แรงบันดาลใจถือเป็นวัตถุดิบสำคัญในการลดน้ำหนักให้ถึงเป้าหมาย เพราะเมื่อเรามีเป้าหมาย ก็เหมือนมีอะไรคอยเตือนใจไม่ให้เผลอหลุดออกจากวงจรลดความอ้วนไปได้ เหมือนรีวิวลดน้ำหนักของสาวน้อยนักเรียนชั้นมัธยมปลายคนนี้ ที่มีแรงผลักดันจากดาราฮอลลีวูดที่เธอชื่นชอบ บวกกับความรู้สึกว่าตัวเองอ้วนตัวจะแตกเกินจะรับไหวอีกต่อไป ภารกิจลดพุง เฟิร์มหุ่นใน 2 เดือนก็เริ่มต้นขึ้น ลองมาดูรีวิวลดน้ำหนักของคุณฮอบบิทที่ 3 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม กันดีกว่าค่ะ ว่า 2 เดือนที่ผ่านมา เธอลดน้ำหนักยังไงบ้าง
#ความเป็นมา+จุดประสงค์ของกระทู้
จุดประสงค์ของกระทู้ คือการควบคุมน้ำหนักของเราค่ะ ต้องบอกก่อนว่า จขกท. สูงแค่ 141 เซนติเมตร และน้ำหนักช่วงที่รู้สึกว่าต้องลดได้แล้ว ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว คือตอนที่น้ำหนักขึ้นมาที่ 43 กิโลกรัมค่ะ แน่นอนว่าส่วนสูงอย่างเราถ้าอยากผอมน้ำหนักไม่ควรเกิน 40 กิโลกรัม
เรื่องมันมีอยู่ว่า ช่วงนั้นที่น้ำหนักขึ้น ใคร ๆ ก็ทักว่า อ้วน TT น้องก็เรียกพี่หมู ๆๆ เพื่อนก็บอกว่าอย่ากินเยอะไปกว่านี้นะ 5555 ตอนนั้นก็คิดแล้วค่ะว่าเราอ้วนขนาดนั้นเลยเหรอ พอส่องกระจกสังเกตรูปร่างตัวเองดี ๆ แล้ว...อืม ดูอ้วนจริง ๆ ด้วย
ส่วนข้างล่างเป็นรูปที่ถ่ายไว้ก่อนลดน้ำหนักแบบจริงจังค่ะ (ขอโทษที่ไม่ได้ถ่ายบีฟอร์อาฟเตอร์มาให้ดูนะคะ เพราะไม่คิดว่ามันจะได้ผลกับเราขนาดนี้)
ดูดี ๆ จะเห็นได้ว่า...
เป้าหมายของเราที่จะมาแชร์ในกระทู้นี้คือ การควบคุมน้ำหนักค่ะ ส่วนลดน้ำหนักไม่ค่อยอยากพูดถึงเท่าไร เพราะเราเคยลดแบบผิด ๆ คือกินอาหารน้อยมาก ข้าวไม่เต็มทัพพี+กับนิด ๆ หน่อย มันได้ผลก็จริงค่ะ แต่พอกลับมากินเหมือนเดิมทำไมรู้สึกพุงมันยื่นกว่าเก่าก็ไม่รู้ 555 มาดูไทม์ไลน์ตามรูปเลยนะคะ
1. ภาพถ่ายวันที่ 29 พฤศจิกายน 2560 (หลังจากหมดประจำเดือนไปสองวัน)
เราเป็นประจำเดือนช่วงวันที่ 25-26 ค่ะ ซึ่งปกติเราจะเป็นประมาณ 4-5 วัน แต่ครั้งนี้มันมาน้อยมาก ๆ จนเราตกใจ+กับพุงที่ป่องออกมานานกว่าที่เคยเป็น คือป่องตั้งแต่ก่อนมีประจำเดือน คือวันที่ 23 จนถึง 29 พุงก็ยังป่องเหมือนในรูปเลยค่ะ ซึ่งปกติแล้วพุงเราไม่เคยป่องนานขนาดนี้ เลยเสิร์ชข้อมูลดูว่าเป็นเพราะอะไร
ก็ได้ข้อมูลมาว่า อาการพุงป่องก่อนมีประจำเดือนเนี่ยมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว วิธีแก้ก็คือให้ลดของหวานของเค็มแล้วก็เคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ ค่ะ ส่วนพุงจะค่อยๆ ยุบไปเอง สรุปคือ ทำใจรอค่ะ 555 แล้วมันก็ค่อย ๆ ยุบไปจริง ๆ
2. แต่เราก็ยังไม่หายสงสัยอยู่ดีค่ะ ว่าทำไมพุงมันถึงป่องนานจัง 555
เราเลยตั้งโปรแกรมออกกำลังกายใหม่อีกครั้ง (ที่พุงป่องออกมาเราเดาว่าอาจจะเป็นเพราะเรากลับมากินเยอะกว่าเดิม ยิ่งตอนช่วงมีประจำเดือนเรากินเป็นพายุเลยค่ะ 555 ส่วนอีกอย่างนึงคือเราน่าจะเบิร์นแฟตน้อยไป) ในโปรแกรมใหม่นี้เราเลยเพิ่มมาเป็น 30 นาทีค่ะ สำหรับเบิร์นไขมัน ส่วนบริหารหน้าท้องก็ทำ 17 นาที เวทช่วงอกกับแขนอีก 10 นาทีค่ะ รวมกันเป็น 57 นาที ขอตั้งชื่อโปรแกรมนี้ว่า 57 mins ละกันค่ะ เราเริ่มทำตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2560
อันนี้ภาพถ่ายวันที่ 4 ธันวาคม 2560
จากนั้นเราก็ทำมาเรื่อย ๆ ค่ะ อาทิตย์นึงมีพักบ้าง 1-2 วัน พอได้ออกกำลังกายแล้ว รู้สึกได้เลยค่ะว่าร่างกายกระชับมากขึ้น คล่องตัวขึ้น ส่วนเรื่องอาหารเรากินคลีนบ้างไม่กินบ้าง ส่วนมากจะควบคุมน้ำหนักด้วยการคุมแคลอรีค่ะ เราเลยไม่ค่อยกังวลกับของกินมากเท่าไร ส่วนขนมหวานของทอดก็ยังกินอยู่ค่ะ แต่ไม่ได้เยอะเหมือนเมื่อก่อนเท่าไรแล้ว
ภาพถ่ายวันที่ 9 ธันวาคม 2560 (ยังคงอยู่ในโปรแกรม 57 mins)
ภาพถ่ายวันที่ 16 ธันวาคม 2560 (เริ่มเจ็บหน้าอก พุงเริ่มป่องเหมือนประจำเดือนใกล้มา)
หลังจากนั้นวันที่ 18 เราก็เป็นประจำเดือนค่ะ ครั้งนี้มาประมาณสามวัน แต่ถือว่ามาเยอะกว่ารอบก่อนมากค่ะ ตอนนี้เริ่มโอเคแล้ว555
ภาพถ่ายวันที่ 21 ธันวาคม 2560
#แรงบันดาลใจ+วิธีคุมน้ำหนักแบบนับแคลอรี
มาดูหัวข้อนี้กันบ้างค่ะ แน่นอนว่าถ้าจะลดน้ำหนักหรืออยากได้สัดส่วนดี ๆ ต้องมีหุ่นต้นแบบที่เราอยากได้เพื่อเป็นกำลังใจใช่ไหมคะ สำหรับเราคนนี้เลยค่ะ Briana Evigan อิอิ ชอบมาตั้งแต่เรื่อง Step up แล้ว
ไม่รู้ทำไมตอนเด็ก ๆ ถึงมองว่าเขาอ้วน 555 แต่พอมาดูเรื่องนี้ตอนโตอีกทีรู้สึกว่ามันเป็นหุ่นในฝันของเราเลย มีไขมันนิด ๆ กล้ามเนื้อหน่อย ๆ 555 เซ็กซี่ฝุด ๆ
(เครดิตภาพ : fanpop.com)
1. เริ่มแรกเราต้องหาค่า BMR กันก่อนค่ะ
มันคือค่าพลังงานพื้นฐานในการใช้ชีวิต เช่น การนอน หรือหายใจ ซึ่งวันวันหนึ่งเราต้องกินให้ถึง BMR ค่ะ จะได้มีแรง+ระบบเผาผลาญจะได้ไม่เสีย ซึ่งค่า BMR สามารถคำนวณตามเว็บในกูเกิลได้เลยค่ะ หรือจะเข้าไปในเว็บนี้ก็ได้ https://www.fatnever.com/bmr/ ตัวเว็บจะคำนวณให้ทั้งค่า BMR และ TDEE เลยค่ะ
2. วันวันหนึ่งเราอาจจะมีกิจกรรมที่ต้องใช้แรงอื่น ๆ อีก
เช่น เดิน วิ่ง ขึ้นบันได อาบน้ำ แปรงฟัน ทำให้เราต้องใช้พลังงานเพิ่มไปอีกค่ะ นั่นก็คือพลังงานโดยรวมทั้งหมดที่เราใช้ต่อวันนั่นเอง ส่วนนี้เรียกว่าค่า TDEE ค่ะ หาคำนวณได้ในเว็บเช่นกัน
3. สมมติเราคำนวณค่า BMR ได้ 1,200 ค่า TDEE ได้ 1,900
ถ้าอยากลดน้ำหนักก็กินให้น้อยกว่า TDEE ค่ะ แต่ห้ามต่ำกว่า BMR ซึ่งที่เรายกตัวอย่างมาก็คือ 1,200 นั่นเอง แต่ถ้าใครอยากให้น้ำหนักเท่าเดิมไม่ลดไม่เพิ่ม ก็กินประมาณ 1,800-1,900 ค่ะ
#วันวันหนึ่งเรากินอะไรบ้าง
