โดนผึ้งต่อยจนบวม แดง ต้องปฐมพยาบาลยังไง เรามีบอกตั้งแต่วิธีเอาเหล็กไนออกแบบที่ง่ายที่สุด พร้อมวิธีบรรเทาปวด
ในวันที่โชคไม่เข้าข้าง อยู่ดี ๆ ก็โดนผึ้งต่อยเข้าให้ จะปฐมพยาบาลตัวเองยังไงให้หายจากความเจ็บปวดได้บ้าง แล้วจะสังเกตอาการยังไงว่าเราแพ้พิษผึ้งหรือไม่ ต้องไปหาหมอหรือเปล่า ลองมาเช็กอาการโดนผึ้งต่อยในแต่ละ Level กัน พร้อมวิธีเอาเหล็กไนผึ้งออกง่าย ๆ ก่อนจะบรรเทาอาการปวด บวมแดงจากพิษผึ้ง
ผึ้งต่อย อันตรายแค่ไหน
รู้หรือไม่ว่าผึ้งที่มีพิษคือผึ้งตัวเมีย เนื่องจากผึ้งตัวเมียจะมีเหล็กไนอยู่ที่ก้น โดยเหล็กไนคืออวัยวะที่ดัดแปลงมาจากอวัยวะในการวางไข่ มีลักษณะคล้ายเข็มสองอัน มีเงี่ยงอยู่ที่ปลาย ตรงโคนเหล็กไนจะต่อกับถุงพิษที่อยู่บริเวณท้องส่วนปลาย ไว้สำหรับป้องกันรังของตัวเอง เมื่อผึ้งต่อยเหยื่อ พิษของผึ้งจะถูกปล่อยออกมาพร้อมเหล็กไน ผึ้งบางชนิดจะตายไป แต่บางชนิดก็สามารถปล่อยเหล็กไนได้มากกว่า 1 ครั้ง เมื่อคนโดนผึ้งต่อย อาการจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อพิษของผึ้ง ซึ่งแบ่งได้เป็น 4 ลักษณะ ดังนี้
1. อาการเฉพาะที่ (Non allergic local reaction)
เมื่อโดนผึ้งต่อย จะเกิดอาการปวด บวม แดง รู้สึกคล้ายถูกเข็มแทง มีตุ่มบวมขึ้นมา และอาจมีอาการคันบริเวณที่โดนผึ้งต่อยด้วย โดยส่วนมากอาการเหล่านี้จะหายได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมง และไม่มีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ เว้นแต่หากโดนผึ้งต่อยปาก ตา จมูก ในปาก ในคอ อาการบวมจากพิษผึ้งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะทางเดินหายใจอุดตัน (Respiratory obstruction) จำเป็นต้องรีบไปรักษาที่โรงพยาบาล
2. อาการแพ้ (Hypersensitivity reaction)
สำหรับคนที่มีอาการแพ้พิษผึ้ง แม้จะโดนพิษของผึ้งเพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ ดังนี้
* อาการเฉพาะที่
จะมีอาการปวด บวม แดง บริเวณที่โดนต่อย โดยเป็นอยู่หลายวัน ทั้งนี้ ผู้ป่วยประมาณ 5-10% อาจมีอาการพิษต่อร่างกายในภายหลังได้
* อาการพิษต่อร่างกาย
ร่างกายของผู้ที่แพ้พิษผึ้งจะแสดงอาการภายใน 30 นาที หลังได้รับพิษ ในรายที่อาการรุนแรงจะมีระดับความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นเร็ว หายใจลำบาก และอาจเสียชีวิตได้ภายใน 1 ชั่วโมงแรก
3. อาการแพ้ที่เกิดซ้ำได้อีก (Subsequent stings)
