตาที่ไหนกับเขาเลย ทั้งที่จริงแล้วแค่เราพาร่างกายไปท่องเที่ยวสักหน่อย สุขภาพก็จะแฮปปี้ตั้งเท่านี้แน่ะ
ยิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์ ประโยคนี้ใช่ว่าจะมีไว้เพื่อเด็กวัยกำลังซนซะเมื่อไร เพราะเรายังสามารถใช้กับภูมิคุ้มกันในร่างกายได้เช่นกัน โดยมีการศึกษาที่บอกว่า การเปิดโอกาสให้ร่างกายได้ออกไปผจญภัยกับเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อโรคนอก พื้นที่บ้าง ก็เหมือนเป็นการเพิ่มสกิลให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายในการหาวิธีจัดการกับ เชื้อส่ออันตรายชนิดต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราต้องไปคลุกคลีกับเชื้อโรคอย่างเต็มที่นะคะ การดูแลสุขอนามัยให้สะอาดอยู่เสมอ และยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ก็ยังคงเป็นหลักปฏิบัติที่ไม่ควรละเลยอย่างเด็ดขาดด้วยเช่นกัน
เพราะการได้ไปเที่ยวช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย เปรียบเป็นการรีแล็กซ์ร่างกายโดยตรงอีกทางหนึ่ง ซึ่งก็มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์รายงานไว้ว่า หลังจากกลับมาจากท่องเที่ยว ร่างกายจะยังคงอิ่มเอมไปด้วยความสุขต่อเนื่องไปอีกราว ๆ 3-7 วัน โดยอ้างอิงจากการวัดมวลความสุขของอาสาสมัครซึ่งพบว่า ร่างกายของคนที่ได้ไปเที่ยวจะยังคงรู้สึกผ่อนคลาย มีระดับความเครียดค่อนข้างต่ำ และพบว่ามีอารมณ์ดียาวไปเกือบ 1 สัปดาห์หลังจากกลับถึงบ้านเลยทีเดียว
อธิบายง่าย ๆ ว่าการได้ออกไปเที่ยว ไปเปิดหูเปิดตา จะช่วยให้เราได้เจอกับประสบการณ์ที่ต่างออกไปจากชีวิตเดิม ๆ ดังนั้นสมองจึงต้องทำงานหนักในการประมวลผล ซึ่งจะช่วยให้สมองได้ออกกำลังกายกันบ้าง โดยเฉพาะในส่วนกระบวนการเรียนรู้และจดจำ ที่ทำท่าว่างานจะเข้ามากกว่าส่วนอื่น ๆ
การวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Personality and Social Psychology รายงานว่า คนที่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศหรือไปเรียนเมืองนอก มีแนวโน้มจะพัฒนาทักษะการแสดงออกทางอารมณ์ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าจะมีความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ที่มั่นคงกว่า เนื่องจากต้องผจญกับสถานการณ์ที่ต้องเอาตัวรอด และการได้เปิดโลกกว้างยังจะช่วยเพิ่มทักษะชีวิตได้มากกว่าคนที่อยู่กับสภาพ แวดล้อมเดิม ๆ
แค่ขยับก็เท่ากับออกกำลังกาย ซึ่งการออกเดินทางไปท่องเที่ยวก็แน่นอนว่าเราจะได้ทำมากกว่าแค่ขยับแน่ ๆ ค่ะ เพราะนี่คือโอกาสที่เราจะได้เดินเยอะขึ้น ได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่มากกว่าการนั่งทำงานติดโต๊ะ หรือนอนดูซีรีส์อยู่กับบ้าน ดังนั้นไปเที่ยวบ่อย ๆ ก็เหมือนได้ฟิตร่างกายให้แข็งแรงขึ้นอีกทางหนึ่งล่ะเนอะ
6. ช่วยลดความรู้สึกหดหู่
สำหรับคนที่รู้สึกเฉื่อยชาคล้าย ๆ กับชีวิตไร้ซึ่งแรงบันดาลใจใด ๆ จนรู้สึกหดหู่ แนะนำให้รีบเก็บข้าวของแล้วออกเดินทางไปเที่ยวโดยด่วนเลยค่ะ เพราะการได้ไปเปิดหูเปิดตาในสถานที่ใหม่ ๆ จะช่วยดึงคุณออกจากความเศร้าสลดหดหู่ได้ หรืออย่างน้อย ๆ ก็จะช่วยเปิดโลกอีกใบทำให้คุณได้เห็นมุมมองในชีวิตที่กว้างกว่าเดิม
การปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับสภาพแวดล้อมเดิม ๆ อาจทำให้จิตใจเราฟุ้งซ่านได้ ซึ่งสภาวะไร้ความสุขเหล่านี้ก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกายของเรา ไม่ในทางตรงก็ทางอ้อม ดังนั้นแนะนำให้เดินทางไปเปลี่ยนบรรยากาศ ไปเที่ยวในที่สวย ๆ มีกิจกรรมให้ทำหรือไปเที่ยวแบบคณะทัวร์ก็ได้ การได้พบเพื่อนใหม่ ได้อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ อาจเปิดโอกาสให้เราได้ทบทวนความคิดของตัวเอง จัดระเบียบชีวิตให้ลงตัวอีกครั้ง และมีสติมากพอจะกลับมาสู้กับปัญหาทุกอย่างด้วยความคิดที่ปลอดโปร่งแจ่มใส
8. ช่วยป้องกันความเสี่ยงโรคหัวใจได้ !
การศึกษาจาก Global Coalition on Aging และสมาคมบริษัทนำเที่ยวของอเมริกาพบว่า แค่ได้แพลนทริปท่องเที่ยวก็ช่วยกระตุ้นความสุข ลดความตึงเครียดและภาวะกดดันให้เราได้แล้ว ซึ่งก็จะช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจไปด้วยในตัว นอกจากนี้การศึกษาจาก Framingham Heart ยังพบว่า คนที่ออกเดินทางท่องเที่ยวอยู่บ่อย ๆ มีแนวโน้มป่วยด้วยโรคหัวใจล้มเหลว รวมทั้งมีภาวะเสี่ยงต่อโรคหัวใจอื่น ๆ ลดลงด้วยนะคะ
9. อายุยืนขึ้น
การศึกษาจากคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัย Arkansas พบว่า การท่องเที่ยวมีส่วนช่วยลดความเครียด ส่งผลดีต่อสุขภาพทั้งภายนอกและภายใน อีกทั้งยังช่วยบำรุงการทำงานของสมองได้อีกต่างหาก ซึ่งข้อดีดังที่กล่าวมาทั้งหมดก็ช่วยยืนยันได้ว่าถ้าเรามีความสุขกับการ เที่ยวบ่อย ๆ สุขภาพโดยรวมที่ดีก็จะช่วยยืดอายุของเราไปด้วยนั่นเอง
นอกจากจะได้ชาร์จพลังแล้ว ยังเห็นได้ชัดว่าการเดินทางไปท่องเที่ยวมอบเรื่องดี ๆ ต่อสุขภาพเราได้อีกไม่น้อยเลยทีเดียว งั้นจะมัวรออะไรกันอยู่ล่ะค่ะ หยอดกระปุก เก็บกระเป๋าแล้วจองตั๋วกันโลด !
ภาพจาก pexels.com
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
matadornetwork
marketwatch
seniorliving
healthfitnessrevolution
U.S. News