ในอดีต \'วัด\' เคยเป็นศูนย์รวมของชุมชน เป็นทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล เป็นที่พักโรงทานเพื่อคนยากไร้ เป็นสถานที่จัดงานของชุมชน เป็นพื้นที่พักผ่อนฟื้นฟูดูแลจิตใจเมื่อยามทุกข์ร้อน แต่น่าเสียดายที่วิถีชีวิตปัจจุบัน ทำให้คนเราค่อย ๆ ถอยห่างจากวัดออกไปเรื่อย ๆ และยิ่งเราห่างวัดออกไปมากเท่าไร ก็ดูคล้ายจิตใจของเราจะแห้งแล้งมากขึ้นเรื่อย ๆ เท่านั้น
คำถามนี้คือโจทย์หลักที่ดังขึ้นในใจของทีมงานสถาบันอาศรมศิลป์ทุกคนใน \'โครงการวัดบันดาลใจ\' ซึ่งเป็นโครงการที่มีจุดประสงค์หลักที่จะ \'บูรณะ ฟื้นฟู\' ให้วัดได้กลับมาเป็นสถานที่ \'บันดาลใจ\' ให้เกิดสิ่งดีงามขึ้นในสังคมไทยเหมือนเช่นในอดีตอีกครั้ง
"ก่อนจะเริ่มบูรณะฟื้นฟูแต่ละวัด เราต้องศึกษาก่อนว่าปัญหาคืออะไร ? เราไม่ได้เอาเงินเข้าไปให้วัดสร้างตึกใหม่ แต่เราเข้าไปชวนวัดทำผังแม่บทการพัฒนา เรามองเรื่องบทบาทของการเผยแผ่ธรรม มีการใช้สอยสัดส่วนพื้นที่อย่างเหมาะสมระหว่างวัดและชุมชน เกิดการสร้างสรรค์กิจกรรมของชุมชนในวัดอย่างมีคุณค่า ถ้าจะต้องใช้เงิน ทุกบาททุกสตางค์ต้องคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด" คุณปริยาภรณ์ สุขกุล ผู้จัดการโครงการวัดบันดาลใจกล่าวถึงแนวคิดในการเข้าไปบูรณะฟื้นฟูวัดในโครงการ
"ด้วยวัฒนธรรมไทยทุกคนพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือดูแลวัดอยู่แล้ว แต่ขอให้เพิ่มความเข้าใจ หลักเหตุผลและการประมาณตนตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเข้าไปด้วย ขอให้ไตร่ตรองว่าเมื่อไปสร้างสิ่งใดให้วัดแล้วจะต้องไม่เกิดเป็นภาระปัญหา แต่ขอให้เกิดเป็นประโยชน์และตรงกับความต้องการของวัดอย่างแท้จริง"
เรียนรู้ 9 เส้นทางแห่งการทำความดีไปด้วยกันที่ palangpandin.com คุณเองก็เป็นส่วนหนึ่งในการทำความดีให้กับสังคมได้ เพราะ \'1 พลังทำดี สานต่อเป็นพลังของแผ่นดิน\'