สิบกว่ากิโลที่ลดน้ำหนักไป ก็ได้หุ่นเพรียวบางดูน่ารักใส ๆ ไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วนใด ๆ ผอมด้วยตัวเองได้ก็น่ารักอย่างกับเน็ตไอดอลเลย !

ซึ่งถ้าคุณก็เป็นคนที่ลดน้ำหนักไม่สำเร็จหรือไม่เคยคิดจะลดน้ำหนักเลยในชีวิต เรามีรีวิวลดน้ำหนักจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 2636912 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มากระตุ้นความรู้สึกอยากผอมลงให้คุณค่ะ เพราะเธอคนนี้ลดน้ำหนักจาก 65 กิโลกรัมเหลือเพียง 47 กิโลกรัม ณ ปัจจุบัน และแค่ผอมลงเท่านั้น ก็สวยใสขึ้นจนแทบไม่มีเค้าเดิมหลงเหลืออยู่เลย !
วันนี้แจมจะมาเล่าประสบการณ์ในการดูแลรูปร่างของตนเอง จากวัยมัธยม (ม.3) มาจนเรียนจบมหาวิทยาลัยค่ะ และนอกจากนี้ยังบอกขั้นตอนคร่าว ๆ ว่าทำไมแจมถึงผอมได้ มีวิธีการยังไง ? เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่านที่ตั้งใจจะลดน้ำหนักนะคะ
หวังว่ากระทู้นี้คงจะเป็นประโยชน์ค่ะ
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยจ้า
ก่อนอื่น...ขอลงรูปเรียกน้ำย่อยก่อนแล้วกันนะคะ
(สาว ๆ คนไหนเคยเล่น Jeban อาจจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้วค่ะ ใช่แล้ววว แจมกลับมาแล้วจ้า)
รูปก่อนลด


อะไรทำให้แจมอยากลดน้ำหนัก ?
- การโดน Bully
ในช่วง 8-9 ปีที่แจมน้ำหนักขึ้น โดนเพื่อนล้อเยอะมาก (ทุกยุคเลยค่ะ เพื่อนสมัยโรงเรียนยันมหาวิทยาลัย)
ไม่ว่าจะเป็น "E ช้าง" "อ้วน" "โอ่ง" โอ้โหวว...สารพัดจะโดนมาหมด ที่เจ็บไปกว่านั้น คือจำได้ว่าเคยมีความฝันคือ อยากเป็นแอร์โฮสเตส แน่นอนค่ะ พูดประโยคนี้ให้ใครฟัง ทุกคนก็จะหัวเราะเป็นเสียงเดียวกันหมดว่า "อ้วนขนาดนี้ เครื่องบินตกพอดี" ถามว่าเสียใจมั้ย เสียใจมากค่ะ 555
แต่ตอนนี้ถามว่าโกรธมั้ย ไม่เลย ชิล ๆ เลยค่ะ ต้องขอขอบคุณเสียงพวกนี้ ที่เป็นแรงกำลังใจให้เราได้มาถึงจุดนี้ > _ <
- มีความรักค่ะ
ตอนนั้นแอบชอบเพื่อนในคณะที่เรียนด้วยค่ะ เลยคิดจะลดน้ำหนักหลังจากที่อ้วนมาตั้งแต่ ม.3 เพิ่งมาคิดได้ตอนปี 2 ตอนที่แอบชอบเขา แล้วก็อยากให้เขาสนใจ สไตล์น้องน้ำและพี่โชน (สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก 55+)
และหลังจากที่ลดน้ำหนักได้สำเร็จ ผู้ชายคนนั้นบอกเราผอมลงนะ สวยขึ้นนะ โอ๊ย...กรี๊ดบ้านแทบแตกค่า... แต่ถามว่าได้คบกันมั้ย ? เปล่าเลยจ้า...นกเหมือนเดิม 55555
- ต้องทำงาน
ช่วงนั้นแจมเรียน ปี 3 และปิดเทอม ซึ่งอยากหารายได้พิเศษค่ะ เลยไปสมัครร้านไอติมชื่อดังร้านหนึ่ง เจอคนในร้านบอก "อู๊ยย หุ่นแบบนี้กระโปรงแตกพอดี" เอื้อออออ....เลยจ้าา 5555
ข้อนี้สำคัญมาก เป็นเหตุผลจริง ๆ ที่แจมต้องลดน้ำหนัก !!
- สุขภาพ
แจมปวดท้อง-ท้องอืดทุกวัน รวมไปถึงสุขภาพปวดเข่า สิวอุดตันบนใบหน้า รวมไปถึงเสื้อผ้าที่ซื้อแล้วใส่ไม่ค่อยได้ ต้องหาซื้อเสื้อผ้าไซส์พิเศษ 5555
แจมเลยมานั่งส่องกระจกว่า "เฮ้ย ไม่ได้ละนะ เราต้องลดน้ำหนักสักที ไม่งั้นโรคถามหาแน่นอน !"
หลังจากนั้น แจมก็เลยปิดพจนานุกรมของหวาน ของทอดทั้งหมด แล้วหันมาเป็นสายสุขภาพเต็มร้อย
และนี่ล่ะค่ะ คือเหตุผลทั้งหมดว่า ทำไม ? แจมถึงต้องลดน้ำหนัก จาก 65 ลงมาเป็น 47 ได้ในปัจจุบันค่ะ
มาเริ่มกันเลยดีกว่า . . . ^____^
ในขั้นแรก แจมต้องขอบอกก่อนว่า แจมไม่ได้เป็นคนรูปร่างอ้วนมาแต่กำเนิดนะคะ ในช่วงเรียนประถม แม่แจมเองเคยบอกว่า แจมรูปร่างผอม แต่พอเข้าเรียนช่วงมัธยมต้น ด้วยความที่ว่า โรงเรียนมีของกินเยอะแยะมากมายเหลือเกินค่ะ ดิฉันก็เลยได้ของรับขวัญจากโรงเรียนนี้คือ น้ำหนักที่เพิ่มมา 9 โลภายในสองปีนั่นเอง !
ใช่แล้วค่ะ แจมหนัก 45 และกลายเป็น 54 กิโลกรัมนั่นเอง
และต่อมาไม่นาน ขึ้นมัธยมปลาย แจมก็ได้ของขวัญอีกทีนั่นคือ น้ำหนักเพิ่มเป็น 60 กิโลกรัม 55555 (นี่ไม่รวมช่วงมหาวิทยาลัยนะคะ ที่น้ำหนักแจมเพิ่มเป็น 65 อีกที)
และนี่คือรูปที่แจมน้ำหนักขึ้นค่ะ



ขอเน้นนะคะว่าแจมไม่เคย “กินยาลดความอ้วนหรือกินอาหารเสริม” ทุกชนิด แล้วก็ไม่รับรีวิวใด ๆ ทั้งสิ้นจ้า ^__^
เอาล่ะค่ะ ! มีสเต็ปที่มายังไงบ้าง เรามาเริ่มกันที่
1. อาหารการกิน
แรก ๆ แจมกินมังสวิรัติค่ะ โดยเน้นกินแกงจืดผักกาดขาวเต้าหู้ มีคนถามว่า เอ๊ะ ? แล้วมันจะดีต่อสุขภาพเหรอ ? เลยต้องรีบเฉลยว่า แจมกินเนื้อเกษตรแทนค่ะ (เคยมีร้านอาหารแถวบ้านทำเจขาย เนื้อเกษตรอร่อยมากก เหมือนได้กินเนื้อจริง)
ถามว่า...ทำไมแจมต้องกินมังสวิรัติล่ะ ทำไมไม่ลดแป้ง ?
คำตอบคือ แจมขับถ่ายยากค่ะ การกินเนื้อเยอะ ทำให้ย่อยยาก แล้วการขับถ่ายก็ทำงานไม่ปกติ
ต้องขอบอกก่อนว่า การขับถ่าย เป็นส่วนสำคัญในการลดน้ำหนักนะคะ
แต่ แต่ ว่า !! ห้ามอดอาหารเด็ดขาดเลยค่ะ เน้นค่ะ ห้ามอดอาหาร กินสามมื้อตามปกติ
แจมจำได้ว่ามีช่วงที่แจมกินอาหารสองมื้อ และมื้อเย็นไม่กินอะไรเลย/ตัดภาพมา แจมนั่งกินมาม่าสองห่อตอนเที่ยงคืน T_T โอ๊ย...เจ็บปวดใจมากค่ะ 5555
แต่แจมเลือกที่จะกินคอร์นเฟล็ก (ที่เป็นรูปไก่ค่ะ) จำชื่อยี่ห้อไม่ได้แล้วว ผสมกับโยเกิร์ตค่ะ อร่อยมากกกก ! ให้อารมณ์ เหมือนกินดัชชี่ ทูโทนสมัยเด็ก ๆ (อุ๊ยตาย บอกอายุ 555) รวมถึงกินผลไม้ควบคู่ไปด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ฝรั่ง/แก้วมังกร/มะละกอ/ส้มโอค่ะ จะบอกว่ากินสามอย่างนี้แล้ว อิ่มแปล้เลยค่ะ นอนตายตาหลับมาก
เพื่อน ๆ บางคนถ้าถ่ายคล่องอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องกินมังก็ได้นะคะ แต่ขอให้เน้นกินผัก-ผลไม้ดีที่สุดค่ะ เพื่อให้สุขภาพของเราดีขึ้นด้วยนะคะ ^^
และช่วงที่แจมกินมัง ต้องยอมรับเลยค่ะว่า ถ่ายคล่องมาก แล้วพุงก็ลดไปเยอะเลย แต่ก็ยังไม่ผอมค่ะ เพราะอะไรน่ะเหรอ ? เชิญข้อต่อไปเลยจ้า
2. การออกกำลังกาย
จำไว้เลยนะคะเพื่อน ๆ คนเราหายใจได้ด้วยจมูกฉันใด การผอมได้ก็ต้องออกกำลังกายฉันนั้น (ฮั่นแน่ะ ! มีกงมีกลอนอ่า >< 555)
ต้องขอบอกก่อนว่า ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย แจมเรียนอยู่มหาวิทยาลัยดังย่านนครปฐม ติดกับสนามจันทร์ค่ะ ซึ่งแถวนั้นมีลานแอโรบิก ที่วิ่ง ฟิตเนส เต็มไปหมดดดด
แจมเลยไปเต้นแอโรบิกเกือบทุกวันหลังเลิกเรียนค่ะ แต่หลัง ๆ มาแจมขี้เกียจเดินไป รวมถึงช่วงนั้นโดยขโมยจักรยานด้วย T_T ก็เลยไม่รู้จะไปยังไง จึงหาคลิปเต้นแอโรบิกเจ๋งๆ เพื่อนแจมแนะนำคลิปนี้มา...โอ้วแม่เจ้า มันดีจริง ๆ ค่ะ
ต้องขอกราบขอบพระคุณคนทำคลิปนี้ค่ะ เต้นไปสอง Set ก็เหงื่อท่วมแล้วววววว
(จำได้ว่ามีวันหนึ่งฝืนเต้นจนถึง Set 4 นี่นอนกองกับพื้นเลยค่ะ) มันเหนื่อยและเบิร์นมากจริง ๆ ^^
สามารถตามไปดูและทำตามกันได้เลยจ้า
และนอกจากนี้ไม่ได้มีแค่คลิป Pump it up นะคะ ในการออกกำลังกายลดเฉพาะส่วน แจมเลือกที่จะเล่นโยคะเพื่อลดขาค่ะ และนี่คือคลิปที่แจมทำตามประจำค่ะ
3. การจัดฟัน
อ๊ะ ๆ อย่าเพิ่งขัดกันเลยน้า...ว่าจัดฟันมันเกี่ยวอะไรกับการลดน้ำหนัก ? สำหรับแจมเกี่ยวค่ะ เพราะช่วงที่จัดฟันมา ทำให้แจมเลิกขนมไปได้เยอะมากก เพราะแจมจะเป็นคนที่กินขนมแล้วเศษจะเข้าไปติดเหล็กบ่อย ๆ บางทีกินจนเหล็กหลุดก็มีนะคะ 5555 เลยทำให้แจมเลิกกินขนมอบกรอบไปได้ชั่วขณะเลยจ้า
สุดท้ายค่ะ
4. การดีท็อกซ์
ฮั่นแน่ ! หลายคนสนใจการดีท็อกซ์ล้างพิษ สำหรับแจมคือการดีท็อกซ์ด้วยน้ำกาแฟค่ะ หรือเรียกว่าการสวนน้ำกาแฟเข้าลำไส้ แล้วถ่ายออกมาค่ะ (แจมชอบทำในช่วงที่ถ่ายไม่ออก โล่งสบายปลอดโปร่งมาก 555)
(หากใครสนใจ แจมจะมาเขียนรีวิวภาคต่อแบบละเอียดนะคะ แต่ตอนนี้ขอพูดถึงการลดน้ำหนักก่อนจ้า)
4 ข้อที่กล่าวมา ทำให้แจมลดน้ำหนักได้จนถึง 45 กิโลกรัมในช่วงแรก ๆ แต่ก็ขึ้นมาอีก 2 กิโล (เนื่องจากไม่ค่อยได้ออกกำลังกายค่ะ) หลังจากนี้จนถึงปัจจุบัน ก็อยู่ตัวแล้วค่ะ
เอาล่ะ เรามาดูรูปประกอบกัน...


อยากให้ทุก ๆ คนหันมาใส่ใจสุขภาพตัวเองให้ดียิ่งขึ้นนะคะ และฝากถึงคนที่เคยโดนล้อในเรื่องรูปร่างค่ะ
"ไม่มีใครทำให้คุณสวยน้อยลงได้ ถ้าคุณไม่เก็บคำพูดของคนอื่นมาแคร์"
Inspiration จากเพลง Beautiful ของ Christina ค่ะ
เชิดหน้า และหันมาดูแลร่างกายของเรากัน "ความอ้วน" ไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย ไม่ใช่ปมด้อย แต่มันคือ "ปัญหาสุขภาพ" ค่ะ แจมอยากให้มองว่ามันเป็นปัญหาสุขภาพที่ทำให้ร่างกายเราอ่อนแอมากกว่าความสวยความงามนะคะ
สำหรับวันนี้ แจมต้องขอตัวค่ะ
หากมีโอกาสเขียนกระทู้หน้าใหม่ก็ฝากด้วย
ขอบพระคุณที่อ่านจนจบนะคะ

ลดน้ำหนักสำเร็จแล้วไม่ใช่แค่ความผอมและหุ่นดี ๆ ที่ได้กลับมา แต่สุขภาพโดยรวมก็ดีขึ้นด้วยนะคะ ดูจากความน่ารักสดใสของเจ้าของกระทู้สิ ;)
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
คุณ สมาชิกหมายเลข 2636912 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม