นอกจากบวบเหลี่ยมจะเหลี่ยมจัดแล้ว ประโยชน์ของบวบเหลี่ยมก็จัดว่าคมในฝัก มีสรรพคุณเป็นยา เป็นสมุนไพร แถมมีฤทธิ์ต้านมะเร็งได้ด้วย
เชื่อได้ว่าเมนูบวบเป็นเมนูโปรดของหลายคน เพราะบวบมีรสหวาน นำไปผัดใส่ไข่ ต้มจิ้มน้ำพริก หรือใส่ในแกงเลียงก็เหมาะเจาะไปซะหมด ที่สำคัญบวบยังเป็นผักที่หากินได้ทุกฤดู ปลูกง่าย แมลงไม่รบกวน เรียกได้ว่าน่าจะเป็นผักที่มีสารพิษตกค้างน้อยที่สุดเลยก็ว่าได้ เอาล่ะ...คราวนี้มาอ่านสรรพคุณของบวบเหลี่ยมกันบ้าง แล้วจะรักผักชนิดนี้มากขึ้น
บวบเหลี่ยมเป็นผักในวงศ์ Cucurbitaceae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Luffa acutangula ส่วนชื่อภาษาอังกฤษของบวบเหลี่ยมคือ Angled gourd บวบเหลี่ยมเป็นพืชเถาเลื้อย ต้องอาศัยกำแพงหรือราวเกาะเพื่อเจริญเติบโต
บวบเหลี่ยมมีลักษณะเป็นเหลี่ยมตามความยาวของผล โดยเหลี่ยมตั้งแต่ขั้วจรดปลายผล เปลือกสีเขียวเข้ม ผิวเปลือกค่อนข้างขรุขระ ฝักด้านในเป็นสีขาว มีลักษณะอ่อน เมล็ดบวบมีลักษณะเรียวเล็ก สามารถกินได้
ทั้งนี้ลำต้น ใบ ดอก หรือแม้แต่เหลี่ยมของบวบเหลี่ยม ยังมีสารชนิดหนึ่งซึ่งป้องกันแมลงและศัตรูพืชมาทำลายได้ ดังนั้นบวบจึงเป็นผักที่ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชให้เสี่ยงต่อสุขภาพเลย
คุณค่าทางโภชนาการของบวบเหลี่ยม
ข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยคุณค่าทางโภชนาการของบวบเหลี่ยมในส่วนที่กินได้ ปริมาณ 100 กรัม ดังนี้
ข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยคุณค่าทางโภชนาการของบวบเหลี่ยมในส่วนที่กินได้ ปริมาณ 100 กรัม ดังนี้
- พลังงาน 18 กิโลแคลอรี
- น้ำ 95.4 กรัม
- โปรตีน 0.7 กรัม
- ไขมัน 0.2 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 3.3. กรัม
- ไฟเบอร์ 0.3 กรัม
- เถ้า 0.4 กรัม
- แคลเซียม 5 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 24 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 0.7 มิลลิกรัม
- เบต้าแคโรทีน 30 ไมโครกรัม
- วิตามินเอ 5 ไมโครกรัม
- ไธอะมีน 0.02 มิลลิกรัม
- ไรโบฟลาวิน 0.04 มิลลิกรัม
- ไนอะซิน 0.4 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 15 มิลลิกรัม
- น้ำ 95.4 กรัม
- โปรตีน 0.7 กรัม
- ไขมัน 0.2 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 3.3. กรัม
- ไฟเบอร์ 0.3 กรัม
- เถ้า 0.4 กรัม
- แคลเซียม 5 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 24 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 0.7 มิลลิกรัม
- เบต้าแคโรทีน 30 ไมโครกรัม
- วิตามินเอ 5 ไมโครกรัม
- ไธอะมีน 0.02 มิลลิกรัม
- ไรโบฟลาวิน 0.04 มิลลิกรัม
- ไนอะซิน 0.4 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 15 มิลลิกรัม
บวบเหลี่ยม สรรพคุณเพียบ ต้องรู้ให้ครบ
สรรพคุณของบวบเหลี่ยมมีอยู่แทบจะทุกส่วน ซึ่งเราจะจำแนกประโยชน์ของบวบตามส่วนต่าง ๆ ดังนี้
- ผลอ่อน
บำรุงร่างกาย ผลอ่อนของบวบมีฤทธิ์เย็น แก้ร้อนใน ขับปัสสาวะ และขับเสมหะ โดยจะนำบวบมาทำอาหารทานก็ได้ หรือจะนำผลอ่อนใส่น้ำพอท่วม ต้มให้เดือด แล้วดื่มเป็นชาบวบวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
- ใบ
สรรพคุณของบวบเหลี่ยมมีอยู่แทบจะทุกส่วน ซึ่งเราจะจำแนกประโยชน์ของบวบตามส่วนต่าง ๆ ดังนี้
- ผลอ่อน
บำรุงร่างกาย ผลอ่อนของบวบมีฤทธิ์เย็น แก้ร้อนใน ขับปัสสาวะ และขับเสมหะ โดยจะนำบวบมาทำอาหารทานก็ได้ หรือจะนำผลอ่อนใส่น้ำพอท่วม ต้มให้เดือด แล้วดื่มเป็นชาบวบวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
- ใบ
ใช้ต้มดื่มเพื่อขับเสมหะ ขับปัสสาวะ และนำใบมาตำพอกแก้พิษแมลงสัตว์กัด-ต่อย ส่วนสูตรขับเสมหะให้นำใบบวบตากแห้ง 5 กรัม ชงกับน้ำร้อน 1 แก้วกาแฟ ดื่มก่อนอาหาร เช้า-เย็น
- ราก
ระบายท้อง แก้เจ็บคอ แก้อาการบวมช้ำ โดยนำรากบวบตากแห้งต้มกับน้ำ ชงเป็นชาดื่มหรือจะทำเมนูบวบก็ได้
