ผลไม้พร้อมรับประทานที่ปอกและหั่นให้เสร็จ เลือกกินตามนี้สิหุ่นจะเผ็ดจะเด็ดด้วยรูปร่างดี๊ดี เพราะนี่คือผลไม้ลดความอ้วน !
กำลังลดน้ำหนักอยู่แต่หาอาหารที่รับประทานแล้วไม่อ้วนได้น้อยมาก ยิ่งกับคนที่ไม่มีเวลาทำอาหารกินเอง เช่น พนักงานออฟฟิศ ต้องซื้ออาหารนอกบ้านกินตลอด วิธีที่จะช่วยเราลดน้ำหนักได้มากที่สุดก็เห็นจะเป็นการรับประทานผลไม้ให้มากกว่าขนมทั้งหลายใช่ไหมคะ อ๊ะ ! แล้วผลไม้รถเข็น หรือผลไม้พร้อมรับประทานที่จัดมาเป็นแพ็กขายตามตลาด แบบไหนคือผลไม้ลดความอ้วน ที่ชาวออฟฟิศควรเลือกรับประทานดี กระปุกดอทคอมมีลิสต์รายชื่อผลไม้ไม่อ้วน แนว ๆ ผลไม้ลดน้ำหนักมาบอกต่อตามนี้เลยค่ะ
1. ฝรั่ง
ฝรั่งเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยอาหารสูงและยังมีแคลอรีต่ำ
รับประทานแล้วจะช่วยทำให้อิ่มง่าย
นอกจากนี้ฝรั่งยังมีคุณสมบัติช่วยลดการสลายตัวของแป้งและลดการดูดซึมของน้ำตาล
ด้วยเหตุนี้ฝรั่งจึงเป็นผลไม้ที่เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่กำลังลดความอ้วน
ที่สำคัญฝรั่ง 1 ลูก น้ำหนัก 225 กรัม มีปริมาณน้ำตาลเพียง 3.12
ช้อนชาเท่านั้นเองค่ะ ถ้ารับประทานสักครึ่งลูกก็รับพลังงานไปเพียง 50-60
กิโลแคลอรี 2. แอปเปิล
ผลไม้ลดน้ำหนักอย่างแอปเปิลเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน
และเกลือแร่ที่ดีต่อร่างกาย
ด้วยเหตุผลนี้แอปเปิลจึงเป็นผลไม้ตัวแม่ที่ช่วยลดความอ้วนได้ เพราะไฟเบอร์จะช่วยให้คุณอิ่ม
ไม่กินจุบจิบ ระบบการขับถ่ายก็จะดีเลิศ
แถมยังมีวิตามินที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยเปล่งปลั่งได้อีกต่างหาก
ฉะนั้นจัดแอปเปิลเป็นของว่างระหว่างวันได้เลยค่ะ สัก 1 ผล แคลอรีก็ประมาณ
60 กิโลแคลอรีเท่านั้น
-
มหัศจรรย์แห่งแอปเปิลต่างสี ประโยชน์ก็ดีต่างกันนะ 3. สับปะรด
สับปะรดประมาณ
6-8 ชิ้นพอดีคำ ให้พลังงานราว ๆ 50-70 กิโลแคลอรี
และนอกจากสับปะรดจะมีรสหวานอมเปรี้ยว ไฟเบอร์สูง วิตามิน-แร่ธาตุก็มากแล้ว
ในสับปะรดยังมีเอนไซม์โบรมีเลน (Bromelain) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่มีคุณสมบัติช่วยย่อยโปรตีนได้ดี
ส่งผลให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารโดยเฉพาะโปรตีนไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ
ได้ง่าย ดังนั้นใครกำลังลดน้ำหนักและสร้างกล้ามเนื้อไปพร้อม ๆ กัน
สับปะรดคือผลไม้ที่ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียวค่ะ
อ๊ะ !
สำหรับใครที่อยากลดความอยากอาหาร ลดพฤติกรรมกินจุบจิบของตัวเอง
รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของสับปะรดก็จะช่วยให้เรารู้สึกรับประทานอาหารอย่างอื่นไม่ค่อยอร่อย เพราะเอนไซม์ในสับปะรดจะทำให้เกิดอาการแสบลิ้นสักพัก
ฉะนั้นเมื่อปากรู้สึกอยากอาหารพาอ้วน จิ้มสับปะรดสักชิ้นรับประทานเข้าไปแทนเลยค่ะ
วิธีนี้ช่วยคุณตัดแคลอรีส่วนเกินจากอาหารได้แน่ ๆ
4. แตงโม
แตงโมเป็นผลไม้ฉ่ำน้ำ มีรสชาติหวานชื่นใจ
ดังนั้นใครที่ชอบตบมื้ออาหารด้วยขนมหวาน ของหวาน ของกินเล่นทอด ๆ มัน ๆ
แนะนำให้ใช้เงินที่กำลังจะออกจากกระเป๋าสตางค์ไปซื้อแตงโมรับประทานดีกว่าค่ะ
อร่อยชื่นใจ คลายร้อน คลายรสชาติเผ็ด ๆ เฝื่อน ๆ คอได้
แถมรสหวานจากแตงโมยังช่วยลดความอยากอาหารหวาน ๆ ได้ดีเลยล่ะ
และเห็นแตงโมหวานฉ่ำอย่างนั้น บอกเลยค่ะว่าแตงโมประมาณ 10 ชิ้นพอดีคำ
ให้น้ำตาลแค่ 2.17 ช้อนชาเท่านั้นเอง และให้พลังงานราว ๆ 60-80 กิโลแคลอรี
-
6 ประโยชน์ของเนื้อสีขาวตรงเปลือกแตงโม เพราะแตงโมไม่ได้มีดีแค่เนื้อสีแดง !5. มะละกอ
นอกจากมะละกอจะเป็นผลไม้ตัวแม่ที่ช่วยเรื่องการขับถ่ายแล้ว
มะละกอยังมีปริมาณไฟเบอร์มหาศาล
มีเอนไซม์ช่วยย่อยที่สามารถกำจัดคราบโปรตีนเก่า ๆ
ที่ร่างกายย่อยไม่หมดออกไป เท่ากับช่วยกำจัดอุปสรรคที่ขัดขวางการทำงานของลำไส้
ทำให้อาหารที่เรารับประทานเข้าไปถูกย่อย และดูดซึมได้โดยง่าย
อีกทั้งในมะละกอยังมีฟลาโวนอยด์ แคโรทีน วิตามินซี
และสารต้านอนุมูลอิสระเป็นอาวุธชั้นดีคอยช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย ดังนั้นสาว ๆ ที่อยากมีผิวพรรณดี ผิวพรรณดูอ่อนกว่าวัย
ก็จัดมะละกอได้เลยค่ะ แต่ก็อย่าเผลอรับประทานมะละกอสุกมากจนเกินไปนะ
เพราะมะละกอสุก 8 ชิ้นพอดีคำ จะให้พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี รับประทานมากกว่านี้ก็ได้รับแคลอรีและน้ำตาลจากมะละกอสุกมากขึ้นจ้า
6. ชมพู่
ชมพู่เป็นผลไม้ที่ให้แคลอรีน้อยมาก จากข้อมูลของกองโภชนาการ
กรมอนามัย ทำให้ทราบว่า ชมพู่ทับทิมจันทร์ 1 ผลใหญ่ ปริมาณประมาณ 126 กรัม
ให้พลังงานเพียงแค่ 53 กิโลแคลอรีเท่านั้น ส่วนน้ำตาลก็ประมาณ 2.4
ช้อนชา ต่อ 1 ผล อีกทั้งชมพู่ยังเป็นผลไม้ที่มีสัดส่วนของคาร์โบไฮเดรตไม่มาก
ไฟเบอร์สูง ดังนั้นจึงจัดเป็นผลไม้ที่รับประทานแล้วไม่อ้วนแน่นอนค่ะ
7. แก้วมังกร
เนื้อแก้วมังกรสีขาวประมาณ
1/4 ผล จะให้ไฟเบอร์ประมาณ 2.6 กรัม ในขณะที่ให้พลังงานประมาณ 60
กิโลแคลอรี แก้วมังกรเลยจัดเป็นผลไม้ช่วยลดน้ำหนัก
เพราะเป็นผลไม้ที่มีสารมิวซิเลจ (Mucilage) ซึ่งมีเฉพาะในตระกูลกระบองเพชร
ลักษณะคล้ายวุ้นเจลช่วยดูดซับน้ำในร่างกาย
ทำให้อิ่มอยู่ท้องทั้งที่เป็นเพียงผลไม้เบา ๆ รับประทานแทนอาหารเย็นได้สบายเลย 8. มะม่วง
หลายคนไม่ยอมรับประทานมะม่วงเลย เพราะเกรงว่าแป้งและน้ำตาลในมะม่วงจะทำให้อ้วนขึ้น แต่จริง ๆ แล้วมะม่วงมันปริมาณ 1
ผลขนาดกลาง ให้พลังงานเพียง 87 กิโลแคลอรีค่ะ
อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี และแคลเซียม
ที่สำคัญมะม่วงยังมีไฟเบอร์มากถึง 3
กรัมต่อปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
ดังนั้นหากรับประทานมะม่วงในปริมาณที่พอเหมาะ (สักครึ่งลูก)
ก็จะช่วยให้เราอิ่มอร่อยทั้งปากและท้อง ลดปริมาณการรับประทานขนมพาอ้วนชนิดอื่น ๆ
ได้อีก
9. แคนตาลูป
