ชวนมารู้จัก “คามู คามู” ซูเปอร์ฟรุต (Superfruit) ที่ยืนหนึ่งเรื่องวิตามินซีมากกว่าผลไม้ชนิดไหน ๆ มาดูกันว่าคุณประโยชน์ของคามู คามู ดีต่อสุขภาพอย่างไร ทำไมจึงควรรับประทานเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน
วิตามินซี ตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน

เราอาจจะรู้จักวิตามินซีในบทบาทของการป้องกันโรคหวัด รักษาเลือดออกตามไรฟัน ทว่าก็ยังมีอีกหน้าที่สำคัญ นั่นก็คือการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง โดยมีการศึกษาพบว่า วิตามินซีมีส่วนกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวให้ดักจับและทำลายเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเม็ดเลือดขาวนี่ล่ะค่ะที่เป็นด่านหน้าในการต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ แสดงว่า ถ้าเม็ดเลือดขาวทำงานได้ดี โรคภัยไข้เจ็บก็จะไม่ย่างกรายเข้ามาทำร้ายเราง่าย ๆ
ทั้งนี้ โดยปกติแล้วในวัยผู้ใหญ่ควรได้รับวิตามินซี ประมาณ 60-90 มิลลิกรัมต่อวัน แต่หากต้องการเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสต่าง ๆ อาจรับประทานได้ถึงวันละ 1,000 มิลลิกรัม ซึ่งเมื่อพูดถึงผัก-ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ๆ หลายคนอาจนึกถึงส้ม มะนาว มาเป็นอันดับต้น ๆ ใช่ไหมคะ แต่รู้ไหมว่า จริง ๆ แล้วผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูงที่สุดก็คือ "คามู คามู" ที่มีฉายาว่า “King of Vitamin C” และเราอยากชวนทุกคนไปทำความรู้จักผลไม้ชนิดนี้กันให้มากขึ้นคามู คามู King of Vitamin C จากแดนลาติน

ในบ้านเราอาจจะไม่คุ้นกับผลไม้ที่ชื่อว่าคามู คามู (Camu Camu) เท่าไร เพราะเป็นผลไม้ที่มีแหล่งกำเนิดจากทวีปอเมริกาใต้ในพื้นที่ริมน้ำของเขตป่าฝนแถบแอมะซอน ซึ่งครอบคลุมอาณาเขตหลายประเทศ ทั้งบราซิล เปรู โคลอมเบีย เวเนซุเอลา และเอกวาดอร์ ลักษณะเป็นไม้พุ่มที่มีขนาดเล็กประมาณ 3-5 เมตร ผลสุกคามู คามู จะมีสีม่วงแดงเข้ม รูปทรงรีคล้ายผลของเชอร์รี รสชาติจะออกเปรี้ยว
โดยผลไม้ชนิดนี้เป็นที่นิยมมาก ๆ ในกลุ่มคนรักสุขภาพ เนื่องจากมีผลวิจัยยืนยันว่า คามู คามู เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทั้งหมด คือ มีวิตามินซีสูงถึง 2,400-3,000 มิลลิกรัม ต่อเนื้อผลสด 100 กรัม ซึ่งมากกว่าส้มราว ๆ 50 เท่า และเมื่อเทียบกับมะนาวก็พบว่า คามู คามู มีปริมาณวิตามินซีมากกว่า 100 เท่า ไม่แปลกเลยที่ได้รับสมญานามว่าเป็น King of Vitamin C
7 สรรพคุณดี ๆ ของคามู คามู ที่รู้แล้วจะเลิฟ

1. เสริมภูมิคุ้มกัน
เพราะวิตามินซีมีบทบาทสำคัญต่อภูมิคุ้มกันของเรา เมื่อคามู คามู มีปริมาณวิตามินซีสูงมาก ประกอบกับมีสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มโพลีฟีนอลอีกหลายชนิด จึงมีส่วนช่วยบูสต์ระบบภูมิคุ้มกันของเราให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
2. ลดความรุนแรงของโรคหวัด

3. ต้านอนุมูลอิสระ
คามู คามู เป็นผลไม้ที่มีสารแอนติออกซิแดนท์ หรือสารต้านอนุมูลอิสระสูงไม่แพ้วิตามินซี และมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน เช่น ฟลาโวนอยด์ แอนโทไซยานิน แคโรทีนอยด์ เอลลาจิกแอซิด คาเทชิน ฯลฯ ซึ่งสารเหล่านี้จะช่วยปกป้องไม่ให้อนุมูลอิสระไปทำลายเซลล์ของร่างกาย จนก่อให้เกิดความเสื่อมในอวัยวะต่าง ๆ ตามมา
4. ต้านการอักเสบ
สารพฤกษเคมีหลายชนิดในคามู คามู นอกจากจะช่วยต้านอนุมูลอิสระ ยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ จึงอาจช่วยลดการอักเสบในร่างกายได้ เช่น อาการข้ออักเสบและข้อเข่าเสื่อม ที่เคยมีการศึกษาโดยให้อาสาสมัคร 20 คน สุ่มดื่มน้ำผลคามู คามู สกัดเข้มข้น 100% เทียบกับการรับประทานวิตามินซีอัดเม็ด ในปริมาณ 1,050 มิลลิกรัม เท่ากัน เป็นเวลาต่อเนื่อง 7 วัน พบว่า กลุ่มที่ดื่มมีภาวะการเกิดออกซิเดชั่นและภาวะการอักเสบลดลง ในขณะที่กลุ่มรับประทานวิตามินซีอัดเม็ดไม่พบผลดังกล่าว
5. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด

ไฟเบอร์ในผลคามู คามู มีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด เช่นเดียวกับวิตามินซี ที่จะไปลดไขมันที่ไม่ดี (LDL) และเพิ่มไขมันดี (HDL) ในเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงภาวะไขมันอุดตันตามผนังหลอดเลือด พร้อมกับลดโอกาสเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดไปด้วย อีกทั้งวิตามินซียังช่วยรักษาผนังหลอดเลือด เพิ่มการสังเคราะห์พรอสตาไซคลิน ซึ่งเป็นสารที่ยับยั้งการจับตัวเป็นก้อนของเกล็ดเลือด ช่วยขยายหลอดเลือด เท่ากับช่วยป้องกันโรคหัวใจได้อีกทาง
6. บำรุงสายตา
7. ช่วยชะลอวัย


ขอบคุณข้อมูลจาก
กองการแพทย์ทางเลือก
วารสารพยาบาลทหารบก
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
โรงพยาบาลพญาไท
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
pubmed
webmd.com