กินยาคุมกำเนิดอยู่ทุกวัน แต่ก็ดันท้องขึ้นมาได้ นี่เราตั้งครรภ์ได้ยังไงทั้งที่กินยาคุมมาโดยตลอด สาว ๆ ลองเช็กกันค่ะว่าได้พลาดทำสิ่งเหล่านี้ระหว่างที่กินยาคุมอยู่หรือเปล่า
หากเรายังไม่พร้อมจะตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหน
เชื่อว่าวิธีคุมกำเนิดที่หลายคนเลือกใช้คือการกินยาคุมกำเนิด เพราะสะดวก
ราคาไม่แรงมาก และก็ช่วยคุมกำเนิดได้ในระดับหนึ่ง
แต่ทว่ามีหลายกรณีศึกษาที่กินยาคุมเป็นประจำแต่ดันท้องป่องขึ้นมา
อ้าว...อยากรู้ไหมคะว่าวิธีกินยาคุมกำเนิด ของคนที่กินยาคุมแล้วท้อง พลาดตรงจุดไหนบ้าง ตามมาเช็กกันเลย
1. กินยาคุมกำเนิดไม่ตรงเวลา
2. กินยาเม็ดคุมกำเนิดร่วมกับยาปฏิชีวนะ ยากันชัก และยารักษาวัณโรค
ยารักษาโรคบางชนิดมีผลลดประสิทธิภาพของยาเม็ดคุมกำเนิด เช่น ยาปฏิชีวนะที่อาจลดการดูดซึมยาเม็ดคุมกำเนิด (บางชนิด) หรือยากันชัก (epilepsy) และยารักษาวัณโรค ดังนั้นหากกินยาคุมกำเนิดและกินยาเหล่านี้ด้วย ประสิทธิภาพการป้องกันของยาคุมกำเนิดอาจลดลงจนเพิ่มโอกาสในการท้องได้
3. กินยาเม็ดคุมกำเนิดกับยารักษาทางจิตเวช
นอกจากยาปฏิชีวนะแล้ว ยารักษาจิตเวชบางตัวก็มีผลกับยาเม็ดคุมกำเนิดเช่นกัน อย่างยาควบคุมอารมณ์ (stabilizers) ที่ใช้เพื่อปรับอารมณ์ของคนไข้ให้คงที่ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีอาการซึมเศร้า กลุ่มผู้ป่วยโรคไบโพลาร์ ยาชนิดนี้ก็มีส่วนลดประสิทธิภาพของตัวยาคุมกำเนิดด้วยนะคะ กินคู่กันก็แน่นอนว่าโอกาสจะท้องย่อมมากขึ้น
4. อาเจียน หรือท้องเสียหลังกินยาเม็ดคุมกำเนิด
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ท้องทั้ง ๆ ที่กินยาคุมกำเนิดเป็นประจำ ก็เพราะว่าบางคนกินยาเม็ดคุมกำเนิดไปแล้วแต่ดันอาเจียนออกมาหมดไส้หมดพุงภายใน 2 ชั่วโมงหลังกินยา หรือมีอาการท้องเสียข้ามวัน เคสอย่างนี้บอกเลยว่ายาที่กินเข้าไปยังไม่ทันได้ถูกดูดซึมไปออกฤทธิ์อะไรทั้งสิ้นค่ะ ยิ่งหากอาเจียนหรือท้องเสียติดกันสองวัน ก็เท่ากับพลาดยาไป 2 เม็ด โอกาสท้องก็เห็นได้อย่างชัดเจนเลย
5. เก็บยาคุมกำเนิดผิดที่ผิดทาง
ยาเม็ดคุมกำเนิดควรเก็บไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิระหว่าง 15-30 องศาเซลเซียส เพราะหากยาคุมกำเนิดได้รับแสงแดด หรือความร้อนที่เกิน 40 องศาเซลเซียส อาจทำให้ตัวยาเสื่อมประสิทธิภาพได้ หรือในกรณีที่เก็บยาคุมกำเนิดในที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ในตู้เย็น ในห้องน้ำ ก็มีส่วนทำให้ตัวยาเสื่อมคุณภาพได้เช่นกัน ซึ่งก็ส่งผลต่อโอกาสตั้งครรภ์ที่มากขึ้นนะคะ ฉะนั้นเพื่อการป้องกันที่ดี ก็ควรเก็บยาคุมกำเนิดในที่ที่เหมาะสมจะดีกว่า
6. ลืมกินยาคุมกำเนิดแบบไม่รู้ตัว
ในแต่ละวันเราทำกิจกรรมอะไรมากมาย เชื่อไหมคะว่าเลยทำให้สาว ๆ หลายคนลืมกินยาคุมกำเนิดแบบไม่รู้ตัว บางคนคิดว่ากินไปแล้วทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้กิน พอมารู้อีกทีก็วันถัดไปที่ต้องกินยาคุมตามกำเนิดเดิม กลายเป็นว่าลืมกินยาคุมกำเนิดไป 1 วัน ซึ่งการลืมกินยาคุมกำเนิดนี่ล่ะจะทำให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดลดลงได้ ดังนั้นหากไม่แน่ใจ แนะนำให้สละเวลามาเช็กแผงยาคุมกำเนิดให้ชัวร์อีกที จะได้ไม่พลาดเนอะ
7. กินยาคุมกำเนิดไม่ถูกวิธี
โดยเฉพาะในช่วงเริ่มกินยาเม็ดคุมกำเนิดแผงแรก ซึ่งเราควรเริ่มกินยาเม็ดคุมกำเนิดแผงแรกในวันที่ 1-5 ของการมีประจำเดือน (นับวันที่มีประจำเดือนวันแรกเป็นวันที่ 1) เพื่อเป็นการปรับฮอร์โมนที่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด ทว่าหากเริ่มกินยาเม็ดคุมกำเนิดก่อนประจำเดือนมา หรือหลังวันที่ 5 ของการมีประจำเดือนไปแล้ว กรณีนี้บอกเลยว่ายาเม็ดคุมกำเนิดไม่ได้ช่วยอะไรเลยค่ะ ยิ่งถ้าไม่ใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วย โอกาสท้องคือมาเต็มนะ
อีกกรณีหนึ่งคือความสับสนหลังกินยาคุมหมดแผงแรก โดยบางคนเลือกกินยาเม็ดคุมกำเนิดชนิด 21 เม็ด แล้วไม่ได้กินยาคุมกำเนิดแผงใหม่ในวันที่ 8 ของการหยุดยา เพราะเข้าใจว่าต้องรอประจำเดือนมาก่อนจึงจะเริ่มกินยาแผงใหม่ได้ ดังนั้นเมื่อหยุดยาแล้วประจำเดือนไม่มาสักที เลยยังไม่ได้กินยาเม็ดคุมกำเนิดแผงใหม่ ทำให้เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ดี ต้องบอกให้เข้าใจตรงกันด้วยว่า ไม่มีวิธีคุมกำเนิดไหนที่ให้ผล 100% เต็ม เว้นเสียแต่เราจะไม่มีเพศสัมพันธ์กับใครเลย ฉะนั้นการเลือกคุมกำเนิดไม่ว่าจะวิธีใดก็ตาม ควรปฏิบัติให้ถูกต้องด้วยนะคะ โดยเฉพาะการใช้ยาคุมกำเนิด ซึ่งเรามีวิธีกินยาคุมกำเนิดที่ถูกต้องมาฝากด้วย
- วิธีกินยาคุมกำเนิด ไขข้อข้องใจ...กินยาคุมกำเนิดอย่างไรให้ถูกวิธี
ขอบคุณข้อมูลจาก
หมอชาวบ้าน, องค์การอาหารและยา, กรมสุขภาพจิต, สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยบูรพา, webmd, bustle, healthline