รู้จักโรคท่อน้ำตาอุดตัน คนมีอาการน้ำตาไหลตลอดเวลาต้องระวัง อาจเป็นโรคนี้ !

          ถ้าน้ำตาไหลทั้งที่ไม่ได้ร้องไห้หรือเสียใจ ร่วมกับมีอาการผิดปกติทางตาด้วย ต้องรีบไปพบแพทย์ เพราะหากปล่อยไว้นาน ๆ อาจถึงขั้นต้องผ่าตัดรักษา
          ความผิดปกติทางดวงตาเราจะจับสังเกตได้ง่ายเพราะเกี่ยวเนื่องกับการมองเห็น และความรู้สึกที่เราสัมผัสได้โดยตรง อย่างเวลาจ้องจอนาน ๆ จะรู้สึกได้เลยว่ามีอาการตาแห้ง แสบ เคืองตา ซึ่งเมื่อเกิดอาการเหล่านี้หลายคนอาจพึ่งน้ำตาเทียมบรรเทาอาการเบื้องต้นกันไป ทว่าเมื่อใดก็ตามที่มีน้ำตาไหลเป็นทางทั้งที่ไม่ได้ร้องไห้ ต้องรีบเช็กหน่อยแล้วว่าจะใช่อาการท่อน้ำตาอุดตันไหม เพราะหากปล่อยไว้อาจลุกลามใหญ่โตได้นะคะ
 ทำความรู้จักโรคท่อน้ำตาอุดตัน
          โรคท่อน้ำตาอุดตัน คือ ภาวะที่ท่อน้ำตาเกิดการอุดตันจนทำให้ไม่สามารถระบายน้ำตาออกมาได้ น้ำตาจึงไหลตลอดเวลา โดยสาเหตุของท่อน้ำตาอุดตันจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

1. ท่อน้ำตาอุดตันโดยกำเนิด

          มักจะพบอาการตั้งแต่วัยเด็ก โดยเกิดจากระบบทางเดินน้ำตาเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์มารดา ทำให้ลิ้นเปิด-ปิดน้ำตาไม่เปิด จึงมักพบว่าเด็กมีน้ำตาไหลเอ่อคลอเบ้าตาอยู่เสมอ หรือตาข้างหนึ่งแห้ง ตาอีกข้างชื้นน้ำตา แฉะ หรือถ้าเกิดการอุดตันของท่อน้ำตาไปจนถึงถุงน้ำตาจะพบว่าดวงตามีหนองด้วย

2. ท่อน้ำตาอุดตันจากสาเหตุอื่น

          ยังไม่พบสาเหตุที่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากความผิดปกติทางกายวิภาคที่บริเวณรูท่อน้ำตา บริเวณถุงน้ำตา หรือรูบริเวณทางเดินน้ำตา ทำให้ท่อน้ำตามีรูแคบกว่าปกติ โดยอาจเกิดจากอุบัติเหตุ อายุที่มากขึ้น ไซนัสอักเสบเรื้อรัง หรือภาวะถุงน้ำตาอักเสบ ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการน้ำตาไหลตลอดเวลา ต่อมาอาจมีการอักเสบของถุงน้ำตา และบางรายอาจมีอาการตาแดงร่วมด้วย
ท่อน้ำตาอุดตัน ใครเสี่ยงบ้าง
          นอกจากเด็กทารกและคนที่มีลักษณะรูท่อน้ำตาผิดปกติแล้ว คนที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคไซนัสอักเสบ คนที่มีถุงน้ำตาอักเสบ ผู้สูงอายุ หรือคนที่ประสบอุบัติเหตุทางดวงตา หรือจมูก ก็มีความเสี่ยงกับโรคท่อน้ำตาอุดตันได้
ท่อน้ำตาอุดตัน อาการเป็นอย่างไร
โรคท่อน้ำตาอุดตัน

          เราสามารถสังเกตอาการท่อน้ำตาอุดตันได้ ดังนี้

          1. อาการตาแฉะ มีน้ำตาเอ่อในตา หรือน้ำตาหยด ต้องซับตลอดเวลา

          2. น้ำตาเอ่อในตาจนเริ่มมีอาการมองเห็นไม่ชัด

          3. รู้สึกเคืองตาตลอดเวลา

          4. หากมีอาการอุดตันที่ท่อน้ำตาในตอนปลายของทางเดินน้ำตา หรืออุดตันไปถึงถุงน้ำตา และเกิดการหมักหมมของเชื้อโรค อาจมีอาการดังนี้

          - มีอาการอักเสบบวมแดงบริเวณหัวตา

          - มีขี้ตามาก ขี้ตาเป็นสีเหลืองเขียวปนมูก

          - เมื่อกดบริเวณที่บวมแดงจะมีหนองไหลออกมา และอาการบวมจะลดลง

          - หากเป็นหนักจะมีอาการปวด บวม ร้อน และเจ็บ ลักษณะเหมือนฝี และหากตุ่มบวมแตกจะมีหนองและน้ำตาไหลออกมา

ท่อน้ำตาอุดตัน อันตรายไหม
          การปล่อยให้ท่อน้ำตาอุดตันไปเรื่อย ๆ อาจเกิดการหมักหมมของสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่เราเจอในแต่ละวัน และกระตุ้นการอักเสบจนกลายเป็นฝีหนองที่หัวตา หรืออาจลุกลามไปในดวงตาได้ ซึ่งหากไม่ทำการรักษาอย่างถูกวิธีก็เสี่ยงจะติดเชื้อในดวงตาได้เลยล่ะค่ะ
ท่อน้ำตาอุดตัน รีบรักษาให้หายดีกว่า