แคนตาลูปเป็นผลไม้ที่ไม่ได้มีรสชาติหวานมากนัก เพราะเป็นผลไม้น้ำตาลต่ำ โดยแคนตาลูปประมาณ 5 ชิ้นพอดีคำ มีน้ำตาลเพียงแค่ 1.67 ช้อนชาเองนะคะ
และให้พลังงานราว ๆ 60 กิโลแคลอรี นอกจากนี้แคนตาลูปยังเป็นผลไม้ที่มีคาร์บอยู่ในตัวเองเล็กน้อย
พร้อมกับมีโพแทสเซียมค่อนข้างสูง
คนที่กำลังลดน้ำหนักและอยากได้กล้ามเนื้อไปพร้อม ๆ กัน
แคนตาลูปจะช่วยได้ดีในเรื่องกระบวนการสร้างไกลโคเจนให้ร่างกาย
โดยเฉพาะหากรับประทานแคนตาลูปหลังออกกำลังกาย หรือรับประทานแคนตาลูปในช่วงเช้า
ร่างกายจะได้รับพลังงานจากคาร์บและน้ำตาลฟรุกโตส
ทำให้เกิดความรู้สึกสดชื่นได้ง่าย ๆ ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้อง
และช่วยลดความอยากรับประทานของหวานในร่างกายลงด้วย
10. สาลี่
สาลี่ที่มีจำหน่ายในบ้านเรามีอยู่ 4 สายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ สาลี่หอม
สาลี่ก้านยาว สาลี่น้ำผึ้ง และสาลี่หิมะ
ซึ่งสาลี่แต่ละสายพันธุ์ให้พลังงานและน้ำตาลไม่เท่ากัน แต่โดยเฉลี่ยแล้ว
สาลี่ 1 ผล ให้พลังงานราว ๆ 53-120 กิโลแคลอรี และมีน้ำตาลประมาณ 7-12
กรัมต่อผล ดังนั้นหากอยากรับประทานสาลี่แบบไม่อ้วน
แนะนำให้รับประทานสาลี่ครั้งละครึ่งผลก็พอค่ะ
-
8 ประโยชน์ของสาลี่ ผลไม้ฉ่ำน้ำความหมายดี วิตามินก็มีไม่น้อย 11. ลูกไหน-ลูกพรุน
ลูกไหนเป็นผลไม้ที่มีสารไฟโตนิวเทรียนท์
(Phytochemical) และแร่ธาตุสารอาหารสูง
แต่กลับเป็นผลไม้ที่มีแคลอรีต่ำเพียง 58 กิโลแคลอรี ต่อปริมาณลูกไหน 6 ผล
ทั้ง ๆ
ที่ลูกไหนมีรสชาติหวานอร่อยแบบไม่ต้องพึ่งพริกเกลือและเครื่องจิ้มอื่น ๆ
เลย
เนื่องจากน้ำตาลที่มีอยู่ในลูกไหนเป็นน้ำตาลจากธรรมชาติที่มีรสหวานกลมกล่อม
ที่สำคัญยังเป็นน้ำตาลชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเราด้วยนะ
โดยการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ พบว่า
การรับประทานลูกไหนอบแห้ง
หรือลูกพรุนจะช่วยควบคุมความอยากอาหารได้อีกด้วย
ทำให้สามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีไฟเบอร์สูง
ทำให้อาหารที่รับประทานเข้าไปยังคงอยู่ในท้องนานขึ้น ลดอาการหิวบ่อย ๆ
และการรับประทานอาหารมากเกินพอดีได้อีกด้วยค่ะ -
ลูกไหน ลูกพรุน ตัวช่วยลดน้ำหนักดีเยี่ยม ซูเปอร์ฟู้ดตัวเก่งจากธรรมชาติ 12. มะพร้าว
แม้มะพร้าวจะมีรสชาติหวานเจี๊ยบ
แต่ความหวานนั้นก็เป็นน้ำตาลธรรมชาติที่อุดมไปด้วยสารอาหาร
และวิตามินที่เป็นประโยชน์กับร่างกายเราหลายชนิด นอกจากนี้
ไขมันอิ่มตัวที่อยู่ในน้ำมันมะพร้าว เนื้อมะพร้าว หรือกะทิจากมะพร้าว
ก็เป็นกรดไขมันที่อิ่มตัวโดยสมบูรณ์
โมเลกุลจึงแตกต่างจากไขมันอิ่มตัวในอาหารต้องห้ามของคนไดเอตนะคะ
ดังนั้นเนื้อมะพร้าวลูกย่อม ๆ สัก 1 ลูก
ก็ไม่ทำให้อ้วนได้เท่ารับประทานอาหารขยะจานเดียวแน่ ๆ
อย่างไรก็ตามการรับประทานผลไม้แบบไม่อ้วนก็ควรต้องงดเครื่องจิ้มประเภทพริกเกลือซึ่งมีทั้งน้ำตาลและโซเดียมสูง
ส่งผลให้เกิดภาวะบวมได้ ที่สำคัญก่อนจะเลือกซื้อผลไม้พร้อมรับประทานจากร้านข้างทาง ในตลาด
ในซูเปอร์มาร์เกต หรือจากรถขายผลไม้ก็ตาม
ควรต้องใส่ใจในการเลือกซื้อผลไม้มารับประทานกันด้วย
ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพนั่นเอง -
4 วิธีง่าย ๆ เลือกซื้อผลไม้รถเข็นแบบไม่เสี่ยงโรค !ขอบคุณข้อมูลจาก
กองโภชนาการ กรมอนามัยกองโภชนาการ กรมอนามัยกองโภชนาการ กรมอนามัยallwomenstalk