จะดีแค่ไหนหากเรามีไทม์แมชชีนเป็นของตัวเอง พาเซลล์ในร่างกายย้อนวัยกลับไปฟิตเหมือนตอนยังหนุ่มยังสาวได้ ช่วยให้ดูเด็กทั้งรูปร่างหน้าตา หรือแม้กระทั่งการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ซึ่งหากใครเคยฝันถึงยาย้อนอายุกันมาบ้าง ดูเหมือนวันนี้อาจจะไม่ใช่แค่เรื่องเพ้อเจ้ออีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ เพราะนักวิทยาศาสตร์คิดค้นยาต้านชรา อีกหนึ่งวิธีชะลอความแก่สำเร็จแล้ว ที่สำคัญยังเห็นผลจริงในหนูทดลองมาแล้วด้วย
โดย Dr.Peter de Keizer นักชีววิทยาและทีมวิจัย ค้นพบว่า เซลล์ชรา (senescent cells) ซึ่งเป็นเซลล์ในร่างกายที่เสื่อมสภาพไปแล้ว มี DNA บางตัวที่สามารถทำลายโปรตีน p53 ในร่างกายให้มีจำนวนลดน้อยลง ส่งผลให้เกิดภาวะเซลล์เสื่อมสภาพ หรือเป็นต้นเหตุของโรคเรื้อรังต่าง ๆ ในวัยชรา ทว่านอกจากทีมวิจัยจะค้นพบสาเหตุของความแก่แล้ว พวกเขายังค้นพบอีกด้วยว่า ในร่างกายของหนูทดลองยังมีโปรตีนอีกชนิดหนึ่งคือโปรตีน FOXO4 ซึ่งเป็นโปรตีนที่เกาะกันแน่นกับโปรตีน p53 และเจ้าโปรตีน FOXO4 นี้แหละ ที่ช่วยป้องกันเซลล์ถูกทำลายได้
ดังนั้นทีมวิจัยจึงคิดค้นเปปไทด์เลียนแบบ FOXO4 ขึ้นมา และนำไปฉีดให้กับหนูทดลองที่ได้รับการตัดต่อพันธุกรรมให้แก่เร็วขึ้น ซึ่งพบว่า ภายใน 10 วัน ขนของหนูทดลองที่หลุดร่วงกลับมีความหนาแน่นเพิ่มขึ้น และหลังจากได้รับเปปไทด์ไปแล้วประมาณ 3 สัปดาห์ อวัยวะที่มีการเสื่อมสภาพ เช่น ตับ และลักษณะทางกายภาพที่เหมือนหนูชราตัวหนึ่ง กลับดูมีเรี่ยวแรงและได้รับการฟื้นฟูมากขึ้น โดยหนูทดลองสามารถวิ่งบนล้อหมุนได้ในระยะทางไกลกว่าเดิมประมาณ 2-3 เท่า ซึ่งทีมวิจัยก็ถึงกับออกปากว่า นี่เป็นการทดลองที่เกินคาดและทำเอาพวกเขาดีใจจนกระโดดโลดเต้นอยู่ในแล็บเลยล่ะ
ภาพจาก futuretimeline.net
ทั้งนี้นักวิจัยได้ให้คำอธิบายถึงการทดลองไว้ว่า เปปไทด์ที่ผลิตขึ้น เป็นอนุภาคขนาดเล็กของโปรตีนซึ่งจะจับเข้ากับเซลล์ในร่างกายได้โดยง่าย จึงช่วยป้องกันไม่ให้ DNA จากเซลล์ชราทำลายโปรตีน p53 ได้ กระทั่งเซลล์ชราเหล่านั้นค่อย ๆ เสื่อมสลายไปเอง นอกจากนี้เปปไทด์ยังช่วยกระตุ้นสเต็มเซลล์ให้ผลิตเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาด้วย ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า เปปไทด์ดังกล่าวอาจให้ผลในการยับยั้งเซลล์มะเร็งหรือเนื้องอกที่ผิดปกติได้ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี การทดลองนี้ยังให้ผลได้จริงแค่กับหนูทดลองเท่านั้น ทว่าในอนาคตทีมวิจัยก็มีแพลนจะนำไปทดลองกับสัตว์ชนิดอื่น เช่น หมู เป็นต้น และหากใช้ได้ดีกับหมูด้วย ขั้นต่อไปอาจเขยิบไปทดลองใช้เปปไทด์ชะลอความแก่กับผู้ป่วยมะเร็งเป็นอันดับแรก ซึ่งหากมันเวิร์ก ก็คงสบโอกาสพัฒนามาเป็นยาต้านความแก่ได้จริง ๆ สักที
เอาเป็นว่าเราก็ขอเชียร์สุดแรงใจ ให้ทีมวิจัยสามารถผลิตยาชะลอความแก่ได้จริง ๆ ในเร็ววันละกันเนอะ ;)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
sciencemag
dutchnews