x close

รู้จริงเรื่องคอลลาเจน เลือกอย่างไรให้ได้ครบ จบทั้งบำรุงผิวและข้อ

           คอลลาเจนที่ช่วยบำรุงผิวมีวางจำหน่ายหลากหลายชนิด แต่ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า ควรพิจารณาจากอะไรดี เรามีคำตอบ
           คอลลาเจนเป็นอาหารเสริมยอดฮิตที่สาว ๆ เลือกรับประทาน โดยเฉพาะคนที่เริ่มมีปัญหาผิวพรรณไม่สดใสเปล่งปลั่ง หรือมีริ้วรอยเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าปกติ ซึ่งหากคุณกำลังเผชิญกับความกังวลใจเหล่านี้ แต่ยังสับสนว่าควรเลือกคอลลาเจนแบบไหนดีที่ดูดซึมได้ไว รับประทานแล้วสามารถไปช่วยฟื้นฟูได้อย่างตรงจุด วันนี้ลองมาทำความเข้าใจเรื่องคอลลาเจนกัน พร้อมเช็กด้วยว่าต้องพิจารณาอะไรบ้างก่อนซื้อคอลลาเจนมาดูแลผิว
คอลลาเจนคืออะไร ?
คอลลาเจน

          คอลลาเจน (Collagen) คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นมาได้เองตามธรรมชาติ เป็นองค์ประกอบสำคัญของกระดูก ข้อต่อต่าง ๆ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และพบได้มากที่สุดบริเวณใต้ผิวหนัง มีหน้าที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและสร้างความแข็งแรงให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันและอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ดังนั้น เนื้อเยื่อที่มีคอลลาเจนอยู่จึงเต่งตึง ไม่หย่อนคล้อยง่าย ๆ 

          แต่นอกจากคอลลาเจนจะมีอยู่ในร่างกายของเราแล้ว ยังพบได้ในผลิตภัณฑ์อาหารที่มาจากสัตว์ด้วย เช่น ปลาทะเลน้ำลึก หนังปลา กระดูกปลา หนังสัตว์ เอ็นสัตว์ เจลาติน และเยลลี่ รวมไปถึงในรูปแบบอาหารเสริมต่าง ๆ

คอลลาเจนมีกี่ชนิด แต่ละชนิดต่างกันอย่างไร
คอลลาเจน

           แม้คอลลาเจนตามธรรมชาติในร่างกายของคนเราจะมีมากกว่า 16 ชนิด แต่ก็มีโอกาสผลิตได้น้อยลงและเสื่อมสลายไปตามวัย อีกทั้งการรับประทานอาหารก็อาจได้รับปริมาณคอลลาเจนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เนื่องจากมีโมเลกุลขนาดใหญ่ ถูกดูดซึมนำไปใช้ได้น้อย จึงมีการคิดค้นคอลลาเจนในรูปแบบอาหารเสริมขึ้นมา ซึ่งมักประกอบด้วยคอลลาเจน 3 ชนิดหลัก ๆ ที่มีโครงสร้างและความสามารถในการดูดซึมแตกต่างกันออกไป ดังนี้

1. คอลลาเจนเปปไทด์ (Collagen Peptide)

           เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการทำให้สายคอลลาเจนสั้นลง เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนธรรมชาติ แต่คอลลาเจนชนิดนี้ก็ยังมีสายพันธะเปปไทด์ที่ยาวและมีโมเลกุลขนาดใหญ่ถึง 6,000 ดาลตัน ร่างกายจึงยังคงดูดซึมได้ช้าอยู่ดี

2. คอลลาเจนไตรเปปไทด์ (Collagen Tripeptide)

           เป็นคอลลาเจนที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่เรียงเชื่อมกัน 3 ตัว มีโมเลกุลเฉลี่ย 300 ดาลตัน ซึ่งเป็นโมเลกุลที่มีขนาดเล็กลง ร่างกายจึงสามารถดูดซึมคอลลาเจนชนิดนี้ได้ดีขึ้นในระดับปานกลาง

3. คอลลาเจนไดเปปไทด์ (Collagen Dipeptide)

          คอลลาเจนชนิดนี้มีกรดอะมิโนที่เป็นโครงสร้างหลักเรียงต่อกันเพียง 2 ตัวเท่านั้น จึงทำให้โมเลกุลมีขนาดเฉลี่ยเพียง 200 ดาลตัน จัดว่ามีโมเลกุลเล็กที่สุดเมื่อเทียบกับคอลลาเจนไตรเปปไทด์และคอลลาเจนเปปไทด์ ร่างกายจึงสามารถดูดซึมได้ดีกว่า และสามารถนำไปใช้ได้ทันทีหลังรับประทาน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องผ่านการย่อยในกระเพาะอาหาร แต่จะถูกลำเลียงแล้วดูดซึมที่ลำไส้เล็กเข้าสู่กระแสเลือด และพุ่งตรงสู่เซลล์เป้าหมายอย่างเซลล์ผิวหนัง เซลล์กระดูกอ่อน เซลล์กระดูกได้เลย จึงมีประสิทธิภาพสูงในการดูแลผิวและข้อเข่า

          นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยพบว่า คอลลาเจนไดเปปไทด์คู่มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้ผิวหน้าได้ และยังมีงานวิจัยรับรองที่ให้กลุ่มอาสาสมัครทดลองกินคอลลาเจนไดเปปไทด์ พบว่ามีประสิทธิภาพการฟื้นฟูดีกว่าคอลลาเจนชนิดอื่น ๆ อย่างชัดเจน จึงนับได้ว่า คอลลาเจนไดเปปไทด์ เป็นคอลลาเจนที่ดูดซึมได้เร็วและดูดซึมได้ดีที่สุดนั่นเอง

ทำไมเราควรเสริมคอลลาเจนให้กับร่างกาย
คอลลาเจน

          หลายคนไม่คิดว่าคอลลาเจนสำคัญมากนัก กระทั่งอายุล่วงเข้าเลข 2 ปลาย ๆ หรือแตะเลข 3 เลข 4 ซึ่งจะเริ่มเห็นความแตกต่างชัดเจน ได้เจอกับปัญหาผิวสารพัด ทั้งผิวแห้ง ไม่เต่งตึง ไม่กระชับ เกิดริ้วรอยเพิ่มขึ้นกว่าเดิม แถมยังเริ่มรู้สึกปวดเข่า ปวดข้อได้ง่ายขึ้น

          นั่นเพราะร่างกายสร้างคอลลาเจนลดลงปีละ 1-2% บวกกับปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เช่น สูบบุหรี่จัด ดื่มแอลกอฮอล์บ่อย นอนน้อย ติดหวาน ผิวโดนทำลายด้วยแสง UV เป็นประจำ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราควรเสริมคอลลาเจน ซึ่งวิธีง่าย ๆ ก็คือการรับประทานเป็นอาหารเสริม ที่เราสามารถเติมให้ร่างกายได้ถึง 5,000-7,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อดูแลผิวพรรณ รวมไปถึงให้คอลลาเจนบำรุงกระดูกและข้อด้วย

เลือกคอลลาเจนอย่างไร ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
คอลลาเจน

          เนื่องจากคอลลาเจนในท้องตลาดมีมากมายหลายประเภท จึงอาจสับสนว่าจะเลือกคอลลาเจนยี่ห้อไหนดี หรือคอลลาเจนที่ดีที่สุดต้องมีองค์ประกอบของอะไรบ้าง เอาเป็นว่ามาลองพิจารณาคุณสมบัติคอลลาเจนที่ควรมีกันเลย

     1. เลือกชนิดคอลลาเจนที่ร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้ดี อย่างคอลลาเจนไดเปปไทด์ 100% ที่มีอนุภาคเล็กที่สุด ไม่มีส่วนผสมของคอลลาเจนโมเลกุลใหญ่ชนิดอื่น และควรเป็นคอลลาเจนที่มีความเข้มข้นสูงด้วย เพื่อการดูดซึมที่มากขึ้น

     2. คอลลาเจนควรมีวิตามินซีผสมอยู่ด้วย เพื่อช่วยเสริมการสังเคราะห์คอลลาเจน และวิตามินซียังเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายได้ดียิ่งขึ้น

     3. เลือกคอลลาเจนที่มีไนอะซิน หรือวิตามินบี 3 สารที่ช่วยคงสภาพปกติของเยื่อบุทางเดินอาหารและผิวหนัง

     4. เลือกคอลลาเจนที่มีส่วนประกอบของสารสำคัญอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อให้ได้ประโยชน์ในด้านบำรุงผิวและข้ออย่างครอบคลุม เช่น คอลลาเจนที่เพิ่มไฮยาลูรอน ช่วยเติมความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่น ริ้วรอยดูลดเลือนลง ผิวดูใสเปล่งประกาย รวมทั้งยังช่วยเสริมการหล่อลื่นของข้อเข่า ดูแลสุขภาพข้อได้อีกทาง

     5. รสชาติของคอลลาเจนต้องอร่อย ไม่จืดชืด มีกลิ่นหอม ไม่คาว ซึ่งจะช่วยให้รับประทานง่าย และคอลลาเจนควรมีลักษณะใส ไม่ผสมสี ชงและละลายน้ำได้ดี เพราะต้องทานต่อเนื่อง เพื่อได้ผลที่ดีที่สุด

     6. ควรเลือกคอลลาเจนที่ปราศจากน้ำตาลและไขมัน จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักขึ้นที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ในระยะยาว

Zeavita Activ70X Collagen Plus
ดูแลได้ครบทั้งผิวและข้อ
คอลลาเจน

ภาพจาก : zeavitathailand

          และสำหรับคนที่กำลังมองหาคอลลาเจนที่มีสรรพคุณระดับท็อป ๆ เปี่ยมคุณสมบัติที่ควรซื้อครบทุกข้อดังที่กล่าวมา เราขอแนะนำคอลลาเจน Zeavita Activ70X Collagen Plus ที่ผ่านการรับรองสิทธิบัตรจากประเทศญี่ปุ่นมาเป็นที่เรียบร้อยว่า เป็นคอลลาเจนไดเปปไทด์ 100% และไม่ผสมคอลลาเจนโมเลกุลใหญ่ชนิดอื่น ๆ จึงดูดซึมได้เร็วและดูดซึมได้ดีที่สุด (เมื่อเทียบกับคอลลาเจนไตรเปปไทด์และคอลลาเจนเปปไทด์) ช่วยฟื้นฟูชั้นผิวและข้อเข่าได้อย่างตรงจุด

          นอกจากนี้ Zeavita Activ70X Collagen Plus ยังมีความเข้มข้นมากกว่าสูตรเดิมถึง 70 เท่า อีกทั้งมีส่วนผสมของวิตามินบี 3 และวิตามินซี ที่ช่วยให้คอลลาเจนดูดซึมได้ดีขึ้น ซึ่งต้องบอกว่าไม่ค่อยเห็นการจับคู่ส่วนผสมตัวจี๊ดอย่างคอลลาเจนไดเปปไทด์ 100% กับวิตามินซีอย่างนี้ในวงการคอลลาเจนกันง่าย ๆ เลยล่ะค่ะ

คอลลาเจน

ภาพจาก : zeavitathailand

           ส่วนใครที่ข้องใจว่าควรกินคอลลาเจนตอนไหนดี ก็ขอแนะนำเป็นช่วงตอนท้องว่าง หรือก่อนนอน ซึ่งไม่มีการย่อยอาหารอื่น ๆ แล้ว ร่างกายก็จะดูดซึมคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดค่ะ อย่าง Zeavita Activ70X Collagen Plus สามารถชงง่าย ๆ แค่ละลายในน้ำก็อร่อยได้แบบดื่มเพลิน ๆ เพราะมีกลิ่นหอม ไม่คาว ไม่มีสี รับประทานวันละ 1-2 ครั้งได้เลย เพื่อสุขภาพผิวและข้อที่ดี
           ซึ่งหากใครอยากรู้จักคอลลาเจน Zeavita Activ70X Collagen Plus ให้มากกว่านี้อีกนิด ก็สามารถเข้ามาดูรายละเอียดได้ที่ www.zeavitathailand.com หรือสั่งซื้อ Zeavita Activ70X Collagen Plus ได้ผ่านช่องทาง Shopee หรือที่ร้าน Watsons ที่ตอนนี้กำลังมีโปรโมชั่นสุดพิเศษ ชิ้นที่ 2 ราคา 1 บาท เมื่อซื้อ Zeavita Activ70X Collagen Plus ขนาด 30 ซอง จ่ายเพียง 1,399 บาท จากปกติ 2 ชิ้น ราคา 2,798 บาท ตั้งแต่วันนี้ - 6 เมษายน 2565 เท่านั้นนะคะ อยากสวยและมีข้อเข่าสุขภาพดีต้องรีบไปตุนไว้ก่อนเลย
 
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รู้จริงเรื่องคอลลาเจน เลือกอย่างไรให้ได้ครบ จบทั้งบำรุงผิวและข้อ อัปเดตล่าสุด 17 มีนาคม 2565 เวลา 16:59:59 48,840 อ่าน
TOP