ประมาณ 35-60% ของผู้ที่มีปฏิกิริยากับพิษของผึ้ง จะเกิดอาการได้อีกเมื่อได้รับพิษจากผึ้งอีกครั้ง รวมไปถึงกับสัตว์มีพิษชนิดอื่น ๆ ด้วย หากเราแพ้พิษของมันแล้ว โดนกัดหรือต่อยครั้งต่อไปก็จะมีอาการเช่นเดิมได้อีก
4. การเกิดพิษโดยตรง (Direct toxic envenomations)
มักเกิดในกรณีที่ถูกต่อยเป็นจำนวนมาก ได้รับพิษผึ้งจำนวนมากในครั้งเดียว ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลีย อาเจียน ท้องเสีย ปวดศีรษะ และมีอาการระบบต่าง ๆ ของร่างกายเป็นพิษ เช่น หัวใจเต้นผิดปกติ ตับวาย ไตวาย ซึ่งอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้
อย่างไรก็ตาม พบว่าผู้ป่วยจำนวนหนึ่งจะไม่มีอาการร้ายแรงในระยะแรก แต่อาจมีอาการแพ้พิษผึ้งจนส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายล้มเหลวได้ในภายหลัง แต่ก็พบเคสนี้ไม่บ่อยนัก
ผึ้งต่อย ใช้มะนาวช่วยแก้พิษได้จริงไหม
ข้อมูลที่อ้างว่า ใช้น้ำมะนาวบรรเทาอาการผึ้งต่อยได้ ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรดเช่นเดียวกับพิษของสัตว์ จึงไม่สามารถละลายหรือแก้พิษผึ้งได้ แต่จะยิ่งทำให้พิษของผึ้งมีความเป็นกรดมากขึ้นไปอีก สรุปคือมะนาวไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการโดนผึ้งต่อยแต่อย่างใดเลย
ผึ้งต่อย ทำไงดี ปฐมพยาบาลง่าย ๆ บรรเทาอาการได้แน่ ๆ
วิธีปฐมพยาบาล เมื่อโดนผึ้งต่อยที่ถูกต้อง สามารถทำได้ ดังนี้
1. เอาเหล็กไนออกโดยด่วน
สาเหตุที่ต้องเอาเหล็กไนออกโดยเร็วเพื่อลดปริมาณน้ำพิษที่จะเข้าสู่ร่างกาย เราสามารถเอาเหล็กไนผึ้งออกได้ด้วยการใช้กุญแจที่มีรูตรงกลาง กดไปที่แผล จากนั้นดึงเอาเหล็กไนออกมา หรือจะใช้สันมีด บัตรแข็งอย่างเดบิตหรือบัตรเครดิตรีดเอาเหล็กไนออกจากแผลผึ้งต่อยก็ได้ รวมทั้งการใช้เทปกาวเหนียว ๆ เช่น เทปใส ปิดทาบบริเวณที่ถูกต่อยแล้วดึงเหล็กไนออกมา แต่ต้องระวังการกดหรือบีบแผลเพื่อเอาเหล็กไนออก เพราะอาจถูกบริเวณถุงพิษ ซึ่งจะทำให้ได้รับพิษมากขึ้น
2. ล้างแผลด้วยน้ำและสบู่
ทำความสะอาดแผลและล้างพิษของผึ้งด้วยน้ำและสบู่ จากนั้นใช้ผ้าซับให้แห้ง
3. ประคบด้วยน้ำแข็ง
ใช้ผ้าสะอาด ห่อน้ำแข็ง แล้วนำมาประคบบริเวณที่ถูกผึ้งต่อย ความเย็นจะช่วยให้อาการปวดและบวมบรรเทาลง
4. ทายาหม่อง
ทายาหม่องบาง ๆ เพื่อลดอาการอักเสบ และบรรเทาปวดจากพิษผึ้ง หรือทาแอมโมเนียซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง เพื่อลดปฏิกิริยาต่อน้ำพิษและลดความเจ็บปวด
5. กินยา
ในกรณีที่ปวดมาก สามารถกินยาพาราเซตามอล ตามอาการ หรือหากมีอาการคันมาก สามารถกินยาแก้แพ้ เช่น คลอร์เฟนิรามีน ครั้งละครึ่ง-1 เม็ด ทุก 6-8 ชั่วโมง ร่วมกับทาครีมสเตียรอยด์เพื่อบรรเทาอาการอักเสบได้
ทั้งนี้ ถ้าบริเวณที่ถูกต่อยบวมมาก ควรให้นอนพัก และยกส่วนที่บวมให้สูงขึ้น เช่น หากถูกผึ้งต่อยแขนหรือขา ให้ยกแขนหรือขาขึ้น หรือวางแขนขาไว้บนระดับที่สูงกว่าปกติ พยายามอย่าเกาบริเวณที่ถูกต่อย
อาการผิดปกติที่ต้องรีบไปพบแพทย์
หากมีอาการดังต่อไปนี้ข้อใดข้อหนึ่ง หลังจากที่โดนผึ้งต่อย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- ปวด บวม แดง คัน โดยไม่ยุบภายใน 6 ชั่วโมง
- แผลบวมขึ้นเรื่อย ๆ หรือมีอาการปวดมาก
- เป็นลมพิษทั่วตัว หรือมีอาการบวมบริเวณอื่นร่วมด้วย เช่น ริมฝีปาก หนังตา
- มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเดิน หรือเจ็บแน่นหน้าอก
- หายใจลำบาก หายใจมีเสียงดังวี้ด หรือหน้ามืด เป็นลม
- ถูกต่อยที่ลิ้น หรือภายในช่องปาก หรือที่ตา
- ถูกผึ้งหรือต่อรุมต่อยจำนวนมาก
- เคยมีประวัติถูกผึ้งหรือต่อต่อยมาก่อน เคยมีอาการแพ้แมลงพวกนี้มาก่อน หรือเป็นคนที่แพ้อะไรง่าย
- มีอาการผิดปกติเกิดขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ หลังถูกต่อย เช่น มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย ปวดข้อ ตามัว ตัวซีด มีจ้ำเขียวตามตัว เป็นต้น
วิธีป้องกันไม่ให้ถูกผึ้งต่อย
- พยายามอยู่ให้ห่างจากเหล่าผึ้ง
- หากเจอผึ้งในระยะประชิด พยายามอยู่นิ่งให้มากที่สุด แล้วหาผ้าคลุมใบหน้าไว้ ค่อย ๆ เดินออกมาอย่างช้า ๆ และอย่าพยายามตีผึ้ง หรือปัดไล่ เพราะจะเสี่ยงโดนผึ้งต่อยกลับ
- เมื่อผึ้งต่อยคนจะปล่อยสารเคมีดึงดูดผึ้งตัวอื่นเข้ามาด้วย ดังนั้น หากถูกผึ้งต่อยแล้วพบว่าในบริเวณนั้นมีผึ้งอยู่หลายตัว ให้ปิดปากและจมูกไว้ แล้วรีบหลบไปอยู่ในพื้นที่มิดชิด เพื่อไม่ให้ถูกรุมต่อย ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อชีวิตมากขึ้น
- หากต้องอยู่ในบริเวณที่มีผึ้งจำนวนมาก เช่น ในสวนดอกไม้ สวนผลไม้ หรือต้องไปเก็บรังผึ้ง ควรสวมใส่ชุดและอุปกรณ์ป้องกันผึ้งต่อยให้ครบ
- ควรสวมเสื้อผ้าสีมอ ๆ หรือสีเรียบ ๆ งดใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันฉูดฉาด หรือลายดอกไม้ ซึ่งจะดึงดูดความสนใจของแมลงได้ง่าย
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอม ครีม หรือเครื่องสำอางใด ๆ ที่มีกลิ่นหอมหวาน
- หากผึ้งหลงเข้ามาบินอยู่ในบ้าน เราก็มีวิธีไล่ผึ้งแบบสันติวิธี ดังนี้เลย
- 12 วิธีไล่ผึ้งออกจากบ้านแบบง่าย ๆ จากกันด้วยดี ไม่มีใครเจ็บตัว !!
เมื่อโดนผึ้งต่อยก็ลองปฐมพยาบาลด้วยวิธีที่ถูกต้องตามที่เราแนะนำไป ที่สำคัญพยายามสังเกตอาการผิดปกติให้ดี ๆ หากพบแล้วต้องรีบไปหาหมอทันที ส่วนในกรณีที่โดนแมลงหรือสัตว์ชนิดอื่น ๆ กัด ต่อย สมุนไพรบางชนิดก็สามารถถอนพิษให้ได้ ตามนี้เลย
- 6 สมุนไพรแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อน หาง่าย ใช้ได้บ่อย เพราะใกล้ตัว
ขอบคุณข้อมูลจาก
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, องค์การอาหารและยา, สถานเสาวภา, รามาชาแนล, gotoknow
ผึ้งต่อย อันตรายแค่ไหน
รู้หรือไม่ว่าผึ้งที่มีพิษคือผึ้งตัวเมีย เนื่องจากผึ้งตัวเมียจะมีเหล็กไนอยู่ที่ก้น โดยเหล็กไนคืออวัยวะที่ดัดแปลงมาจากอวัยวะในการวางไข่ มีลักษณะคล้ายเข็มสองอัน มีเงี่ยงอยู่ที่ปลาย ตรงโคนเหล็กไนจะต่อกับถุงพิษที่อยู่บริเวณท้องส่วนปลาย ไว้สำหรับป้องกันรังของตัวเอง เมื่อผึ้งต่อยเหยื่อ พิษของผึ้งจะถูกปล่อยออกมาพร้อมเหล็กไน ผึ้งบางชนิดจะตายไป แต่บางชนิดก็สามารถปล่อยเหล็กไนได้มากกว่า 1 ครั้ง เมื่อคนโดนผึ้งต่อย อาการจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อพิษของผึ้ง ซึ่งแบ่งได้เป็น 4 ลักษณะ ดังนี้
1. อาการเฉพาะที่ (Non allergic local reaction)
เมื่อโดนผึ้งต่อย จะเกิดอาการปวด บวม แดง รู้สึกคล้ายถูกเข็มแทง มีตุ่มบวมขึ้นมา และอาจมีอาการคันบริเวณที่โดนผึ้งต่อยด้วย โดยส่วนมากอาการเหล่านี้จะหายได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมง และไม่มีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ เว้นแต่หากโดนผึ้งต่อยปาก ตา จมูก ในปาก ในคอ อาการบวมจากพิษผึ้งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะทางเดินหายใจอุดตัน (Respiratory obstruction) จำเป็นต้องรีบไปรักษาที่โรงพยาบาล
2. อาการแพ้ (Hypersensitivity reaction)
สำหรับคนที่มีอาการแพ้พิษผึ้ง แม้จะโดนพิษของผึ้งเพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ ดังนี้
* อาการเฉพาะที่
จะมีอาการปวด บวม แดง บริเวณที่โดนต่อย โดยเป็นอยู่หลายวัน ทั้งนี้ ผู้ป่วยประมาณ 5-10% อาจมีอาการพิษต่อร่างกายในภายหลังได้
* อาการพิษต่อร่างกาย
ร่างกายของผู้ที่แพ้พิษผึ้งจะแสดงอาการภายใน 30 นาที หลังได้รับพิษ ในรายที่อาการรุนแรงจะมีระดับความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นเร็ว หายใจลำบาก และอาจเสียชีวิตได้ภายใน 1 ชั่วโมงแรก
3. อาการแพ้ที่เกิดซ้ำได้อีก (Subsequent stings)
ประมาณ 35-60% ของผู้ที่มีปฏิกิริยากับพิษของผึ้ง จะเกิดอาการได้อีกเมื่อได้รับพิษจากผึ้งอีกครั้ง รวมไปถึงกับสัตว์มีพิษชนิดอื่น ๆ ด้วย หากเราแพ้พิษของมันแล้ว โดนกัดหรือต่อยครั้งต่อไปก็จะมีอาการเช่นเดิมได้อีก