- เนื้อในเมล็ด
มีฤทธิ์เป็นยาระบาย เนื้อในเมล็ดช่วยขับพยาธิตัวกลม แก้บิด แก้ร้อนใน และมีสรรพคุณช่วยขับเสมหะ
นอกจากสรรพคุณของบวบเหลี่ยมดังที่กล่าวมาแล้ว บวบยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่น ๆ อีก ตามนี้เลยค่ะ
นอกจากสรรพคุณของบวบเหลี่ยมดังที่กล่าวมาแล้ว บวบยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่น ๆ อีก ตามนี้เลยค่ะ
1. ขับน้ำนมให้แม่ลูกอ่อน
บวบมีธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นธาตุที่สำคัญต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง มีสรรพคุณช่วยบำรุงน้ำนม ช่วยขับน้ำนมให้แม่ลูกอ่อนได้ดี โดยกินเป็นแกงเลียงใส่บวบ หรือผัดบวบก็ได้
2. บำรุงกระดูก
นอกจากธาตุเหล็กแล้ว ในบวบเหลี่ยมยังมีแคลเซียม สารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก เหมาะกับคุณแม่ลูกอ่อนและเด็กเล็กที่ต้องการธาตุเหล็กและแคลเซียมช่วยในการเจริญเติบโต
3. บำรุงสมอง
ในบวบมีแมกนีเซียมและสังกะสี สารอาหารที่ช่วยในการบำรุงประสาทและสมอง มีส่วนช่วยให้สมองโปร่งใส แค่กินบวบเท่านั้นเอง
4. ป้องกันมะเร็ง
ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ ประธานคณะกรรมการสาธารณสุข สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เผยว่า บวบเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีฤทธิ์เป็นยาระบาย จึงสามารถช่วยต้านมะเร็งได้พอ ๆ กับกล้วยน้ำว้า โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ส่วนบน
ข้อควรระวังในการกินบวบ
ด้วยความที่บวบเป็นผักมีฤทธิ์เย็น ดังนั้นคนที่มีไข้ก็ไม่ควรกินบวบในช่วงที่ไม่สบายนะคะ เพราะอาจทำให้ไข้สูงขึ้นได้
บวบมีธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นธาตุที่สำคัญต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง มีสรรพคุณช่วยบำรุงน้ำนม ช่วยขับน้ำนมให้แม่ลูกอ่อนได้ดี โดยกินเป็นแกงเลียงใส่บวบ หรือผัดบวบก็ได้
2. บำรุงกระดูก
นอกจากธาตุเหล็กแล้ว ในบวบเหลี่ยมยังมีแคลเซียม สารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก เหมาะกับคุณแม่ลูกอ่อนและเด็กเล็กที่ต้องการธาตุเหล็กและแคลเซียมช่วยในการเจริญเติบโต
3. บำรุงสมอง
ในบวบมีแมกนีเซียมและสังกะสี สารอาหารที่ช่วยในการบำรุงประสาทและสมอง มีส่วนช่วยให้สมองโปร่งใส แค่กินบวบเท่านั้นเอง
4. ป้องกันมะเร็ง
ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ ประธานคณะกรรมการสาธารณสุข สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เผยว่า บวบเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีฤทธิ์เป็นยาระบาย จึงสามารถช่วยต้านมะเร็งได้พอ ๆ กับกล้วยน้ำว้า โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ส่วนบน
ข้อควรระวังในการกินบวบ
ด้วยความที่บวบเป็นผักมีฤทธิ์เย็น ดังนั้นคนที่มีไข้ก็ไม่ควรกินบวบในช่วงที่ไม่สบายนะคะ เพราะอาจทำให้ไข้สูงขึ้นได้
เมนูอาหารจากบวบ
- ผัดบวบใส่ไข่ เมนูผัดผักง่าย ๆ นุ่มนิ่มอิ่มอร่อยได้ทุกมื้อ
- ผัดบวบกุ้ง จานอร่อยแคลอรีต่ำหม่ำแล้วไม่อ้วน
- แกงเลียงผักรวมกุ้งสด เมนูเรียกน้ำนมสำหรับคุณแม่
วิธีเลือกซื้อบวบมาทำอาหาร
ควรเลือกซื้อบวบเหลี่ยมที่สีสด เขียว ดูสดชื่น ผลยาวตรง ไม่หักงอตอนปลาย เหลี่ยมตรง ลึก เป็นสันคม ถึงจะเป็นบวบที่มีรสหวาน และเมื่อจะนำมาทำอาหาร ให้เพียงแค่ปาดสันเหลี่ยมบวบออกเท่านั้น เพื่อเอาความขมออก แต่ไม่ต้องปอกเปลือกออกจนหมด เพราะส่วนเปลือกมีวิตามินแร่ธาตุสำคัญอยู่มากมาย สามารถต้มทั้งเปลือกได้เลย เพื่อให้สารอาหารที่มีอยู่ที่เปลือกละลายลงในน้ำแกง จะได้บวบที่มีรสชาติหวานอร่อย
สรรพคุณของบวบดีอย่างนี้ คนชอบกินบวบคงฟินกันน่าดู ส่วนคนที่เฉย ๆ กับการกินบวบก็น่าจะหันมาสนใจเมนูบวบมากขึ้นเนอะ ;)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก