สมองเป็นอวัยวะที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เพราะมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลาให้สอดคล้องกับการใช้งานและธรรมชาติของแต่ละวัย อย่างวัยเด็กมักใช้สมองไปกับการเรียนรู้และจดจำสิ่งต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการและความฉลาด พอเข้าสู่วัยเรียนก็เน้นการวิเคราะห์ในสิ่งที่มีความซับซ้อนเพิ่มขึ้น ส่วนวัยทำงานจำเป็นต้องคิด ตัดสินใจ และแก้ปัญหามากมาย สุดท้ายหลังจากใช้สมองอย่างหนักมาจนถึงวัยชราก็อาจคิดอะไรได้ช้าลง หลง ๆ ลืม ๆ จำอะไรไม่แม่นยำดังเดิม
การที่สมองทำงานโดยไม่มีวันหยุดพักเช่นนี้ ย่อมไม่แปลกที่จะเกิดอาการเบลอ เหนื่อยล้า แม้จะยังเป็นเด็กอยู่ก็ตาม ดังนั้น เพื่อป้องกันสมองถดถอย ด้อยประสิทธิภาพลงเร็วเกินไป เลยอยากชวนทุกคนมารีเฟรชสมองให้ไบรท์และตื่นตัว พร้อมสตาร์ตวันใหม่ กับ 3 เคล็ดลับดี ๆ ที่ทำได้ทุกช่วงอายุเลยค่ะ
1. ทำกิจกรรมฝึกสมอง
- วัยเด็ก : เป็นวัยที่ต้องเสริมสร้างพัฒนาการ การเรียนรู้ และการจดจำ จึงควรฝึกการใช้กล้ามเนื้อและประสาทสัมผัสต่าง ๆ ด้วยกิจกรรมปั้นดินน้ำมัน ต่อจิ๊กซอว์ ต่อบล็อก วาดรูป ระบายสี พับกระดาษ ฝึกนับเลขด้วยนิ้วมือ หรือเล่นดนตรี ฯลฯ เพื่อจะได้ใช้มือทั้ง 2 ข้างทำงานประสานกัน ทำให้ประสาทต่าง ๆ ทำงานเชื่อมโยงกันได้ดีขึ้น รวมทั้งให้เด็ก ๆ อ่านหนังสือออกเสียง ซึ่งจะช่วยพัฒนาสมอง ได้เรียนรู้การออกเสียง คำศัพท์ใหม่ ๆ และช่วยฝึกสมาธิ
-
วัยทำงาน : เป็นวัยที่ใช้สมองหนัก แต่ก็มักเคยชินไปกับการทำกิจกรรมซ้ำ ๆ เดิม ๆ ที่เสี่ยงต่อภาวะสมองเฉื่อยชา คนวัยนี้จึงต้องหมั่นเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เช่น เรียนภาษาต่างประเทศ ลองทำเมนูอาหารใหม่ ไปเที่ยวในสถานที่แปลก ๆ และควรเล่นเกมที่ต้องใช้กระบวนการคิด เช่น บอร์ดเกม ซูโดกุ รูบิก หมากฮอส หมากรุก หรือลองใส่เหรียญไว้ในกระเป๋า แล้วใช้มือคลำเดาว่าเป็นเหรียญอะไร ก็จะช่วยฝึกสมองให้คิดวิเคราะห์ได้ดีขึ้นอีกทาง แต่หากวันไหนอ่อนล้ามาก ลองทำสมาธิ หรือฟังเพลงเบา ๆ ผ่อนคลายความเครียดหน่อยนะคะ
-
วัยชรา : เป็นวัยที่สมองเหนื่อยล้าจากการใช้งานอย่างหนักมาก่อน และอาจเสี่ยงต่อความเสื่อมตามอายุที่มากขึ้นได้ ดังนั้นควรกระตุ้นประสาทและการทำงานของสมองด้วยการใช้มือข้างที่ไม่ถนัดแปรงฟัน ทำงานบ้าน หัดเขียนหนังสือ ก็จะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองซีกที่ไม่ค่อยได้ใช้งานมากขึ้น นอกจากนี้ควรนั่งสมาธิเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้สมองปล่อยคลื่นที่ช่วยผ่อนคลายออกมา ทำให้จัดเรียงความคิดและตัดสินใจได้เฉียบคมขึ้น
2. ออกกำลังกาย
- วัยเด็ก : ควรเล่นกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การปีนป่าย ปั่นจักรยาน วิ่งเล่น หรือได้เล่นกับเพื่อน ๆ วัยเดียวกัน จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กให้สมวัยในทุกด้าน ถือเป็นการพัฒนาทักษะสมองขั้นสูง หรือที่เรียกว่า EF (Executive function) ช่วยให้เด็ก ๆ เรียนรู้ทักษะทางสังคม การทำตามกติกา การเจรจาต่อรอง การรอคอย และการกำกับพฤติกรรมตัวเองเพื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น
-
วัยทำงาน : การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเซลล์สมองและมวลสมอง ช่วยเสริมสร้างทักษะการคิดอย่างมีเหตุผล และลดความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อมได้ เนื่องจากช่วยเพิ่มการไหลเวียนของออกซิเจนให้ไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น วัยทำงานจึงควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง ด้วยการแอโรบิก ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน วิ่ง หรือโยคะ
-
วัยชรา : การเต้นรำ รำไท้เก๊ก หรือการเคลื่อนไหวแขนและขาไปพร้อม ๆ กัน จะทำให้สมองเกิดวงจรการทำงานของประสาทส่วนการเคลื่อนไหวร่างกาย ช่วยประสานการทำงานของกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ เพิ่มทักษะการมองเห็น การได้ยิน การคิดวิเคราะห์ และรักษาสมดุลของการทรงตัว ท่าทาง และการกะระยะ หรือจะฝึกทักษะประสาทสัมผัสด้วยท่าใช้มือซ้ายจับติ่งหูขวา ส่วนมือขวาอ้อมไปจับหูซ้าย ทำสลับกัน 10 ครั้ง ก็เป็นท่าฝึกสมองและสมาธิที่ทำได้ไม่ยาก
3. เลือกรับประทานอาหารบำรุงสมอง
อาหารก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยบำรุงสมองได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ เราจึงควรเลือกรับประทานอาหารที่เสริมสร้างการทำงานของระบบประสาทและสมอง รวมไปถึงชะลอความเสื่อมของร่างกาย ซึ่งจริง ๆ แล้วอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมองมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน แต่ที่เด่นที่สุดต้องยกให้ "ไทโรซีน" (Tyrosine) สารอาหารสำคัญที่มีส่วนช่วยพัฒนาระบบประสาทและสมองต่อคนทุกวัย
นอกจากนี้ไทโรซีนยังช่วยกระตุ้นการทำงานของโกรทฮอร์โมน ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็ก ๆ รวมทั้งซ่อมแซมร่างกายและสมองที่เหนื่อยล้าให้กับวัยทำงานและวัยชรา ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะเป็นวัยไหน ๆ ก็ควรรับประทานอาหารที่มีไทโรซีนเป็นประจำทุกวัน ซึ่งโดยปกติแล้วไทโรซีนเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้เองจากการกินอาหารโปรตีนสูง อาทิ นม เนื้อสัตว์ ข้าวโอ๊ต ข้าวสาลี ฯลฯ ซึ่งนั่นหมายความว่าเมื่อไหร่ที่ร่างกายกินโปรตีนไม่เพียงพอก็จะส่งผลให้ไทโรซีนไม่เพียงพอกับการบำรุงสมองด้วยเช่นกัน และด้วยไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องแข่งขันกับเวลา ต้องกินอาหารแบบเร่งรีบ ทำให้หลายคนตกอยู่ในสภาพขาดโปรตีนและไทโรซีนโดยไม่รู้ตัว จึงเป็นคำตอบว่าทำไมคนจำนวนไม่น้อยเริ่มเจอกับภาวะสมองล้า อ่อนเพลีย และความจำขาดหายก่อนวัยอันควร
แต่เราสามารถเติมไทโรซีนได้ง่าย ๆ จากเครื่องดื่มบำรุงสมองและร่างกาย อย่าง "สก๊อต ซุปไก่สกัด" ซึ่งความพิเศษของสก๊อตซุปไก่สกัดคือ ดื่มง่าย สะดวก รวดเร็ว และได้คุณประโยชน์แบบเต็ม ๆ เพราะย่อยง่าย ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ทันที ไม่ต้องรอ เรียกได้ว่ารวดเร็วกว่าการกินอาหารมื้อใหญ่แต่ให้คุณประโยชน์ไม่ต่างกัน
ดังนั้น "สก๊อต ซุปไก่สกัด" ถือเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการบำรุงสมอง เหมาะสำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย ที่ต้องเริ่มต้นทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในแต่ละช่วงวัย จนอาจต้องใช้ชีวิตแข่งขันกับเวลา แต่ยังต้องการบำรุงร่างกาย ฟื้นฟูอาการเหนื่อยล้า และเสริมประสิทธิภาพการทำงานของสมอง นอกจากนี้ยังรสชาติอร่อยและดื่มง่ายมาก ๆ คนที่เพิ่งเริ่มดื่มซุปไก่ก็ดื่มได้ ที่สำคัญยิ่งแช่เย็นยิ่งอร่อย ยิ่งสดชื่นขึ้นอีกเท่าตัว !สก๊อต 100 ซุปไก่สกัดสูตร 100%
ซุปไก่สกัดเข้มข้น 100% ขวดสีแดงคุ้นตาขวดนี้ เพื่อวัยรุ่นอายุ 13 ปีขึ้นไป และวัยทำงานรุ่นใหม่ มาพร้อมคุณประโยชน์ครบถ้วน เพราะเป็นซุปไก่สกัดล้วน 100% ไม่เติมแต่งสี มีกรดอะมิโนที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ทันที พร้อมมีไทโรซีน ช่วยให้สมองสดชื่น ปลอดโปร่ง ที่สำคัญคือ รสชาติดี ไม่คาว ลบภาพจำซุปไก่แบบเดิม ๆ ไปได้เลย
ยิ่งนำไปแช่ไว้ในตู้เย็นยิ่งอร่อย เวลาเพลีย ๆ ต้องการเติมพลังเมื่อไรก็หยิบขึ้นมาดื่มให้ชื่นใจ ฟิตทั้งสมอง ทั้งร่างกาย พร้อมลุยแบบเต็ม 100 ได้ทั้งวัน ตัวช่วยดี ๆ สำหรับทุกการเริ่มต้นครั้งสำคัญของชีวิต
สก๊อต ซุปไก่สกัดผสมถั่งเฉ้า
สำหรับสายสมุนไพร Cool Smart วัยทำงานอายุ 25 ปีขึ้นไป แนะนำเป็นสก๊อต ซุปไก่สกัดผสมถั่งเฉ้า ให้ได้มากกว่าซุปไก่สกัด เพราะมีคุณประโยชน์จากซุปไก่สกัด พร้อมถั่งเฉ้าคุณภาพสายพันธุ์ทิเบต รวมสมุนไพรจีน 6 ชนิดไว้ในขวดเดียว และแน่นอนว่าสูตรนี้ก็มีไทโรซีนที่ดีต่อสมองเช่นกัน ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก
อ้อ ! ถึงจะเป็นซุปไก่สูตรผสมถั่งเฉ้า แต่ขอบอกว่าดื่มง่ายมาก ๆ ไม่ขม ไม่คาว มีกลิ่นหอมของสมุนไพร ใคร ๆ ก็ดื่มได้
สก๊อต คิตซ์ ซุปไก่สกัดผสมนมรสช็อกโกแลต
สก๊อต คิตซ์ ช็อกโก ซุปไก่สกัด
สก๊อต คิตซ์ กลิ่นมิลค์กี้บัตเตอร์ ซุปไก่สกัด
ถ้ารู้แล้วว่า ไทโรซีน ดีอย่างไร และแต่ละช่วงวัยก็ต้องมีการสตาร์ตในแต่ละสิ่งที่ต่างกัน โดยเฉพาะน้อง ๆ หนู ๆ ที่อยู่ในวัยเรียนรู้ จำเป็นต้องดูแลสมองให้ไบรท์อยู่เสมอ ด้วยการเติมสก๊อต คิตซ์ ทั้งเช้าและก่อนนอน เพื่อบำรุงทั้งสมองและร่างกายให้แข็งแรง มีพัฒนาการที่ดีสมวัย
เลือก "สก๊อต ซุปไก่สกัด ที่มีไทโรซีน" เป็นตัวช่วยให้ครอบครัวสตรองพร้อมสตาร์ตในทุก ๆ วัน
มาสตาร์ต ดูแลตัวเองไปกับครอบครัวสก๊อต ซุปไก่สกัด ตัวช่วยดี ๆ สำหรับทุกการเริ่มต้นครั้งสำคัญของชีวิต
วัยสตาร์ต ต้องสก๊อต ซุปไก่สกัด มาเตรียมพร้อมให้สมองและร่างกายของคุณและคนที่คุณรัก
และขอบอกอีกครั้งนะคะว่า ไม่ว่าจะเป็นสก๊อต ซุปไก่สกัด สูตรไหนก็ดื่มง่ายมาก ๆ ไม่มีกลิ่นคาว ยิ่งแช่เย็นยิ่งอร่อย สดชื่น เหมาะกับคนทุกเพศ ทุกวัย ที่ต้องการบำรุงสมองและร่างกาย ใครชอบสูตรไหนสามารถเลือกซื้อกันได้เลยตามช่องทางต่อไปนี้
- Shopee : https://bit.ly/3AW6aZ7
- Lazada : https://bit.ly/35HYrCh
- JD Central : https://bit.ly/3AWHdNa
#วัยสตาร์ตต้องสก๊อตซุปไก่ #สก๊อตซุปไก่มีไทโรซีน #บำรุงสมองและร่างกาย #อร่อยดื่มง่ายไม่คาว
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สภากาชาดไทย, หมอชาวบ้าน, โรงพยาบาลเปาโล, โรงพยาบาลวิชัยยุทธ, โรงพยาบาลสินแพทย์, Greenclnic, healthline.com, neurobalanceasia.com