4. การเกิดพิษโดยตรง (Direct toxic envenomations)
มักเกิดในกรณีที่ถูกต่อยเป็นจำนวนมาก ได้รับพิษผึ้งจำนวนมากในครั้งเดียว ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลีย อาเจียน ท้องเสีย ปวดศีรษะ และมีอาการระบบต่าง ๆ ของร่างกายเป็นพิษ เช่น หัวใจเต้นผิดปกติ ตับวาย ไตวาย ซึ่งอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้
อย่างไรก็ตาม พบว่าผู้ป่วยจำนวนหนึ่งจะไม่มีอาการร้ายแรงในระยะแรก แต่อาจมีอาการแพ้พิษผึ้งจนส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายล้มเหลวได้ในภายหลัง แต่ก็พบเคสนี้ไม่บ่อยนัก
ผึ้งต่อย ใช้มะนาวช่วยแก้พิษได้จริงไหม
ข้อมูลที่อ้างว่า ใช้น้ำมะนาวบรรเทาอาการผึ้งต่อยได้ ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรดเช่นเดียวกับพิษของสัตว์ จึงไม่สามารถละลายหรือแก้พิษผึ้งได้ แต่จะยิ่งทำให้พิษของผึ้งมีความเป็นกรดมากขึ้นไปอีก สรุปคือมะนาวไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการโดนผึ้งต่อยแต่อย่างใดเลย
ผึ้งต่อย ทำไงดี ปฐมพยาบาลง่าย ๆ บรรเทาอาการได้แน่ ๆ
วิธีปฐมพยาบาล เมื่อโดนผึ้งต่อยที่ถูกต้อง สามารถทำได้ ดังนี้
1. เอาเหล็กไนออกโดยด่วน
สาเหตุที่ต้องเอาเหล็กไนออกโดยเร็วเพื่อลดปริมาณน้ำพิษที่จะเข้าสู่ร่างกาย เราสามารถเอาเหล็กไนผึ้งออกได้ด้วยการใช้กุญแจที่มีรูตรงกลาง กดไปที่แผล จากนั้นดึงเอาเหล็กไนออกมา หรือจะใช้สันมีด บัตรแข็งอย่างเดบิตหรือบัตรเครดิตรีดเอาเหล็กไนออกจากแผลผึ้งต่อยก็ได้ รวมทั้งการใช้เทปกาวเหนียว ๆ เช่น เทปใส ปิดทาบบริเวณที่ถูกต่อยแล้วดึงเหล็กไนออกมา แต่ต้องระวังการกดหรือบีบแผลเพื่อเอาเหล็กไนออก เพราะอาจถูกบริเวณถุงพิษ ซึ่งจะทำให้ได้รับพิษมากขึ้น
2. ล้างแผลด้วยน้ำและสบู่
ทำความสะอาดแผลและล้างพิษของผึ้งด้วยน้ำและสบู่ จากนั้นใช้ผ้าซับให้แห้ง
3. ประคบด้วยน้ำแข็ง
ใช้ผ้าสะอาด ห่อน้ำแข็ง แล้วนำมาประคบบริเวณที่ถูกผึ้งต่อย ความเย็นจะช่วยให้อาการปวดและบวมบรรเทาลง
4. ทายาหม่อง
ทายาหม่องบาง ๆ เพื่อลดอาการอักเสบ และบรรเทาปวดจากพิษผึ้ง หรือทาแอมโมเนียซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง เพื่อลดปฏิกิริยาต่อน้ำพิษและลดความเจ็บปวด
5. กินยา
ในกรณีที่ปวดมาก สามารถกินยาพาราเซตามอล ตามอาการ หรือหากมีอาการคันมาก สามารถกินยาแก้แพ้ เช่น คลอร์เฟนิรามีน ครั้งละครึ่ง-1 เม็ด ทุก 6-8 ชั่วโมง ร่วมกับทาครีมสเตียรอยด์เพื่อบรรเทาอาการอักเสบได้
ทั้งนี้ ถ้าบริเวณที่ถูกต่อยบวมมาก ควรให้นอนพัก และยกส่วนที่บวมให้สูงขึ้น เช่น หากถูกผึ้งต่อยแขนหรือขา ให้ยกแขนหรือขาขึ้น หรือวางแขนขาไว้บนระดับที่สูงกว่าปกติ พยายามอย่าเกาบริเวณที่ถูกต่อย
อาการผิดปกติที่ต้องรีบไปพบแพทย์
หากมีอาการดังต่อไปนี้ข้อใดข้อหนึ่ง หลังจากที่โดนผึ้งต่อย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- ปวด บวม แดง คัน โดยไม่ยุบภายใน 6 ชั่วโมง
- แผลบวมขึ้นเรื่อย ๆ หรือมีอาการปวดมาก
- เป็นลมพิษทั่วตัว หรือมีอาการบวมบริเวณอื่นร่วมด้วย เช่น ริมฝีปาก หนังตา
- มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเดิน หรือเจ็บแน่นหน้าอก
- หายใจลำบาก หายใจมีเสียงดังวี้ด หรือหน้ามืด เป็นลม
- ถูกต่อยที่ลิ้น หรือภายในช่องปาก หรือที่ตา
- ถูกผึ้งหรือต่อรุมต่อยจำนวนมาก
- เคยมีประวัติถูกผึ้งหรือต่อต่อยมาก่อน เคยมีอาการแพ้แมลงพวกนี้มาก่อน หรือเป็นคนที่แพ้อะไรง่าย
- มีอาการผิดปกติเกิดขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ หลังถูกต่อย เช่น มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย ปวดข้อ ตามัว ตัวซีด มีจ้ำเขียวตามตัว เป็นต้น
วิธีป้องกันไม่ให้ถูกผึ้งต่อย
- พยายามอยู่ให้ห่างจากเหล่าผึ้ง
- หากเจอผึ้งในระยะประชิด พยายามอยู่นิ่งให้มากที่สุด แล้วหาผ้าคลุมใบหน้าไว้ ค่อย ๆ เดินออกมาอย่างช้า ๆ และอย่าพยายามตีผึ้ง หรือปัดไล่ เพราะจะเสี่ยงโดนผึ้งต่อยกลับ
- เมื่อผึ้งต่อยคนจะปล่อยสารเคมีดึงดูดผึ้งตัวอื่นเข้ามาด้วย ดังนั้น หากถูกผึ้งต่อยแล้วพบว่าในบริเวณนั้นมีผึ้งอยู่หลายตัว ให้ปิดปากและจมูกไว้ แล้วรีบหลบไปอยู่ในพื้นที่มิดชิด เพื่อไม่ให้ถูกรุมต่อย ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อชีวิตมากขึ้น
- หากต้องอยู่ในบริเวณที่มีผึ้งจำนวนมาก เช่น ในสวนดอกไม้ สวนผลไม้ หรือต้องไปเก็บรังผึ้ง ควรสวมใส่ชุดและอุปกรณ์ป้องกันผึ้งต่อยให้ครบ
- ควรสวมเสื้อผ้าสีมอ ๆ หรือสีเรียบ ๆ งดใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันฉูดฉาด หรือลายดอกไม้ ซึ่งจะดึงดูดความสนใจของแมลงได้ง่าย
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอม ครีม หรือเครื่องสำอางใด ๆ ที่มีกลิ่นหอมหวาน
- หากผึ้งหลงเข้ามาบินอยู่ในบ้าน เราก็มีวิธีไล่ผึ้งแบบสันติวิธี ดังนี้เลย
- 12 วิธีไล่ผึ้งออกจากบ้านแบบง่าย ๆ จากกันด้วยดี ไม่มีใครเจ็บตัว !!
เมื่อโดนผึ้งต่อยก็ลองปฐมพยาบาลด้วยวิธีที่ถูกต้องตามที่เราแนะนำไป ที่สำคัญพยายามสังเกตอาการผิดปกติให้ดี ๆ หากพบแล้วต้องรีบไปหาหมอทันที ส่วนในกรณีที่โดนแมลงหรือสัตว์ชนิดอื่น ๆ กัด ต่อย สมุนไพรบางชนิดก็สามารถถอนพิษให้ได้ ตามนี้เลย
- 6 สมุนไพรแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อน หาง่าย ใช้ได้บ่อย เพราะใกล้ตัว
ขอบคุณข้อมูลจาก
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, องค์การอาหารและยา, สถานเสาวภา, รามาชาแนล, gotoknow