
สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ได้อยู่ที่เราจะไปถึงผลสำเร็จเมื่อไร แต่อยู่ที่ว่าเราจะพร้อมเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงด้วยใจที่เต็มร้อยเมื่อไรต่างหาก เหมือนอย่าง คุณอุ๋มอิ๋มจ๊ะจ๋า สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่เธอเริ่มต้นลดน้ำหนักด้วยตัวเองมาอย่างตั้งใจและมีวินัย จนกระทั่งเวลาหมุนไปครบ 1 ปี และนี่คือผลลัพธ์ที่เธอภูมิใจแชร์ให้โลกได้รู้ !











อุ๋มเป็นคนอ้วนตั้งแต่เกิด เคยผอมด้วยการอดอาหารช่วงมัธยมปลาย ผอมได้แป๊บเดียวก็โยโย่เอฟเฟกต์ขึ้นมามากกว่าเดิม




วันแรกที่เริ่มต้นมีความรู้แค่ว่า กินให้น้อย ออกกำลังกายให้เยอะ และห้ามอดอาหารเท่านั้น ที่ตั้งใจไม่อดเพราะเคยอดแล้วมันไม่ยั่งยืน


“ไม่มีอะไรที่ตัวฉันเองทำไม่ได้หากตั้งใจจริง”
พอคิดและตั้งใจ อีกวันก็ไปฟิตเนสฟรีของมหาวิทยาลัยเลยค่ะ วันแรกทีขึ้นไปเห็นฟิตเนส ไม่เหมือนที่เคยคิดไว้เลย ที่นั่นไม่มีลู่วิ่ง ไม่มีจักรยานให้ปั่น มันเป็นยิมเพาะกายสำหรับผู้ชายชัด ๆ ไม่มีผู้หญิง เราไม่รู้จักใคร และที่สำคัญฉันเล่นเวทไม่เป็น แต่ขึ้นมาแล้ว ตั้งใจมาแล้ว ตัดสินใจมาแล้ว เราไม่ยอมแพ้ตั้งแต่ด่านแรกแน่นอน เล่นก็เล่นค่ะ


ช่วงเดือนแรกก็ถามพี่เหรียญ ให้พี่เขาสอนอยู่หลายท่า อาศัยการตื๊อถามเท่านั้น อยากรู้อะไรก็ถาม เพราะพี่แกไม่ค่อยสอน ไม่ค่อยบอก ต้องถามถึงบอก มาถามตอนหลังพี่เขาบอกว่าแต่ก่อนก็บอกหมดแต่ไม่ค่อยมีคนทำตาม หลัง ๆ เลยไม่บอกละ
ผ่านมาเดือนนึงเริ่มพอเล่นได้ ก็เริ่มเล่นเอง เล่นเวทแบบ whole body คือวันนึงจะเล่นทุกส่วน ส่วนละท่า พออีกวันก็เล่นส่วนละท่าเหมือนกันแต่ไม่ท่าซ้ำกับเมื่อวาน ไม่มีตารางเล่นค่ะ ก็วางแผนวันต่อวันว่าวันนี้แต่ละส่วนจะเล่นท่าไหน ตารางอาหารก็ไม่มี ตอนนั้นพี่เขาแนะนำให้ทานโปรตีนอย่างดเนื้อสัตว์ ก็เลยหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตว่าต้องกินโปรตีนประมาณเท่าไหนดี
ทีนี้ก็พยายามกินโปรตีน แต่พอเราโฟกัสที่โปรตีนก็จะสังเกตว่าอาหารที่ขายในมหาวิทยาลัยหากินยากเพราะซื้อข้าวจานนึงจะได้เนื้อสัตว์น้อย ที่สำคัญคือเนื้อสัตว์มันติดมันและการประกอบอาหารก็ใส่น้ำมันซะมันย่อง
จึงเริ่มต้นคิดที่จะทำอาหารกินเองค่ะ ตอนนั้นอีกความคิดนึงคือ เราจะทำกินเองทุกมื้อเลยเหรอ เกินไปเปล่า แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจทำค่ะ เพราะอีกความคิดคืออยากหุ่นดีกว่าคนอื่นก็ต้องทำมากกว่าคนอื่น
พอเริ่มทำอาหารเอง ตอนแรกวุ่นวายมาก เพราะเป็นคนทำกับข้าวไม่เป็น ต้มมาม่ากับเวฟไส้กรอกเป็นอย่างเดียว ทอดไข่ก็ทำไม่เป็นค่ะ
เริ่มแรกคือฝึกผัดผักใส่น้ำมันน้อย ๆ ส่วนโปรตีนเราเอาอกไก่หมักกระเทียมพริกไทยไปเวฟกิน กินทีก็หมักที กว่าจะได้กินแต่ละทีก็ต้องทำกับข้าวเป็นครึ่งชั่วโมง ที่สำคัญตอนนั้นทำไม่อร่อยเลย ใช้คำว่าทนกินค่ะ


ฝึกอยู่หลายเมนู ไม่มีคนสอน หัดทำเอาตามวิธีในอินเทอร์เน็ต ฝึกไปฝึกมาชอบทำอาหารเลยค่ะ หลัง ๆ ทำอร่อยด้วย เลยไม่ต้องใช้คำว่าทนแล้ว
เราต้องไปเรียนทุกวัน เข้าเรียน 9 โมงเช้า เราตื่นประมาณตี 5 เพื่อเตรียมอาหารสามมื้อ อาบน้ำแต่งตัว ทานอาหารเช้า และไปมหาวิทยาลัย




ส่วนคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งก็ต้องกินค่ะ อุ๋มกินข้าวขาวเป็นหลักเพราะไม่ชอบกินข้าวกล้อง คาร์โบไฮเดรตอุ๋มไม่คิดมากว่าต้องกินเท่านั้นเท่านี้ อุ๋มกินให้อิ่มแต่กินช้า ๆ ในมื้อหลัก ลองคิดดูนะคะ เรามีเนื้อสัตว์ไม่ติดมันขีดครึ่ง แล้วเคี้ยวข้าวช้า ๆ จนอิ่มแต่ไม่ยัดนะคะ เราจะกินข้าวได้แค่ไหนกันเชียว กินเถอะค่ะจะได้ไม่ไปกินจุบจิบระหว่างมื้อ และไม่ต้องทนหิว





ทุกเย็นหลังเลิกเรียนจะไปวิ่งรอบสนามบอล 5 กิโลเมตร ส่วนเวทเทรนนิ่งจะเล่นตอนคาบว่างช่วงกลางวัน ถ้าวันไหนไม่มีคาบว่างก็เล่นตอนพักกลางวันค่ะ
ทุกวันเสาร์จะตามใจปาก กินอะไรก็ได้หนึ่งวันในสัปดาห์ แต่กินแบบให้หายอยาก ไม่ใช่ตะบี้ตะบันกินนะคะ ทำมาครบหนึ่งปี ที่ทำสำเร็จไม่ใช่เพราะไม่เคยผิดพลาด ไม่เคยตบะแตก แต่เพราะเรามีสติและไม่เลิก ไม่ยอมแพ้ค่ะ ผิดพลาดก็ทำใหม่ ตบะแตกก็ตั้งสติฮึดใหม่ ทำมันอย่างสม่ำเสมอ


ผลลัพธ์ครั้งนี้คือ จากน้ำหนัก 94 กิโลกรัม เหลือ 64 กิโลกรัม ไขมันสะสมในร่างกาย จาก 41% เหลือ 21%
https://www.facebook.com/aoomily.chiz
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
คุณอุ๋มอิ๋มจ๊ะจ๋า สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม