
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2560 เว็บไซต์ appledaily รายงานว่า ชายจีนคนหนึ่งในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน มีอาการปวดท้องอย่างหนักจนต้องมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ก่อนจะหมดสติไป ทำให้แพทย์ต้องส่งตัวเข้าห้อง ICU และต้องตกใจเมื่อทราบผลการตรวจเลือดว่าผู้ป่วยรายนี้มีไขมันในเลือดและคอเลสเตอรอลสูงมาก ทำให้เกิดภาวะตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน โดยแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นเพราะทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์มากเกินไป

ผู้ป่วยคนนี้คือ เสี่ยวเฉิน พนักงานส่งของวัย 31 ปี ซึ่งงานของเขาในแต่ละวันยุ่งมาก แทบไม่มีเวลาทานข้าว จึงเลือกที่จะทานอาหารฟาสต์ฟู้ด จำพวกเนื้อสัตว์ เช่น น่องไก่ เพื่อให้อิ่มท้องทุกวัน วันละ 3 มื้อ และไม่ค่อยได้ทานผักเท่าไรนัก เสี่ยวเฉินทำพฤติกรรมเช่นนี้ติดต่อกันมานาน แต่ก็ไม่เคยกังวลว่าสุขภาพของตัวเองจะมีปัญหาอะไร จนกระทั่ง วันหนึ่ง มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงจึงต้องไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล แต่หลังจากเข้าโรงพยาบาลไปได้เพียงวันเดียว อาการก็ทรุดลงอย่างรวดเร็วจนแพทย์ต้องส่งเข้าห้อง ICU เพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด


หลังจากนอนพักรักษาตัวในห้อง ICU มานานกว่า 10 วัน ในที่สุดเสี่ยวเฉินก็รู้สึกตัวแล้ว ซึ่งแพทย์คาดว่าอีกไม่นานคงได้ออกจากห้อง ICU ไปรักษาตัวในห้องพักผู้ป่วยทั่วไปต่อไป
ก่อนหน้านี้ เสี่ยวเฉินเคยไปตรวจสุขภาพมา และได้รับแจ้งว่าตัวเองมีภาวะไขมันในเลือดสูง แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ยังคงทานเนื้อสัตว์อยู่ทุกมื้อ กระทั่งล้มป่วยในที่สุด
ภาพจาก sohu.com, เฟซบุ๊ก China Xinhua News