เซฟไว้เลย ! คู่มือการกินเจ รวมเรื่องต้องรู้และข้อห้าม ทานอย่างไรให้สุขภาพดี

          จะเห็นว่าช่วงหลายปีมานี้ การกินเจไม่ใช่เรื่องของคนจีนรุ่นก่อนอีกต่อไปแล้ว เพราะคนไทยหลากหลายวัยเริ่มใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเองมากขึ้น จึงเข้าร่วมเทศกาลกินเจด้วยทุกปี แต่ถึงกระนั้นก็เชื่อว่าหลายคนยังสับสนเกี่ยวกับประเพณีปฏิบัติของการกินเจอยู่ว่า อาหารอะไรทานได้-ไม่ได้ แล้วเราจะเลือกทานอาหารเจอย่างไรให้มีสุขภาพดี อิ่มบุญ สุขใจ สุขกาย วันนี้กระปุกดอทคอมรวบรวมข้อมูลสำคัญที่คนกินเจต้องรู้มาบอกต่อค่ะ เซฟไว้เป็นคู่มือการกินเจประจำปี 2561 กันเลย

ปีนี้กินเจ เมื่อไหร่ ?


          ถ้าใครเตรียมตัวจะกินเจในปีนี้ อย่าลืมว่า เราต้องล้างท้องกันก่อนกินเจ ซึ่งการล้างท้องก็คือ การกินเจก่อนถึงวันเทศกาลเจจริงประมาณ 1-2 วันนั่นเอง โดยงดเว้นเนื้อสัตว์เหมือนกับการกินเจจริง ๆ เพื่อชะล้างอาหารคาวต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่ในร่างกายออกให้หมดสิ้น และเมื่อถึงวันถือศีลกินเจ ร่างกายจะได้สะอาด พร้อมถือศีลกินเจตามประเพณี แต่หากใครยังไม่สามารถงดเนื้อสัตว์ได้ในทันที ลองค่อย ๆ ปรับจากการทานเนื้อแดง มาเป็นเนื้อปลา และเน้นทานโปรตีนจากถั่ว เพื่อให้ระบบย่อยอาหารเริ่มปรับตัวก็ได้เช่นกัน

          3. ห้ามทานผักกลิ่นฉุน 5 ชนิด คือ กระเทียม, หัวหอม  (รวมทั้งหอมแดง หอมขาว หัวหอมใหญ่ ต้นหอม), หลักเกียว (กระเทียมโทนจีน), กุยช่าย และใบยาสูบ ที่ห้ามรับประทานเพราะเป็นผักที่มีรสหนัก จึงอาจส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของผู้กินเจได้ นอกจากนี้ ชาวจีนยังเชื่อกันว่า ผักฉุนดังกล่าวมีพิษทำลายพลังธาตุทั้ง 5 ในร่างกาย ส่งผลให้อวัยวะหลักสำคัญภายในทั้ง 5 ทำงานไม่ปกติ


          4. ห้ามทานอาหารรสจัด ไม่ว่าจะรสเผ็ดมาก เค็มมาก หวานมาก เปรี้ยวมาก เพราะชาวจีนเชื่อว่า อาหารรสจัดจะเข้าไปทำลายอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย
          นอกจากนี้ ในคนที่ถือศีลกินเจอย่างเคร่งครัด จะไม่ใช้จานชามปะปนกันกับคนที่ไม่ทานเจ และต้องกินอาหารที่คนกินเจด้วยกันเป็นผู้ปรุงขึ้นมาด้วยค่ะ

          3. กินเพื่อสุขภาพ นอกจากจะรู้สึกอิ่มบุญ อิ่มใจ อันเกิดจากการละเว้นสิ่งมีชีวิตแล้ว การกินเจยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายที่เราอยากบอกต่อเพื่อชวนให้ทุกคนมาทานอาหารเจกันค่ะ อย่างเช่น


          - ล้างพิษให้ร่างกาย เพราะการที่เราเลือกทานอาหารชีวจิต เช่น ธัญพืช ผักผลไม้ แทนเนื้อสัตว์ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จะทำให้ระบบย่อยอาหารและขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น สามารถขับถ่ายของเสียออกมาได้หมด ซึ่งการที่เราไม่ทานเนื้อสัตว์ก็เท่ากับว่าเราไม่ได้เติมสารพิษเข้าไปสะสมในร่างกายด้วย

          - ลดความเสี่ยงโรคร้าย อย่างที่ทราบกันดีว่า เนื้อสัตว์และไขมันนำมาซึ่งโรคร้ายมากมาย ทั้งโรคหัวใจ โรคอ้วน โรคมะเร็ง ฯลฯ แต่การเปลี่ยนมาทานผักผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จะช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง รวมทั้งลดคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงการเกิดโรคที่มีสาเหตุจากการสะสมไขมันในร่างกาย

1. ทานแป้งให้น้อย และเลือกแป้งที่ไม่ขัดขาว


          เพราะน้ำนมถั่วเหลือง วี-ซอย มีแคลเซียมสูงถึง 50% มีแคลเซียมซิเตรท ที่ดูดซึมได้ดีในขณะท้องว่าง มีวิตามินดีที่ช่วยดูดซึมแคลเซียม อีกทั้งยังมีไอโซฟลาโวนช่วยยับยั้งการเสื่อมสลายของกระดูก จึงช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง พ่วงมาด้วยวิตามินบี 12 และเลซิติน ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท บำรุงสมอง ช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจำให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีโอเมก้า-3 ที่ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี และโอเมก้า-6 ช่วยลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย จึงส่งผลดีต่อหลอดเลือดและหัวใจด้วย