จริง ๆ ตอนแรกเราอยากได้หุ่นแบบลีน ๆ เหมือนรูปข้างล่าง แต่มาคิด ๆ ดู เราคงทำไม่ได้ หรือคงอีกนานกว่าจะได้หุ่นแบบในรูป เพราะต้องกินคลีน แบบคลีนให้เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายน้อย ๆ เลย ซึ่งเราทำไม่ได้แน่ ๆ TT โดยส่วนตัว จขกท. ขับรถไม่เป็นค่ะ เวลาออกไปซื้อของกินต้องไปกับแม่ตลอด แถมที่บ้านก็ไม่ได้กินคลีนเหมือนกันด้วย ส่วนมากจะเป็นอาหารตามสั่งซะมากกว่า ซึ่งถ้าเราจะกินคลีนก็ต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายไปอีกค่ะ รอไว้ทำงานหาเงินเองได้ก่อน เราอาจจะหันมากินคลีนให้ได้หุ่นเหมือนในรูป 555
(เครดิตภาพ : thehairpin.com)
ตอนนี้เรากินเป็นปกติเลยค่ะ แต่ถ้ามื้อไหนคลีนได้ก็คลีน ส่วนของหวานพวกขนม ช็อกโกแลตก็กินบ้างค่ะ แต่ลดเหลือครึ่งนึงแทน และนี่ก็อาจจะเป็นสาเหตุของแฟตเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเราที่ไม่ยอมหายไปไหนสักที 555
อาหารมื้อว่าง ที่พยายามคลีนแบบสุด ๆ
คลิปนี้เป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอค่ะ ในคลิปมี 37 นาที แต่เราทำแค่ 30 นาที
ส่วนคลิปนี้ท่าดูเหมือนจะง่าย แต่พอทำซ้ำ ๆ แล้วเหนื่อยเอาการเหมือนกันค่ะ 5555
ส่วนถ้าใครเบื่อการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ลองมาเต้นดูก็ได้นะคะ สนุกด้วย เรามีช่องแนะนำสองช่องคือ Fit dance กับ Fitness marshall ค่ะ แต่ต้องเต้นหลาย ๆ เพลงนะ 55 ถ้าใครชอบท่าง่ายลองของ Fitness marshall ดูค่ะ ถ้าอยากได้ยากขึ้นอีกนิดก็ลองของ Fit dance ดู
ของ Fitdance
ของ Fitness marshall
ต่อมาเป็นการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องค่ะ
เราเล่นวันละสองคลิป บางวันก็สลับคลิปไปเรื่อยๆ ค่ะ
คำแนะนำก่อนออกกำลังกาย
1. หลังดื่มน้ำและกินอาหารควรพักสักสองชั่วโมงก่อนออกกำลังกายค่ะ ไม่งั้นอาจจะจุกได้ ทำให้ออกกำลังกายไม่เต็มที่ด้วย
2. ห้ามกินเผ็ดก่อนออกกำลังกายเด็ดขาด ไม่งั้นมีขึ้นจมูกแน่ ๆ ค่ะงานนี้ เราเจอมาแล้ว 555 เข็ดมาก
3. ควรวอร์มร่างกายด้วยท่าบริหารง่าย ๆ ก่อนออกกำลังค่ะ ไม่งั้นจะบาดเจ็บได้
4. แรก ๆ อาจจะรู้สึกเจ็บ เมื่อยตามร่างกาย แต่พอผ่านไปสักอาทิตย์ก็จะดีขึ้นเองค่ะ ร่างกายก็จะเริ่มชินกับการออกกำลัง จะไม่ค่อยเหนื่อยง่ายเหมือนตอนเล่นแรก ๆ ค่ะ
5. ถ้าเหนื่อยควรจิบน้ำเป็นพัก ๆ อย่ากระดกเป็นอึก ๆ ระหว่างออกกำลังเดี๋ยวจะจุกค่ะ ตอนแรกที่เราออกใหม่ ๆ กินน้ำเป็นว่าเล่นเลย หลัง ๆ มานี่น้ำแทบไม่แตะเลยค่ะ แต่ถ้าเหนื่อยก็ควรพักจิบน้ำนะคะ
6. สำหรับใครที่ทำท่าบริหารหน้าท้อง ถ้าจะให้ถูกคือหน้าท้องเราต้องเกร็งค่ะ ลองทำสมาธิไปที่หน้าท้องนะคะ นึกถึงพุงเข้าไว้ เราทำแล้วรู้สึกได้ผลมากค่ะ ถ้าบางช่วงของคลิปท่าไหนทำไม่ได้ลองเปลี่ยนเป็นท่าที่เราทำได้ดูค่ะ แล้วค่อย ๆ อัปสกิลไปเรื่อย ๆ
สุดท้ายนี้อยากบอกทุกคนว่า มาออกกำลังกายกันเถอะค่ะ มันดีต่อหุ่นและสุขภาพมากจริง ๆ อยากพิมพ์เยอะกว่านี้นะคะ แต่ตอนนี้ตัวอักษรจะเกินแล้ว ขอบคุณที่อ่านจนมาถึงตรงนี้นะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
คุณฮอบบิทที่ 3 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม