
อาการปัสสาวะเล็ดหรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ที่มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ แม้จะไม่ใช่ปัญหาที่หนักหนาอะไร แต่แน่นอนค่ะว่าอาการนี้กระทบต่อการใช้ชีวิตไม่น้อย โดยเฉพาะในเรื่องของความมั่นใจเมื่อต้องออกจากบ้านไปพบปะเพื่อนฝูง หรือไปทำกิจกรรมนอกบ้านเป็นเวลานาน ๆ หากไอ จาม หัวเราะ ยกของหนัก หรือเคลื่อนไหวในอิริยาบถต่าง ๆ แล้วมีอาการปัสสาวะเล็ด เปียก เปื้อนจนสังเกตเห็นได้ขึ้นมา มากกว่าคำว่าอายก็คือความรู้สึกไม่สบายตัว ลามไปจนเกิดอาการหน่วง ๆ ในใจ ขืนเป็นบ่อย ๆ แบบนี้ครั้งต่อไปก็คงไม่กล้าไปไหนมาไหนไกลจากบ้านอีกเป็นแน่

แต่เพื่อความสุขในชีวิต เราจะไม่ทนกับอาการปัสสาวะเล็ดอย่างนิ่งเฉยอีกต่อไปค่ะ
ขอแนะนำวิธีรับมือกับปัญหาปัสสาวะเล็ดให้ลองนำไปปรับใช้ เติมความสุขและเพิ่มความมั่นใจ จะได้ไปไหนมาไหนหรือทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้คล่องตัวตามที่ใจเราต้องการ ด้วย 7 วิธีนี้เลย

1. งดเครื่องดื่มที่กระตุ้นให้รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อย
โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ โกโก้ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง รวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหลาย เพราะคาเฟอีนมีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะ หากดื่มเข้าไปจะทำให้รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อย ๆ ได้

2. ดื่มน้ำให้ถูกวิธี
3. ฝึกกลั้นปัสสาวะ
ทำได้โดยค่อย ๆ ยืดเวลาระหว่างการไปถ่ายปัสสาวะแต่ละครั้ง เป็นการกำหนดช่วงเวลาปัสสาวะเพื่อควบคุมไม่ให้ถ่ายปัสสาวะบ่อยเกินไป ซึ่งปกติแล้วเราควรถ่ายปัสสาวะทุก 3-4 ชั่วโมง หากมากกว่านี้ถือว่ามากเกินไปค่ะ
4. ลดน้ำหนักและลดอาหารไขมันสูง
ความอ้วนไม่ได้เพิ่มโอกาสเสี่ยงโรคเรื้อรังอย่างความดัน เบาหวานเท่านั้น แต่ภาวะอ้วนยังอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการปัสสาวะเล็ดขึ้นมาได้ เพราะน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นจะไปเพิ่มแรงบีบกระเพาะปัสสาวะได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังอาจทำให้อุ้งเชิงกรานมีความผิดปกติ ขาดตัวช่วยพยุงท่อปัสสาวะจนทำให้ปัสสาวะเล็ดรั่วออกมา กลั้นปัสสาวะได้ยากกว่าเดิม ดังนั้น ใครที่รู้ตัวว่ามีน้ำหนักเกิน จึงควรควบคุมน้ำหนักตัวเองด้วยการลดการทานอาหารไขมันสูง และหันมาทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ให้มากขึ้นด้วยค่ะ

5. รักษาโรคที่เป็นอยู่ให้หาย
อาการป่วยบางประการก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ได้เหมือนกัน เช่น ถ้ามีอาการไอเรื้อรังหรือเป็นภูมิแพ้ต้องจามอยู่ตลอดเวลา ก็อาจทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อนยาน หากท้องผูกประจำก็จะมีแรงดันในช่องท้องเพิ่มขึ้น รวมทั้งโรคอื่น ๆ เช่น โรคต่อมลูกหมากโต เบาหวาน หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ซึ่งถ้าใครมีอาการป่วยดังที่กล่าวมานี้ ควรทำการรักษาให้หายขาด เพื่อปรับร่างกายให้อยู่ในโหมดปกติ ไม่ส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะให้บีบตัวไวเกินไป เนื่องจากโรคดังกล่าวก็เป็นสาเหตุหนึ่งของอาการปัสสาวะเล็ดด้วย
6. ฝึกขมิบและบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
นอกจากนี้ก็ควรบริหารอุ้งเชิงกรานให้แข็งแรงเพื่อช่วยบรรเทาอาการอั้นปัสสาวะไม่อยู่ด้วยท่านอนหงายชันเช่า ซึ่งมีวิธีฝึกง่าย ๆ คือ

นอนหงายชันเข่า 2 ข้างขึ้นมา แขนแนบลำตัว กดหลังให้แนบชิดกับพื้น ขมิบก้นพร้อมกับยกก้นให้ลอยขึ้นมา เกร็งค้างไว้ นับ 1-5 ช้า ๆ แล้วคลายออก ทำเช่นนี้ 10 ครั้ง จากนั้นขมิบแล้วปล่อยทันที ทำ 5-20 ครั้ง

สุดท้ายแล้วหากมีปัญหาปัสสาวะเล็ดมากจนเกิดความกังวลเวลาต้องออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านที่ต้องการความคล่องตัว เราอาจเลือกใช้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่มาเป็นตัวช่วยก็ดีค่ะ ซึ่งเดี๋ยวนี้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่พัฒนาไปไกลมาก โดยเฉพาะแบบกางเกงผ้าอ้อมที่ผลิตออกมาในแบบที่บางสบายจนแทบจะไม่รู้สึกว่าใส่ผ้าอ้อมเลย
"กางเกงซูเปอร์สลิม รีลีฟ (Relief)" ผ้าอ้อมผู้ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นที่ออกแบบมาให้บางคล้ายใส่กางเกงชั้นใน อีกทั้งยังนุ่มสบาย สวมใส่ง่าย บางโค้งกระชับรับสะโพก
ที่สำคัญกางเกงผ้าอ้อม รีลีฟ (Relief) ยังมีคุณสมบัติซึมซับได้มากถึง 300 ซี.ซี. สำหรับวันที่ต้องออกไปทำกิจกรรมข้างนอกนาน ๆ ก็ไม่ต้องพะวงว่าปัสสาวะจะซึมมาเปื้อนกางเกงให้รู้สึกรำคาญใจ

และนอกจากรีลีฟ (Relief) จะมีแบบกางเกงผ้าอ้อมชนิดสวมแทนกางเกงชั้นในซึ่งมีให้เลือก 3 สีแล้ว (ชมพู ฟ้า ขาว) ก็ยังมีแบบแผ่นซึมซับปัสสาวะที่รองรับการซึมซับได้หลายระดับ ตั้งแต่ 50 ซี.ซี.-180 ซี.ซี. ด้วยนะคะ ซึ่งมีผิวสัมผัสนุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี จึงช่วยลดความอับชื้น มาพร้อมเทปกาวป้องกันการเลื่อนหลุดเมื่อเคลื่อนไหวร่างกาย พร้อมให้เราสนุกสนานกับหลากหลายกิจกรรมได้แบบไม่มีสะดุด

อ่านคำเตือนบนฉลากและเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ก่อนใช้
700/313 หมู่ 6 ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี 20000 โทร 038-468511
ฆพ.904/2561