มะม่วงน้ำปลาหวานรสชาติอร่อยลิ้น กินเพลิน ๆ เสี่ยงไตวาย !

มะม่วงน้ำปลาหวาน

          ถึงแม้มะม่วงน้ำปลาหวานจะเป็นของกินเล่นรสชาติแซ่บ ๆ ที่ถูกใจใครหลายคน แต่อยากให้ฟังทางนี้แล้วเพลา ๆ การทานลงสักหน่อย เพราะมีข้อมูลระบุว่า น้ำปลาหวานรสอร่อยถ้วยนั้นมีโซเดียมผสมอยู่มิใช่น้อย ๆ กินบ่อย ๆ ก็เสี่ยงไตวายล่ะจ้า

          โดยข้อมูลจาก Workpoint News - ข่าวเวิร์คพอยท์ เผยว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ร่างกายไม่ควรรับโซเดียมเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อ 1 วัน หรือเปรียบเทียบเป็นเกลือ 1 ช้อนชา หรือน้ำปลา 4-5 ช้อนชา แต่รู้ไหมว่า ในน้ำปลาหวาน 1 ถ้วยที่ใส่กุ้งแห้ง มีโซเดียมสูงถึง 5,900 มิลลิกรัม เท่ากับเกินปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันไปถึง 3 เท่า !!

มะม่วงน้ำปลาหวาน

          แน่นอนว่าการทานเค็มมาก ๆ ย่อมไม่ดีต่อร่างกายแน่ ๆ เพราะทำให้ไตขับออกได้ไม่หมด โซเดียมก็จะคั่ง ดึงน้ำไว้ในร่างกายมาก ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น เร่งให้ไตเสื่อมลง เกิดภาวะไตวาย และยังทำให้ขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะมากขึ้น เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุน รวมทั้งโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น เส้นเลือดหัวใจตีบ เส้นเลือดสมองแตก ซึ่งโรคเหล่านี้อันตรายถึงชีวิต

          ขณะที่ข้อมูลจากกรมอนามัยพบว่า ปัจจุบันคนไทยกินเค็มสูงกว่าเกณฑ์ปกติถึง 2 เท่าเลยทีเดียว เพราะด้วยไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ทำให้ต้องทานอาหารนอกบ้าน ทานอาหารจานด่วน อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง อาหารกึ่งสำเร็จรูป จึงพบผู้ป่วยโรคไตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  ดังนั้น แนะนำให้คนติดรสเค็มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการรับประทานอาหารเพื่อเลี่ยงโรค ซึ่งก็มีหลักปฏิบัติในการลดบริโภคโซเดียมคือ

เกลือ

          1. งดการเติมเครื่องปรุง เพราะในเครื่องปรุงรสแทบทุกชนิดมีโซเดียมแฝงอยู่ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว

          2. เลี่ยงอาหารสำเร็จรูป และอาหารแปรรูป เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, อาหารสำเร็จรูป,​ ไส้กรอก, หมูยอ, แหนม, เบคอน, ผักดอง, ผลไม้ดอง, เครื่องจิ้มผลไม้, ปลาเค็ม, ไข่เค็ม, เต้าหู้ยี้ หรือขนมขบเคี้ยว เป็นต้น

          3. ลดการบริโภคเครื่องจิ้มทุกประเภท โดยเฉพาะน้ำจิ้มสุกี้ น้ำจิ้มหมูกระทะ ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ เป็นต้น

          4. พยายามทำอาหารกินเอง เพราะอาหารตามสั่งหรือร้านอาหารนอกบ้าน มักจะเปี่ยมไปด้วยโซเดียมค่อนข้างสูง จากเครื่องปรุงรสที่โหมใส่กันมา

          5. ลด ละ เลิก ขนมขบเคี้ยว โดยเฉพาะขนมขบเคี้ยวชนิดถุงหรือแพ็ก

          6. เก็บขวดน้ำปลา และเครื่องจิ้มทั้งหลายให้ไกลหูไกลตา

          7. เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีโซเดียมไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อ 1 หน่วยบริโภค

          สำหรับมะม่วงน้ำปลาหวาน ถ้าใครน้ำลายสออยากทานจริง ๆ ก็ทานแต่น้อย จิ้มนิดหน่อยให้หายอยาก อย่าเผลอทานเพลินจนหมดถ้วย เพราะการทานมะม่วงครึ่งผล+น้ำปลาหวาน 1 ถ้วยน้ำจิ้ม ให้พลังงานสูงเกือบ 400 กิโลแคลอรี เป็นแบบนี้คงไม่ใช่แค่เสี่ยงป่วยโรคไต แต่ความอ้วนก็ยังถามหาอีกนะ



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เฟซบุ๊ก Workpoint News - ข่าวเวิร์คพอยท์
กรมอนามัย
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

 


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มะม่วงน้ำปลาหวานรสชาติอร่อยลิ้น กินเพลิน ๆ เสี่ยงไตวาย ! อัปเดตล่าสุด 21 เมษายน 2563 เวลา 13:18:12 15,917 อ่าน
TOP
x close