          วิธีรักษาท่อน้ำตาอุดตัน สามารถทำได้ดังนี้

1. รักษาด้วยยา

          โดยหยอดยาปฏิชีวนะและรับประทานยา ร่วมกับการล้างท่อและถุงน้ำตา หรืออาจได้รับยาลดบวมของเยื่อจมูก และยาลดบวมของท่อน้ำตา ในกรณีที่มีการอุดตันของท่อน้ำตาในระยะแรก ๆ หรือหากเป็นเด็กแรกเกิดอาจรักษาด้วยการนวดถุงน้ำตา ร่วมกับการใช้ยาชนิดรับประทานและยาหยอดปฏิชีวนะร่วมด้วย

2. รักษาด้วยลวดแยงท่อน้ำตา

          เป็นวิธีรักษาผู้ป่วยเด็กที่มีอายุหลัง 1 ขวบ ซึ่งการอุดตันอาจเป็นเพียงเยื่อบาง ๆ ปิดอยู่เท่านั้น จึงสามารถแยงท่อน้ำตาให้เปิดทำงานตามปกติด้วยลวดทางการแพทย์ได้ แต่หากปล่อยไว้จนอายุเกิน 4 ขวบ การรักษาด้วยวิธีนี้อาจไม่ค่อยได้ผลเท่าไร

3. การผ่าตัด

          การผ่าตัดท่อน้ำตาอุดตันเป็นวิธีรักษาที่ได้ผลมากที่สุด โดยแพทย์จะพิจารณาการอุดตันของท่อน้ำตาก่อนว่าเกิดบริเวณไหนถึงไหน จากนั้นจึงจะเลือกวิธีผ่าตัดท่อน้ำตาอุดตัน ซึ่งมีทั้งการผ่าตัดแบบดั้งเดิม โดยผ่าตัดเปิดแผลบริเวณด้านข้างของจมูก เพื่อระบายท่อน้ำตาและเย็บแผล ซึ่งวิธีนี้อาจทำให้เกิดแผลเป็นได้ หรือวิธีผ่าตัดท่อน้ำตาอุดตันแบบส่องกล้อง โดยแพทย์จะผ่าตัดโดยใช้กล้องขนาดเล็กใส่เข้าไปด้านในจมูกเพื่อเปิดท่อระบายน้ำตา ซึ่งวิธีนี้จะไม่เกิดแผลเป็นและทำให้ผู้ป่วยฟื้นได้เร็ว

          ทั้งนี้ ในบางกรณีแพทย์อาจผ่าตัดเอาถุงน้ำตาที่อักเสบออก โดยไม่ทำท่อน้ำตาใหม่ผ่านลงสู่จมูก ซึ่งผู้ป่วยจะมีน้ำตาไหลออกนอกตา ต้องคอยซับน้ำตาตลอดเวลา ทว่าเวลาผ่านไป ร่างกายจะปรับตัวและผลิตน้ำตาลดลง ช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างไม่ลำบากมากนัก

ท่อน้ำตาอุดตัน เป็นแล้วควรดูแลตัวเองอย่างไร
โรคท่อน้ำตาอุดตัน

          หากมีอาการท่อน้ำตาอุดตัน ควรปฏิบัติตามนี้

          1. พบจักษุแพทย์


          2. หยอดยาและรับประทานยาปฏิชีวนะตามคำสั่งแพทย์ เพื่อป้องกันการอักเสบติดเชื้อ


          3. นวดบริเวณถุงน้ำตา โดยทำวันละ 4-5 ครั้ง


          4. ผู้ป่วยที่จักษุแพทย์ทำทางเดินน้ำตาให้ใหม่ หลังผ่าตัดจะมีสายยางเล็ก ๆ บริเวณท่อน้ำตากับโพรงจมูก ซึ่งอาจต้องคาไว้ 3-6 เดือน ผู้ป่วยต้องไม่ขยับหรือดึงสายออก ถ้าหลุดให้บอกแพทย์ หรือรีบกลับมาพบแพทย์


          5. ไม่ควรล้างหน้า แต่สามารถใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาดได้ โดยห้ามเช็ดสายยางบริเวณตา


          6. หากพบอาการผิดปกติ เช่น มีน้ำตาไหลออกมาเอง ให้มาพบแพทย์ เพราะอาจเกิดการอุดตันของท่อน้ำตาอีก


          7. หลีกเลี่ยงฝุ่นละอองต่าง ๆ ไม่ให้เข้าตา


          8. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่


          9. พักผ่อนให้เพียงพอ

          อย่างไรก็ตาม ในเด็กทารก ผู้ปกครองควรหมั่นสังเกตอาการของเด็ก หากพบว่าตาแฉะผิดปกติควรรีบพามาพบแพทย์ทันที เพราะหากพบในระยะแรก ๆ ตั้งแต่ยังเล็กจะรักษาได้ง่าย บางรายอาจไม่จำเป็นต้องรักษาเลย แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้จนถึงอายุ 4 ขวบ การรักษาจะซับซ้อนยิ่งขึ้น รวมไปถึงผู้ใหญ่ที่มีอาการน้ำตาไหลผิดปกติก็ควรรีบไปปรึกษาแพทย์และทำการรักษาโดยเร็วเช่นกันนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก
ศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รู้จักโรคท่อน้ำตาอุดตัน คนมีอาการน้ำตาไหลตลอดเวลาต้องระวัง อาจเป็นโรคนี้ ! อัปเดตล่าสุด 15 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 23:30:50 23,960 อ่าน
TOP
x close