แพทย์เผย นักดำน้ำเสี่ยงเกิดภาวะ น็อกน้ำ หรือโรคน้ำหนีบ เผยมีฟองน้ำในระบบหมุนเวียนเลือดสูง อาจทำให้หมดสติ และเสียชีวิตได้
![น็อกน้ำ น็อกน้ำ]()
กรณีในถ้ำหลวง เท่าที่ทราบ น้ำลึกประมาณ 10 เมตร
ก็มีโอกาสที่นักดำน้ำจะเสี่ยงโรคน้ำหนีบได้เช่นกัน
ฉะนั้นนักดำน้ำทุกคนที่ผ่านการฝึกอบรมป้องกันตัวเองให้ดี
รวมถึงต้องหาข้อมูลว่าสถานพยาบาลใดมีเครื่องไฮเปอร์แบริค
ซึ่งเป็นเครื่องที่มีออกซิเจนบริสุทธิ์
ก็จะสามารถช่วยรักษาโรคนี้ได้ด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกัน ปัจจัยเสริมที่ทำให้เกิดอาการน็อกน้ำ นอกจากการดำน้ำแล้ว ยังมีทั้งความอ้วน อายุมาก ทำงานหนักเกินไป การดื่มเหล้า การอดนอน การบาดเจ็บในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย การขึ้นที่สูงหลังการดำน้ำลึก และการดำน้ำซ้ำมากกว่า 1 ครั้ง ซึ่งส่วนมากจะเจอในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thai NavySEAL
จากกรณี จ.อ.สมาน กุนัน หรือ จ่าแซม นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ
ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในถ้ำหลวง
เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุมาจากอาการน็อกน้ำ (อ่านข่าว : ข่าวเศร้า
หน่วยซีลเสียชีวิตในถ้ำหลวง 1 ราย ขณะลำเลียงขวดอากาศ)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 6 กรกฎาคม 2561 เดลินิวส์ออนไลน์ ได้สอบถาม พ.อ. วันปรีดี
ตันเสนีย์ แพทย์เวชศาสตร์ใต้น้ำ โรงพยาบาลพระมงฎเกล้า
ซึ่งให้ความรู้เกี่ยวกับโรคน้ำหนีบ หรือ น็อกน้ำ ว่า
เกิดจากมีฟองน้ำในระบบหมุนเวียนเลือดในร่างกายจำนวนมากเกินไป
เมื่อฟองค้างอยู่ตามข้อและกล้ามเนื้อต่าง ๆ ในร่างกาย ก็จะทำให้รู้สึกปวด
ถ้าเกิดมีมากจนร่างกายขับออกมาไม่ทัน ฟองอาจเข้าสู่หัวใจและขึ้นสู่สมอง
ทำให้อ่อนแรง หมดสติ และเสียชีวิตได้

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thai NavySEAL
ขณะเดียวกัน ปัจจัยเสริมที่ทำให้เกิดอาการน็อกน้ำ นอกจากการดำน้ำแล้ว ยังมีทั้งความอ้วน อายุมาก ทำงานหนักเกินไป การดื่มเหล้า การอดนอน การบาดเจ็บในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย การขึ้นที่สูงหลังการดำน้ำลึก และการดำน้ำซ้ำมากกว่า 1 ครั้ง ซึ่งส่วนมากจะเจอในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thai NavySEAL
