
ความคิดที่ว่าอดแล้วจะผอม พร้อม ๆ กับกินยาลดความอ้วนเป็นตัวช่วย ทำให้สาว ๆ หลายคนเสียเวลาลดน้ำหนักแบบผิด ๆ มาตลอดชีวิต เพราะสุดท้ายปลายทางก็ไม่สามารถลดความอ้วนได้ดังใจหวัง ดังเช่น คุณชานมเย็น สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ซึ่งก็เคยใช้วิธีผิด ๆ แบบนี้ล่ะมานานหลายสิบปี วันนี้จึงขอออกมาเตือนสาว ๆ พร้อมแนะนำวิธีลดน้ำหนัก ที่ถูกต้อง เพราะหลังจากคุณชานมเย็นปฏิวัติตัวเองซะใหม่ เลิกอดอาหาร เลิกทานยาลดความอ้วน ก็มีหุ่นดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และก็ยังเดินหน้าดูแลสุขภาพตัวเองต่อไปด้วยจิตใจที่แฮปปี้สุด ๆ

[CR] รีวิวการลดน้ำหนักจากคนที่เคยติดยา...ลดความอ้วน มาตลอดครึ่งชีวิต
โดย คุณ ชานมเย็น สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
โดย คุณ ชานมเย็น สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
สวัสดีค่าาาา ห่างจากกการเขียนอะไรแบบนี้ไปนานมากกกก ครั้งสุดท้ายที่เขียนก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับอาหารคลีนที่สามารถหาได้ใน 7-11 มาวันนี้จะมาเล่าประสบการณ์การลดน้ำหนักของมดให้ฟัง

ช่วงตอนนั้นเครียดมาก จากเป็นคนที่เคยแต่งตัว ชอบถ่ายรูปเล่น เป็นแบบให้เพื่อนถ่าย ก็ได้แต่ใส่เดรสเพราะกางเกงใส่ไม่ได้ ซื้อใหม่ใส่ก็ไม่สวย เพราะตัวใหญ่ ก้นใหญ่ไปหมด ไม่กล้าถ่ายรูป แม้แต่เซลฟี่ ไปไหนก็มีแต่คนทักว่าทำไมอ้วนขึ้น ไปทำอะไรมา กินเยอะล่ะสิ ไม่ดูแลตัวเองเลย
คือบางทีจะตะโกนใส่แล้วบอกว่า วัน ๆ นึงแทบจะไม่ได้กินอะไรเลยนะ แต่น้ำหนักมันไม่ลงจะให้ทำยังไง เคยร้องไห้ก็เคยมาแล้ว เพราะมันเครียด จนมาวันนึงคิดอยากจะมีชีวิตแบบคนปกติ แล้วเริ่มคิดได้ว่าเราจะมีชีวิตแบบอด ๆ และกินยาไปตลอดทั้งชีวิตไม่ได้ (เพิ่งจะคิดได้เนอะ) คืออยากกินอะไรก็ได้ที่อยากกิน ไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะกินไม่ได้ เลยเริ่มหันมาออกกำลังกาย
แรก ๆ เราออกกำลังกายไม่เป็น วิ่งแต่บนลู่วิ่ง กินก็ยังอด ๆ อยู่ เพราะมีความเชื่อที่ว่า อดแล้วจะผอม เลยวิ่งแบบอดไปด้วย สุดท้ายไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง


สรุปเราต้องกินข้าววันละ 600 กรัม เนื้อสัตว์อีกวันละ 600 กรัม ยังไม่รวมผักต่อมื้ออีก กินแบบทรมานจิตใจมากกกกก แต่ก็ต้องกิน เพราะต้องการปรับระบบเผาผลาญใหม่ กินเพื่อให้ร่างกายมันรู้ว่า เออ ได้กินนะ ไม่ต้องกักเก็บพลังงานไว้เยอะ เรากินแบบนี้ 6 วันต่อสัปดาห์ และจะมี 1 วันที่เป็นวันชีทเดย์ (Cheat Day) คือกินอะไรก็ได้ที่เราอยาก เราเป็นคนติดขนมมาก เราก็จะเก็บมากินวันนี้แหละ แต่วันนี้ก็ไม่ได้กินแบบแหลกลาญนะ เอาแค่พอหายอยาก ถ้าเยอะไป ต้องมาเริ่มต้นใหม่อีก เหนื่อยอ่า
ส่วนใหญ่เนื้อสัตว์ที่กินจะเป็นอกไก่ เราเป็นคนที่ทำอาหารไม่เป็น ฉะนั้นการดัดแปลงของเราจะมีไม่มาก ก็จะวน ๆ ไปอบบ้าง ต้มบ้าง แล้วแต่ความเบื่อ เรากินแบบนี้ทุกมื้อจริง ๆ รวมทั้งหมด 8 เดือน ร่วมกับการออกกำลังโดยการเวทเทรนนิ่งและคาร์ดิโอร่วมด้วย (แต่เราไม่ได้จ้างเทรนเนอร์ตลอดนะ เพราะบางทีก็ต้องใช้ตังค์เนอะ พอเริ่มจับทางได้ เราก็เริ่มเล่นเอง)





ยัง ๆ ยังไม่หมด 8 เดือนที่ผ่านมามันเหมือนแค่เริ่มต้น หลายคนบอกนานจัง คือการตอบสนองร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราเป็นคนที่อด และกินยาลดความอ้วนมาตลอด เราไม่แปลกใจถ้ามันจะช้ากว่าคนอื่น ๆ
หลังจากเดือนที่ 8 เราไม่ได้จ้างเทรนเนอร์แล้วในช่วงนั้น เริ่มเล่นเอง อาจจะเล่นไม่หนักเท่าตอนที่มีเทรนเนอร์แต่ก็ไม่ขาด แล้วเราก็หยุดการกินแบบเยอะไปด้วยช่วงนี้ เพราะเหตุผลเดียวเลย เบื่อ แล้วก็เริ่มหันมากินคลีนแทน
ถามว่ากินคลีน ต่างอะไรกับที่เรากินข้าวกับไก่ ต่างตรงที่เราสามารถเลือกอะไรเพิ่มได้มากขึ้น ไม่จำกัดข้าวกับไก่ เราสนุกกับการทำอาหารมากขึ้น ถึงจะเป็นแบบ ก๊อก ๆ แก๊ก ๆ ก็ตาม แต่เราไม่เคยอดเลยนะ ตรงนี้แหละที่ทำให้เรามีความสุขมากกกกก คือกินเมื่อหิว แล้วน้ำหนักก็ไม่ขึ้น ไม่ต้องมาคอยนั่งกังวลว่าถ้ากินมื้อนี้แล้วน้ำหนักจะขึ้นอีกกี่โลแบบเมื่อก่อน
อันนี้คือตัวอย่างที่เรากินแบบคลีน



แต่น้ำหนักยังไม่พอใจ เราเริ่มกลับมาเข้าโปรแกรมการกินเยอะอีกครั้ง เรากลับมาออกกำลังกายโดยแบ่งเป็น 3 วัน หยุด 1 วัน วนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ
ถึงตอนนี้เราไม่ได้จ้างเทรนเนอร์แล้ว แต่เราก็เอาสิ่งที่เทรนเนอร์ทุกคนสอนมาปรับใช้ อาจจะไม่มีคนบังคับเหมือนก่อน แต่เราก็ยังทำเหมือนเดิม คือมันติดเป็นนิสัยไปแล้ว จนวันนี้เราก็ยังคุมอาหารอยู่ แต่จะมีวันนึงที่เรากินอะไรก็ได้ที่อยากกิน ไปกินข้าวกับเพื่อนไปกินพิซซ่า ที่สำคัญ น้ำหนักเราไม่ขึ้นด้วยแหละ ตอนนี้น้ำหนักลดลง 10 กิโล อาจจะใช้เวลานานกว่าชาวบ้านเขาแต่เราก็โอเค
อันนี้ตัวอย่างที่เราเล่น เราลอง Up ลงใน youtube ดู ปกติเราจะเองลง ig


หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ไม่ว่าเรื่องใดก็เรื่องนึงน้าาา แต่ที่แน่ ๆ เราจะบอกไว้เลย ความอดทนกับความมีวินัยสำคัญที่สุด กว่าเราจะผ่านตรงนี้มาได้ แทบตายเหมือนกัน ต่อไปเป้าหมายของเราคือมีกล้ามเนื้อให้มากกว่านี้ ไว้รีวิวต่อไปจะมารีวิววิดีโอการ HIIT ที่เราเล่น ๆ แล้วถ่ายไว้น้าาา

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
คุณ ชานมเย็น สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม