1. หน้ากากผ้า
หน้ากากผ้าส่วนใหญ่นิยมทำมาจากผ้าฝ้าย ผ้าสาลู ผ้าใยสังเคราะห์ และผ้ามัสลิน เนื่องจากตัวผ้ามีช่องว่างขนาดเล็ก ซึ่งกรมอนามัยระบุว่า สามารถป้องกันการแพร่เชื้อจากละอองฝอยได้ประมาณ 54-59% ขึ้นอยู่กับชนิดของผ้าที่ผลิต แต่ไม่สามารถป้องกันการซึมทะลุของสารคัดหลั่งได้ทั้งหมด อีกทั้งยังไม่สามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 ที่มีขนาดอนุภาคเล็กมากได้ นอกจากนี้การใช้หน้ากากผ้าอาจจะปิดจมูกและปากไม่แนบสนิทเท่าไร ดังนั้นหน้ากากชนิดนี้จึงเหมาะกับคนไม่มีอาการป่วย ไม่ได้อยู่หรือไปในพื้นที่แออัดและมีความเสี่ยงสูง
แต่ในปัจจุบันหน้ากากผ้าได้มีการวิจัยและพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันที่ดีมากยิ่งขึ้น เช่น โครงการวิจัยพัฒนาหน้ากากผ้าเพื่อป้องกัน COVID-19 และป้องกันฝุ่น PM2.5 ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (หลักสูตรวิศวกรรมและเทคโนโลยีป้องกันประเทศ) โดยการใช้วัตถุดิบจากปิโตรเคมีมาผลิตสำหรับป้องกัน COVID-19 และฝุ่น PM2.5
ซึ่งจากการทดสอบพบว่า มีความสามารถในการสะท้อนหยดน้ำหรือละอองน้ำปนเปื้อนเชื้อในระดับ ISO 5 ช่วยป้องกันการเกิดเชื้อแบคทีเรียได้สูงถึง 99.98% และป้องกันอนุภาคฝุ่นขนาดเล็ก 0.1 ไมครอน (µm) ได้ 84%
โดยวัสดุหน้ากากผ้าของ ปตท. นี้ ได้ผ่านการทดสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น การทดสอบการกรองอนุภาคสำหรับหน้ากากโดย Research Unit of Applied Electric Field in Engineering (RUEE RMUTL), มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และการทดสอบคุณสมบัติของผ้าจาก SGS (Thailand) Limited และ Thailand Textile Institute (สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ)
หน้ากากชุดนี้ถูกผลิตด้วยผ้าชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องความสะดวกสบายในการหายใจ โดยเป็นผ้าที่เน้นการระบายอากาศได้อย่างเหมาะสมตลอดเวลาที่สวมใส่ อีกทั้งยังมีสายคล้องคอที่ปรับให้กระชับกับสรีระใบหน้าของแต่ละบุคคล และการใช้หน้ากากผ้ายังช่วยลดขยะ รักษาสิ่งแวดล้อม เพราะนำกลับมาใช้ซ้ำได้อีกหลายครั้ง เพียงแค่ซักทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อนใส่ ที่สำคัญเราควรใส่หน้ากากผ้าอย่างถูกต้องเพื่อการป้องกันที่ดีที่สุด
หน้ากากผ้าของโครงการวิจัยพัฒนาหน้ากากผ้าเพื่อป้องกัน COVID-19 และป้องกันฝุ่น PM2.5
(ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการวิจัยพัฒนา)
2. หน้ากากฟองน้ำ
หน้ากากฟองน้ำจะเห็นได้บ่อยในรูปทรงหน้ากาก 3D มีความยืดหยุ่นสูง คืนรูปได้ไม่เสียทรง เพราะผลิตมาจากโพลียูรีเทนคาร์บอนสำหรับกรองอากาศโดยเฉพาะ ใส่แล้วหายใจสะดวก แต่ประสิทธิภาพในการป้องกันจะค่อนข้างต่ำ กันฝุ่นละอองขนาดเล็กและละอองเกสรไม่ได้ จึงไม่เหมาะใส่เพื่อป้องกันทั้ง COVID-19 และฝุ่น PM2.5
3. หน้ากากอนามัยทางการแพทย์
4. หน้ากากคาร์บอน
5. หน้ากาก N95
6. หน้ากาก FFP1
7. หน้ากากมีวาล์ว
การใส่หน้ากากควรใส่อย่างถูกวิธีเพื่อกันโรคและฝุ่นให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีขั้นตอนดังนี้
-
ล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสหน้ากาก
-
ใช้มือจับที่สายคล้องหูทั้ง 2 ข้าง แล้วตรวจสอบความเสียหายและความสะอาดของหน้ากากก่อนสวมใส่
-
ใส่หน้ากากโดยดึงสายคล้องหูทั้ง 2 ข้าง
-
ปรับสายหน้ากากให้กระชับ แนบกับใบหน้าที่สุด
-
เปลี่ยนหน้ากากเมื่อรู้สึกถึงความชื้น หรือสังเกตเห็นความสกปรก
ขอบคุณข้อมูลจาก
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
- Hfocus
- หลักสูตรวิศวกรรมและเทคโนโลยีป้องกันประเทศ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล
- โรงพยาบาลพญาไท
- กรมควบคุมโรค
- กรมอนามัย
- ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- เผยแพร่ใน Facebook page: Thailand Network Center on Air Quality
- บทความ “The Masked Bangkokian: เลือกหน้ากากอย่างไรเมื่อต้องเผชิญ COVID-19 พร้อมกับ PM2.5” โดย ธวัช งามศรีตระกูล, อัครโชค บุญอนันตพัฒน์ และ ศิริมา ปัญญาเมธีกุล เผยแพร่ใน Facebook page: Thailand Network Center on Air Quality Management: TAQM