หมอจุฬาฯ ชี้แจง โรคตุ่มน้ำพอง ไม่ใช่โรคหายาก สามารถพบได้ในผู้สูงอายุทั้งชายและหญิง ไม่ใช่โรคติดต่อ แม้ทรมานแต่มีแนวทางการรักษา
จากกรณี นักแสดงชื่อดัง เมฆ วินัย ไกรบุตร ออกมาเปิดเผยว่าป่วยเป็นโรคเพมฟิกอยด์ หรือ โรคตุ่มน้ำพอง ซึ่งเป็นโรคหายากพบ 1 ใน 4 แสนคน และคนไทยเป็นไม่ถึง 10 คนเท่านั้น พร้อมระบุว่า ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร อาจเป็นการที่ตนเองนอนดึก ออกกำลังกายเยอะเกินไป บวกกับการที่ตนเคยถูกน้ำร้อนลวก อาจทำให้ผิวหนังขาดเมตาบอลิซึม เกิดแพ้ภูมิตัวเอง และกลายเป็นโรคดังกล่าวนั้น (อ่านข่าว : วินัย ไกรบุตร สุดทรมาน มองตุ่มน้ำพองเป็นโรคเวรกรรม รับจิตตก แต่จะฮึดสู้)
ล่าสุด (15 มิถุนายน 2562) เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า ศาสตราจารย์ ดร.ประวิตร อัศวานนท์ หัวหน้าสาขาวิชาจิตวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า โรคตุ่มน้ำพอง หรือ เพมฟิกอยด์ ไม่ใช่โรคหายากอยากที่เข้าใจ สามารถพบได้ทั้งชายหญิง ส่วนใหญ่เกิดในคนที่มีอายุมาก เนื่องจากระบบการทำงานของภูมิคุ้มกันร่างกายเริ่มรวน
โรคนี้เกิดจากภูมิต้านทานร่างกายทำงานผิดพลาด ทำให้ผิวหนังเกิดการแยกตัวเป็นตุ่มน้ำใส ๆ ส่วนสาเหตุของเกิดโรคที่แท้จริงยังไม่ทราบชัดเจน แต่ไม่เกี่ยวกับการใช้ร่างกายหักโหม ออกกำลังกายหนัก การรับประทานอาหาร แพ้อาหาร รวมถึงไม่เกี่ยวกับไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ไม่ใช่โรคทางพันธุกรรม และไม่ใช่โรคติดต่อ อีกทั้งไม่ใช่โรคอันตรายที่ทำให้เสียชีวิตได้
ทั้งนี้ โรคดังกล่าวสามารถรักษาให้หายได้ ปัจจุบันการรักษาวิธีใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งการให้ยากดภูมิคุ้มกันเพื่อให้โรคสงบ ร่วมกับยาแก้อักเสบ รวมถึงมียาให้ที่ช่วยให้รักษาหาย คือ การให้ยาที่เปลี่ยนการทำงานของเซลล์ ซึ่งระยะเวลาการรักษาให้หายขาดแตกต่างกันไป บางรายใช้เวลาไม่นาน บางรายเป็นปี ขึ้นอยู่กับโรคและอาการว่ามากน้อยแค่ไหน
สำหรับอาการของโรคที่เด่นชัด คือ จะปรากฏตุ่มขึ้นตามที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือ ขึ้นตามตัว หากรักษาหายขาด อาจทิ้งร่องรอยคล้ายรอยแผลจากโรคอิสุกอิใสได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

จากกรณี นักแสดงชื่อดัง เมฆ วินัย ไกรบุตร ออกมาเปิดเผยว่าป่วยเป็นโรคเพมฟิกอยด์ หรือ โรคตุ่มน้ำพอง ซึ่งเป็นโรคหายากพบ 1 ใน 4 แสนคน และคนไทยเป็นไม่ถึง 10 คนเท่านั้น พร้อมระบุว่า ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร อาจเป็นการที่ตนเองนอนดึก ออกกำลังกายเยอะเกินไป บวกกับการที่ตนเคยถูกน้ำร้อนลวก อาจทำให้ผิวหนังขาดเมตาบอลิซึม เกิดแพ้ภูมิตัวเอง และกลายเป็นโรคดังกล่าวนั้น (อ่านข่าว : วินัย ไกรบุตร สุดทรมาน มองตุ่มน้ำพองเป็นโรคเวรกรรม รับจิตตก แต่จะฮึดสู้)
ล่าสุด (15 มิถุนายน 2562) เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า ศาสตราจารย์ ดร.ประวิตร อัศวานนท์ หัวหน้าสาขาวิชาจิตวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า โรคตุ่มน้ำพอง หรือ เพมฟิกอยด์ ไม่ใช่โรคหายากอยากที่เข้าใจ สามารถพบได้ทั้งชายหญิง ส่วนใหญ่เกิดในคนที่มีอายุมาก เนื่องจากระบบการทำงานของภูมิคุ้มกันร่างกายเริ่มรวน
โรคนี้เกิดจากภูมิต้านทานร่างกายทำงานผิดพลาด ทำให้ผิวหนังเกิดการแยกตัวเป็นตุ่มน้ำใส ๆ ส่วนสาเหตุของเกิดโรคที่แท้จริงยังไม่ทราบชัดเจน แต่ไม่เกี่ยวกับการใช้ร่างกายหักโหม ออกกำลังกายหนัก การรับประทานอาหาร แพ้อาหาร รวมถึงไม่เกี่ยวกับไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ไม่ใช่โรคทางพันธุกรรม และไม่ใช่โรคติดต่อ อีกทั้งไม่ใช่โรคอันตรายที่ทำให้เสียชีวิตได้
ทั้งนี้ โรคดังกล่าวสามารถรักษาให้หายได้ ปัจจุบันการรักษาวิธีใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งการให้ยากดภูมิคุ้มกันเพื่อให้โรคสงบ ร่วมกับยาแก้อักเสบ รวมถึงมียาให้ที่ช่วยให้รักษาหาย คือ การให้ยาที่เปลี่ยนการทำงานของเซลล์ ซึ่งระยะเวลาการรักษาให้หายขาดแตกต่างกันไป บางรายใช้เวลาไม่นาน บางรายเป็นปี ขึ้นอยู่กับโรคและอาการว่ามากน้อยแค่ไหน
สำหรับอาการของโรคที่เด่นชัด คือ จะปรากฏตุ่มขึ้นตามที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือ ขึ้นตามตัว หากรักษาหายขาด อาจทิ้งร่องรอยคล้ายรอยแผลจากโรคอิสุกอิใสได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก