ทุกวันนี้แม้ต้องกักตัวอยู่บ้าน หรือ Work From Home ก็สุขภาพดีได้ เพียงมี OPPO Band สายรัดข้อมืออัจฉริยะ ฟังก์ชันครบ ดีไซน์สวยโดดเด่น พร้อมแบตฯ อึด ใช้งานได้ยาวนาน บอกเลยสายเฮลธ์ตี้ไม่ควรพลาด
ในยามที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนต้อง Work From Home นักศึกษาหันมาเรียนแบบออนไลน์ ทำให้กิจกรรมบางอย่างในชีวิตเริ่มหายไป ไม่ว่าจะเป็นการเข้าฟิตเนสเพื่อออกกำลังกาย การหาร้านอาหารอร่อย ๆ หลังเลิกงาน หรือการคลายเครียดด้วยหนังเรื่องใหม่ หลายคนจึงเผลอใช้เวลาทั้งหมดไปกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ จนอาจเกิดปัญหาทางกายและใจตามมาโดยไม่รู้ตัว วันนี้เราเลยมีผู้ช่วยดี ๆ มาแนะนำ กับ OPPO Band สายรัดข้อมือที่จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้ง่าย ๆ แม้อยู่บ้าน ถ้าอยากรู้ว่าจะเจ๋งแค่ไหน ตามมาดูไลฟ์สไตล์ 1 วันกับสมาร์ทแบนด์เส้นนี้กันเลย
Morning Time : เริ่มต้นวันแบบสดชื่น ด้วยฟีเจอร์วัด SpO2 และตรวจการนอนหลับ
ตื่นเช้ามา สิ่งแรกที่ควรคำนึงในยุคนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องของการเช็กร่างกาย โดยเฉพาะค่าออกซิเจนในเลือดว่าต่ำกว่าปกติหรือเปล่า เพราะอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ COVID-19 ได้ ซึ่งความน่ากลัวในการระบาดระลอกนี้อยู่ที่ผู้ป่วยหลายคนแทบไม่แสดงอาการ รู้ตัวอีกทีอาจจะอยู่ในขั้นร้ายแรงซะแล้ว แต่งานนี้แค่มี OPPO Band ก็สามารถวัดค่าออกซิเจนในเลือดด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ เพียงเลื่อนไปที่ฟีเจอร์ตรวจวัด SpO2 แล้วทัช จะเห็นว่าใต้สายรัดข้อมือมีแสงสีแดงกะพริบ ซึ่งขั้นตอนนี้แหละที่ตัวเซ็นเซอร์ปล่อยคลื่นอินฟราเรดทะลุผ่านเม็ดเลือด ก่อนจะสะท้อนแสงกลับมา ใช้เวลาเพียงอึดใจเดียวก็รู้ผลแล้วล่ะ
แตะที่หน้าจอ แล้วเลื่อนขึ้น-ลง ก็จะมีโหมดนี้ขึ้นมา
เวลาวัดค่า จะมีแสงสีแดงข้างใต้เป็นสัญญาณการทำงาน ให้เราอยู่นิ่ง ๆ ไว้
สำหรับค่าปกติของระดับออกซิเจนในเลือดจะอยู่ที่ 95% ขึ้นไป ถ้าได้ต่ำกว่านั้นแสดงว่าร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ จนเกิดภาวะพร่องออกซิเจน แต่เมื่อไหร่ผลออกมาน้อยกว่า 90% อาจพบความผิดปกติของร่างกายที่เกิดจากการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจและโรคปอดบวม เรียกว่าเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้เฝ้าระวังตัวเองจากโรคต่าง ๆ ได้
เช้านี้ผลออกมาเต็มร้อย โล่งอกไปที
ไม่เพียงเท่านั้น OPPO Band ยังวัด SpO2 แบบต่อเนื่องได้ถึง 28,800 ครั้ง โดยระหว่างนอนหลับเราสามารถตรวจความอิ่มตัวของออกซิเจนและอัตราการหายใจอย่างละเอียดได้ แค่สวมสมาร์ทแบนด์เอาไว้ พอตื่นปุ๊บก็กดดูโหมดการนอนหลับ ผ่านแอปฯ HeyTap Health ในโทรศัพท์มือถือ เครื่องจะรายงานผลเลยว่าเมื่อคืนเรานอนหลับลึกพอไหม มีภาวะพร่องออกซิเจนหรือเปล่า พร้อมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทำให้เราเข้าใจและปรับนิสัยเพื่อสร้างพฤติกรรมการนอนหลับที่ดีขึ้น ซึ่งการวัดระดับออกซิเจนในเลือดนี้ยังช่วยประเมินความเสี่ยงของภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ และปัญหาอื่น ๆ เบื้องต้นได้ด้วย คราวนี้เมื่อกายพร้อม ใจพร้อม เราก็ลุยงานโลด !
