เพจดังเตือน อย่าเพิ่งตื่นตระหนก หลังคนแชร์ กินงาดำแล้วมีรอยดำที่ใบหน้า ชี้กินงาดำไม่เป็นอันตราย กินได้ตามปกติ ในปริมาณที่เหมาะสม

สร้างความแตกตื่นให้คนรักสุขภาพไม่น้อย หลังจากที่เฟซบุ๊ก Paisan Saksreesakulchai ได้เผยแพร่เรื่องราวของเภสัชกรหญิงท่านหนึ่ง ที่ได้พูดคุยกับคนไข้หญิง
อายุ 85 ปี และพบว่า "งาดำ" อาจไม่ใช่อาหารเพื่อสุขภาพอย่างที่คิด
โดยเภสัชกรหญิง เปิดเผยว่า คนไข้ชอบมาหาเภสัชกรที่ศูนย์ 34 ประมาณ 3 เดือนต่อ 1 ครั้ง เพื่อพูดคุยทักทาย ต่อมา เภสัชกรเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติบนใบหน้าของคนไข้ ที่มีรอยสีดำ ๆ กระจุกอยู่เต็มไปหมด คล้ายกับการสะสมของอะไรบางอย่าง

เมื่อเภสัชกรสอบถามถึงเรื่องอาหาร คนไข้ก็ตอบว่า กินข้าวสวย หรือข้าวต้ม แต่เมื่อประมาณ 1-2 เดือนที่ผ่านมา ลูกเอางาดำถุงใหญ่มาโรยในข้าวต้มให้เป็นกำมือ โดยบอกว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ทานแล้วจะดีต่อสุขภาพ ทางเภสัชกรจึงวิเคราะห์ว่า งาดำนี่เอง ที่เป็นสาเหตุทำให้คนไข้มีอาการท้องอืด มีจุดดำบนใบหน้า และมีรอยรอบดวงตาเป็นวงเขียว เนื่องจากงาดำมีธาตุคอปเปอร์ หรือโลหะทองแดง และมีไฟเบอร์ในปริมาณสูง

นอกจากนี้
อาจารย์เจษฎา ยังให้ความรู้เกี่ยวกับข้อเท็จจริงของงาดำอีกด้วย
โดยประโยชน์และสรรพคุณงาดำ มีตั้งแต่ช่วยบำรุงร่างกาย, บำรุงผม, ผิวพรรณ,
กระดูก และเล็บ อีกทั้งยังช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น,
ป้องกันโรคภาวะกระดูกพรุน, แก้เคล็ดขัดยอก, ฟกช้ำ, ปวดบวม และลดการอักเสบ
รวมถึงเป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยในการเผาผลาญและสลายไขมัน ลดความอ้วน
สำหรับบางราย อาจมีอาการแพ้ได้ เช่น ลมพิษ, ริมฝีเปลือกตาปากบวมแดง, คันจมูก, หายใจลำบาก และความดันโลหิตลดลงจนช็อกหมดสติ โดยอาจเกิดขึ้นทันที หลังจากรับประทาน 90 นาที อีกทั้งหากรับประทานทานมากเกินไป จะทำให้เกิดการระบายมาก จนนำไปสู่อาการท้องร่วงได้
ทั้งนี้ อาจารย์เจษฎา ระบุว่า อย่าเพิ่งแตกตื่นตกใจมากเกินไป จนเลิกทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างงาดำ แต่ควรจะทานในปริมาณที่เหมาะสม และควรจะเคี้ยวให้ละเอียดด้วย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก Paisan Saksreesakulchai, เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant, เฟซบุ๊ก Drama-addict