กลัวเป็นเบาหวานแต่ก็ชอบกินขนมและของว่างจนติดเป็นนิสัย ไม่เป็นไรค่ะ เรามีของว่างน้ำตาลต่ำที่จัดเป็นอาหารดัชนีน้ำตาลต่ำ หรือ อาหาร Low glycemic index มาให้เลือกกิน
1. ขนมปังโฮลวีต
ขนมปังโฮลวีตมีค่าดัชนีน้ำตาลอยู่ที่ 50-53% ต่อแผ่น ซึ่งจัดว่าเป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ แต่ทั้งนี้ก็ควรกินเป็นขนมปังเพียว ๆ หรือสามารถทาเนยถั่วบาง ๆ ได้นิดหน่อยค่ะ
2. ถั่วอบแห้ง
ถั่วพีแห้ง ถั่วพิสตาชิโอ และถั่วชนิดอื่น ๆ ในปริมาณ 10-20 เม็ดจะมีค่าดัชนีน้ำตาลอยู่ที่ 28-48% ซึ่งก็จัดว่าเป็นของว่างน้ำตาลต่ำ แถมยังได้โปรตีนจากถั่วอีกด้วย
3. เมล็ดทานตะวันอบแห้ง
เมล็ดทานตะวันอบแห้งเคี้ยวเพลิน ๆ ในปริมาณไม่เกิน 28 กรัม ก็มีค่าดัชนีน้ำตาลอยู่ที่ประมาณ 30-35% จัดเป็นของว่างน้ำตาลต่ำที่น่าสนใจไม่เบาเลย
4. น้ำส้มคั้นสดไม่ใส่น้ำตาล
น้ำส้มคั้นสดไม่ใส่น้ำตาลจะให้ค่าดัชนีน้ำตาลราว ๆ 50-53% ต่อส้ม 1 ลูก ดังนั้นหากอยากกินน้ำผลไม้ก็กินน้ำส้มคั้นสดแบบไม่ใส่น้ำตาลก็ได้นะคะ เพียงแต่ต้องจำกัดปริมาณสักหน่อย
5. นมเต็มไขมัน
นมสดจืดที่มีไขมันก็สามารถดื่มได้ค่ะ เพราะมีค่าดัชนีน้ำตาลอยู่ที่ราว ๆ 39% ต่อกล่องเท่านั้นเอง
6. โยเกิร์ต
โยเกิร์ตรสธรรมชาติที่ไม่มีส่วนผสมของเนื้อผลไม้ใด ๆ มีค่าดัชนีน้ำตาลอยู่ที่ประมาณ 14-33% ต่อถ้วย จัดเป็นของว่างน้ำตาลต่ำอีกตัวที่กินได้หายห่วงเบาหวาน
7. เม็ดมะม่วงหิมพานต์
แม้จะเป็นถั่วที่มีไขมันอยู่พอสมควร แต่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ก็จัดอยู่ในกลุ่มของว่างน้ำตาลต่ำค่ะ เพียงแต่ควรต้องจำกัดปริมาณในการรับประทานให้ไม่เกิน 1 กำมือหรือประมาณ 10-15 เม็ดเท่านั้น ซึ่งจะได้ค่าดัชนีน้ำตาลอยู่ที่ราว ๆ 27-32%
8. กล้วยน้ำว้าสุก
กล้วยเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่มีประโยชน์มากมาย ทั้งช่วยแก้ท้องผูก ช่วยดูแลลำไส้และกระเพาะอาหาร อีกทั้งยังเป็นผลไม้ที่มีให้กินทุกฤดูด้วยนะคะ ที่สำคัญกล้วยน้ำว้าสุก 1 ผลมีค่าดัชนีน้ำตาลอยู่ที่ 36.8% เท่านั้นค่ะ ดังนั้นใครกลัวเป็นเบาหวานหรือคนที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดก็กินกล้วยน้ำว้าสุกได้วันละผลเลย
9. มะม่วงเขียวเสวยดิบ
มะม่วงเขียวเสวยดิบเป็นผลไม้ที่มีแป้งอยู่พอสมควร ดังนั้นมะม่วงเขียวเสวยดิบ 1 ลูกจะให้ค่าดัชนีน้ำตาลอยู่ที่ประมาณ 26% ซึ่งหากจะให้ดีก็ควรจำกัดปริมาณรับประทานสักครึ่งลูกหรือเต็มที่ก็ 1 ลูกเท่านั้น เนื่องจากมะม่วงดิบมีแป้งอยู่นะคะ ถ้าไม่อยากอ้วนหรือน้ำหนักขึ้นก็กินในปริมาณพอเหมาะจะดีกว่า
10. ฝรั่ง
ฝรั่ง 1 ลูกให้ดัชนีน้ำตาลอยู่ที่ประมาณ 17-34% กินได้วันละ 1 ลูกเท่านั้นนะคะ แต่อย่างไรก็ตาม ฝรั่งก็เป็นผลไม้ที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง มีวิตามินซีสูง และไฟเบอร์ก็เยอะด้วย
11. ส้มสายน้ำผึ้ง
ส้มเป็นผลไม้ที่มีรสหวาน ให้ค่าดัชนีน้ำตาลอยู่ที่ 44% ต่อผล ดังนั้นหากอยากกินส้มก็ควรกินเพียง 1 ผลต่อวันก็พอค่ะ
12. แก้วมังกร
แก้วมังกรก็มีแป้งอยู่เช่นกันค่ะ ผลไม้ชนิดนี้จึงให้ค่าดัชนีน้ำตาลราว ๆ 37% ต่อ 1 ผล ช่วงไหนเป็นฤดูของแก้วมังกรก็อย่าลืมซื้อมากินกันบ้างสักวันละ 1 ผลนะคะ เพราะแก้วมังกรช่วยลดน้ำหนักได้ด้วยล่ะ
13. สับปะรด
ผลไม้ยังไงก็เป็นของว่างที่ดีต่อสุขภาพ อย่างสับปะรดที่มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร แก้อาการท้องผูก ก็มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำราว ๆ 45% เท่านั้น เพียงแต่เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไป แนะนำให้รับประทานได้ไม่เกินมื้อละ 6-8 ชิ้นคำนะคะ
อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตแต่ละชนิดย่อมมีน้ำตาลแฝงอยู่ เพราะสุดท้ายแล้วร่างกายเราก็จะเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตเหล่านั้นเป็นน้ำตาล ทว่าอาหารหรือของว่างที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ จะถูกย่อยในกระเพาะช้า ๆ จึงทำให้น้ำตาลกลูโคสถูกปล่อยเข้าไปในกระแสเลือดอย่างช้า ๆ ระดับน้ำตาลในเลือดก็จะขึ้นช้าด้วยเช่นกัน จึงเหมาะกับคนที่กลัวจะเป็นโรคเบาหวาน หรือผู้ที่เป็นเบาหวานและต้องควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด
แต่อย่างไรก็ดี หลักสำคัญของการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี ห่างไกลโรค ก็คือการรับประทานอาหารให้ตรงเวลา รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และหลากหลาย จำกัดปริมาณน้ำตาลและของหวาน รวมทั้งลดอาหารที่มีไขมันสูง และรับประทานผัก-ผลไม้ตามสัดส่วน ที่สำคัญต้องหมั่นดูแลน้ำหนักตัวเองไม่ให้เกินมาตรฐานด้วยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ชมรมอยู่ดีมีสุข คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล, สมาคมนักกำหนดอาหาร โรงพยาบาลเทพธารินทร์, DrSant, Thammasat University Digital Collections, everydayhealth, healthyeating, joybauer, nuts
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ชมรมอยู่ดีมีสุข คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล, สมาคมนักกำหนดอาหาร โรงพยาบาลเทพธารินทร์, DrSant, Thammasat University Digital Collections, everydayhealth, healthyeating, joybauer, nuts