มาเช็กกันหน่อยว่าเมื่อคืนนอนเต็มอิ่มแค่ไหน ระดับออกซิเจนปกติไหม
ค่าการนอนหลับที่แสดงในแอปฯ ละเอียดยิบ แต่ก็เข้าใจง่าย
Working Mode : แจ้งเตือนให้ขยับร่างกาย WFH แบบสุขภาพดี ไม่มีสะดุด
หลังจากนั่งทำงาน ง่วนอยู่หน้าจอมาเป็นชั่วโมงแทบไม่ได้ลุกไปไหน กำลังเครียด ๆ เลย จังหวะนี้ OPPO Band ก็สั่นเตือนให้เรารู้ว่านั่งนิ่ง ๆ เป็นเวลานานเกินไปแล้วนะ ต้องยืดเส้นยืดสาย หรือลุกขึ้นมาผ่อนคลายกล้ามเนื้อบ้าง เชื่อว่าหลายคนคงเคยนั่งทำงานยาว ๆ จนทำเอาปวดคอ เมื่อยหลัง ตาล้าอยู่บ่อย ๆ ซึ่งถ้าเปิดฟีเจอร์นี้ก็จะให้ความรู้สึกเหมือนมีเพื่อนรู้ใจมาคอยสะกิดให้พักจากโต๊ะทำงาน เท่านี้ก็ทำให้เราห่างไกลจาก Office Syndrome ได้แล้ว
ขยับวันละนิด เท่ากับออกกำลังกาย
After Work : ฟิตได้ทุกวัน กับ 12 โหมดออกกำลังกาย พร้อมวัด Heart Rate แบบเรียลไทม์
เคลียร์งานเสร็จแล้ว ได้เวลาออกกำลังกายสักที บอกเลยว่าถึงจะอยู่บ้านก็ยังฟิต แอนด์ เฟิร์ม ได้เต็มที่ไม่ต่างจากเข้าฟิตเนส เพราะ OPPO Band มาพร้อมโหมดออกกำลังกายที่มีให้เลือกถึง 12 รูปแบบ ได้แก่ วิ่งกลางแจ้ง, วิ่งในร่ม, วิ่งเผาผลาญไขมัน, เดินกลางแจ้ง, ขี่จักรยานกลางแจ้ง, ขี่จักรยานในร่ม, การเดินวงรีด้วยเครื่อง Elliptical, พายเรือ, คริกเกต, แบดมินตัน, ว่ายน้ำ และโยคะ แค่กดเลือกกีฬาที่ใช่ แล้วออกสตาร์ต เครื่องก็จะบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ทั้งระยะเวลาในการทำกิจกรรม จำนวนแคลอรีที่เผาผลาญ ซึ่งช่วยให้เราติดตามความคืบหน้าและนำไปวางแผนการออกกำลังกายในระยะยาว เหมือนมีเทรนเนอร์ส่วนตัวเลยก็ว่าได้
มีโหมดออกกำลังกายให้เลือกเยอะมาก เอาใจทั้งสายอินดอร์และเอาต์ดอร์
เริ่มด้วยโยคะเบา ๆ ก่อน
ที่น่าสนใจต้องยกให้โหมดวิ่งเผาผลาญไขมัน ซึ่งได้รับการออกแบบเป็นพิเศษใน OPPO Band เพราะไม่เพียงแต่ให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์เท่านั้น แต่ยังตรวจสอบและประเมินประสิทธิภาพการเบิร์นไขมัน ทำให้เราวิ่งอย่างได้ผล ไม่ใช่แค่วิ่งหนักแล้วเหนื่อยเปล่า แค่นี้หุ่นในฝันก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ที่สำคัญยังสามารถกันน้ำในระดับความลึกสูงสุด 50 เมตร ทำให้บันทึกรอบและแคลอรีในโหมดว่ายน้ำได้สบาย ๆ ให้เราพร้อมสนุกเต็มที่ไปกับทุกกิจกรรมทางน้ำ
โหมดนี้เหมาะกับคนที่อยากเบิร์นไขมันเน้น ๆ
สำหรับใครที่อยากวัดอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกาย สมาร์ทแบนด์รุ่นนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง แค่กดเลือกฟีเจอร์รูปหัวใจ เครื่องก็จะทำงานทันที ช่วยให้เราติดตามผลและป้องกันการออกกำลังที่มากเกินไป อีกทั้งสามารถวัดแบบเรียลไทม์ได้ โดยตั้งค่าในแอปฯ HeyTap Health เลือกให้วัดแบบทุกวินาที สายรัดข้อมือก็จะแสดงผลและสั่นแจ้งเตือนเมื่อพบการเต้นของหัวใจผิดปกติ (แหม ดูแลหัวใจได้ทุกสถานการณ์ยิ่งกว่าแฟนไปอีก) นอกจากนี้เมื่อจบวัน สายรัดข้อมือยังช่วยสรุปกิจวัตรประจำวันให้เราทราบอีกด้วยนะ ทั้งจำนวนก้าว การเผาผลาญแคลอรี ระยะเวลาการออกกำลังกาย และกิจกรรมของวัน เพื่อกระตุ้นให้เคลื่อนไหวตามเป้าหมายในวันต่อไปนั่นเอง
วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ รับประกันความแม่นยำ
เผาผลาญแคลอรีได้ตามตั้งใจแล้ว พักได้ !
Play Time : เพลิดเพลินกับฟีเจอร์อัจฉริยะ
เห็นกันไปแล้วว่า OPPO Band ช่วยให้เราดูแลตัวเองได้มากกว่าที่คิด แต่นอกจากจะจัดเต็มเรื่องฟังก์ชันเพื่อสุขภาพ การรับบทผู้ช่วยนัมเบอร์วันก็ไม่ธรรมดา เพียงนำไปเชื่อมต่อกับมือถือ เราก็สามารถรับสายเรียกเข้า ข้อความแจ้งเตือน และควบคุมการเล่นเพลงได้ด้วย อย่างเวลาเปิดยูทูบแล้วเข้าห้องน้ำอยู่ ก็กดข้ามเพลงจากสายรัดข้อมือได้สบาย ๆ อีกทั้งสามารถใช้โหมดค้นหามือถือผ่านสมาร์ทแบนด์ได้สะดวกสุด ๆ ใครที่ขี้ลืมละก็ต้องเลิฟฟีเจอร์นี้แน่นอน
ซิงก์กับมือถือ ช่วยให้ไม่พลาดทุกสายสำคัญ
นอกจากนี้ OPPO Band ยังมีฟีเจอร์อัจฉริยะมากมาย เช่น ใช้แทนรีโมตถ่ายรูปเซลฟี่เก๋ ๆ ตั้งนาฬิกาปลุกด้วยการสั่นเบา ๆ หรือตรวจสอบสภาพอากาศของวันพรุ่งนี้ จะทำอะไร ที่ไหน ก็วางแผนล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ เห็นสายเล็ก ๆ แต่สเปกแรงเกินตัวจริง ๆ
ใช้เป็นรีโมต หมดปัญหาเซลฟี่แล้วมีแต่มุมเดิม ๆ
ดีไซน์สวยเฉี่ยว หน้าจอใหญ่ คมชัด ปรับได้หลากสไตล์
แม้หน้าตา OPPO Band รุ่นนี้จะดูเพรียวบาง แต่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องการมองเห็น ด้วยหน้าจอ AMOLED Fullcolor Display ขนาด 1.1 นิ้ว ที่มีขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 Color Gamut จึงแสดงข้อมูลชัดแจ๋ว สีสันสดใส ตัวอักษรใหญ่สบายตา แถมยังทนทาน ทัชจอยังไงก็ไม่ทิ้งรอยขีดข่วน เพราะมีกระจกป้องกัน 2.5D ขอบโค้งมนเข้ารูปกับสายนาฬิกาแบบซิลิโคน ดีไซน์เรียบง่าย ทันสมัย แมตช์ได้กับทุกลุค
มินิมอล แต่นำเทรนด์ไม่เบา
หากวันไหนเบื่อหน้าจอแบบเดิม ๆ เราก็ปรับเปลี่ยนสกรีนหน้าปัดนาฬิกาสลับไป-มาได้มากกว่า 40 แบบ ตามสไตล์และความชอบ โดยติดตั้งได้ 5 แบบล่วงหน้า และสามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมที่แอปฯ HeyTap Health หรือจะเพิ่มความเก๋แบบไม่ซ้ำใครด้วยการเปลี่ยนเป็นรูปถ่ายตัวเองก็ได้เช่นกัน
หน้าปัดมีแต่ลายเก๋ ๆ ทั้งนั้น เลือกไม่ถูกเลยทีเดียว
แบตฯ อึดจุใจ ใช้งานยาวนานขึ้น
สำหรับความอึดนั้น บอกเลยว่าใส่สมาร์ทแบนด์มาตั้งแต่เมื่อคืนยันเย็นอีกวัน แต่แบตฯ ก็ยังเหลือเพียบ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ขาดไม่ได้สำหรับ Gadget ในยุคนี้ โดย OPPO Band มาพร้อมแบตฯ ความจุ 100mAh สามารถชาร์จเต็มได้ภายใน 1.5 ชั่วโมง ด้วยโปรเซสเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้พลังงานต่ำ ทำให้ใช้งานได้ยาวนานถึง 12 วันต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว (อ่านไม่ผิด หน่วยเป็นวันนะ ไม่ใช่ชั่วโมง) ซึ่งการใช้งานในไลฟ์สไตล์ทั่วไปแบบนี้ ชาร์จแค่สัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอแล้ว วิธีการก็ไม่ยาก แค่ถอดตัวเครื่องออกจากสาย แล้วนำมาเสียบกับแท่นชาร์จ เท่านี้ก็เรียบร้อย
ประหยัดไฟ ชาร์จไว ใช้ได้นาน ไม่มีไม่ได้แล้ว
ถึงวิถีชีวิตจะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่สุขภาพที่ดียังเป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้าจะให้ดีควรมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยดูแลร่างกายของเราให้แข็งแรงขึ้นได้ติดตัวไว้สักเครื่อง อย่าง OPPO Band สายรัดข้อมืออัจฉริยะ ดีไซน์เรียบหรู คู่ใจสายเฮลธ์ตี้ ด้วยฟังก์ชันหลากหลาย รองรับการออกกำลังกายและตรวจวัดค่าต่าง ๆ ครบครัน พ่วงมาด้วยแบตฯ ที่ใช้งานได้เต็มสตรีม ใครที่สนใจอย่ารอช้า รีบจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีลาเวนเดอร์ ในราคาน่ารักเพียง 1,199 บาท คลิกดูโปรโมชั่นและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/oppothai รับรองว่าเหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า
#OPPOBand
#ActivateYourHealth
