โรคผมร่วงเป็นหย่อม หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า โรค Alopecia Areata คือ โรคที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการผมร่วงเป็นหย่อม ๆ โดยอาจจะร่วงแค่บางจุดบนศีรษะ หรือหลายจุด หรืออาจมีขนร่วงบริเวณอื่น ๆ เช่น ขนคิ้ว หนวด จอน ขนแขน ขนขา ขนรักแร้ ขนเพชร ร่วมด้วยได้ ซึ่งโรคนี้ก็จะสร้างความอับอาย ทำให้ผู้ป่วยหมดความมั่นใจ และกระทบกับการใช้ชีวิต รวมไปถึงการเข้าสังคม
ทั้งนี้ สามารถแบ่งโรคนี้ตามตำแหน่งที่เกิดได้มากมาย อาทิ
- Alopecia Areata (AA) คือ การมีผมร่วงเป็นหย่อม ๆ ที่ศีรษะ หรืออาจมีหย่อมขนร่วงที่คิ้ว หนวดขนบริเวณใบหน้าหรือลำตัว
- Alopecia Totalis (AT) คือ การที่ผมร่วงทั้งศีรษะ และอาจรวมทั้งขนคิ้ว ขนตา
- Alopecia Universalis (AU) คือ กรณีที่ผมบนศีรษะและขนที่ลำตัวร่วงเกือบทั่วร่างกาย
เกิดจากอะไร
สำหรับคำถามที่ว่าโรคผมร่วงเป็นหย่อมเกิดจากอะไร ในทางวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุของโรคนี้ แต่เชื่อกันว่าเกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง คือการที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาทำลายตัวเอง (Autoimmune Disease) ร่วมกับมีการเสียการควบคุมของระบบภูมิคุ้มกัน (Immune Privilege) รวมไปถึงยังอาจเกิดได้จากกรรมพันธุ์ หรือปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ เช่น ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด การติดเชื้อไวรัส ฯลฯ
ขณะเดียวกัน การเจ็บป่วยทางร่างกายและจิตใจก็ยังกระทบกับการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวและสารสื่อประสาทบริเวณต่อมผม จึงทำให้ผมร่วง หรือขนตามร่างกายร่วงได้ โดยจากการศึกษาพบว่าโรคผมร่วงเป็นหย่อมมีความสัมพันธ์กับโรคภูมิแพ้ (Atopic Diseases), โรคอ้วนลงพุง (Metabolic Syndrome), การติดเชื้อ Helicobacter Pylori, โรคเอสแอลอี (SLE), โรคซีดจากการขาดธาตุเหล็ก, โรคไทรอยด์, โรคทางจิตเวช, โรคขาดวิตามินดี, โรคที่มีความผิดปกติทางหู และโรคที่มีความผิดปกติทางตาอีกด้วย
นอกจากนี้ยังพบอาการผมร่วงเป็นหย่อมหลังฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้กับบางคนด้วยนะคะ
ทาง พญ.ชินมนัส เลขวัต ประชาสัมพันธ์สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย เผยว่า โรคนี้พบได้ทั้งเพศหญิงและเพศชาย ในทุกช่วงอายุ โดยความถี่ที่พบคือราว ๆ 0.2% ของประชากรทั้งหมด
ด้านคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ให้ข้อมูลว่า อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยโรคนี้คือประมาณ 30 ปี และร้อยละ 20 ของผู้ป่วยมักจะมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ด้วย ดังนั้นหากใครมีญาติสายตรงที่เป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อม จึงควรหมั่นสังเกตอาการตัวเองให้ดี เพราะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
อาการเริ่มแรกของโรคผมร่วงเป็นหย่อม อาจสังเกตเห็นว่ามีผมร่วงเป็นหย่อม หรือร่วงเป็นกระจุกขนาดประมาณเหรียญ 10 บาท หรืออาจลามเป็นวงใหญ่ โดยหากอาการไม่รุนแรงอาจพบผมร่วงเป็นหย่อมแค่ 1-2 จุด และเป็นแค่ช่วงสั้น ๆ ประมาณ 1-2 เดือนผมก็ขึ้นใหม่ได้
แต่ในกรณีที่อาการรุนแรง อาจพบผมร่วงเป็นหย่อมโดยไม่งอกขึ้นมาใหม่ หรือผมร่วงเป็นหย่อมหลายจุด ลามไปเรื่อย ๆ จนร่วงทั้งศีรษะ บางคนอาจมีหลุมเล็ก ๆ เกิดขึ้นบนผิวของแผ่นเล็บด้วย หรือหากอาการหนักมาก ๆ ก็อาจมีผมร่วงทั้งศีรษะ รวมไปถึงขนตามร่างกาย เช่น ขนคิ้ว หนวด ขนแขน ขนรักแร้ ขนขา ขนเพชร ก็จะหลุดเกลี้ยงเกลาไปหมดและไม่งอกขึ้นมาใหม่อีกเลย
ใครที่มีอาการประมาณนี้ก็อย่าชะล่าใจ แล้วรีบเข้ากระบวนการรักษาจะดีกว่า
ปัจจุบันการรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อม มีแนวทางหลัก ๆ ดังนี้
1. รักษาด้วยยากดภูมิคุ้มกัน
2. รักษาด้วยยาที่มีฤทธิ์ระคายเคืองหรือทำให้แพ้
ยาในกลุ่มนี้จะเข้าไปทำให้เกิดการแพ้ เพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้สร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวชุดใหม่มาแทนชุดที่ทำงานผิดปกติไป และทำให้ผมงอกได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม การรักษาจะขึ้นอยู่กับแพทย์เจ้าของไข้ และอาการของผู้ป่วยแต่ละราย ว่าควรใช้วิธีไหนจึงจะเหมาะสมที่สุด อีกอย่างการตอบสนองต่อการรักษาก็ขึ้นอยู่กับร่างกาย ระยะเวลาที่เป็น และความรุนแรงของโรคในแต่ละบุคคลด้วยนะคะ ดังนั้นบางคนอาจไม่จำเป็นต้องรักษาก็หายได้เอง หรือบางคนอาจรักษาไม่นานก็หาย แต่บางคนอาจใช้เวลาเป็นปีจึงจะแก้ไขภาวะภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติให้ทำงานเป็นปกติได้
บทความที่เกี่ยวข้องกับอาการผมร่วง
- ผมร่วงเยอะมาก บอกโรคอะไร เช็กอาการที่ส่อว่าอาจป่วย
- ผมร่วงมากผิดปกติ เกิดจากสาเหตุอะไรนะ ?
- ผมร่วงหลังฉีดวัคซีน หรือผมร่วงหลังป่วยโควิด ผิดปกติไหม เกิดจากอะไรกันแน่ ?
- ผมร่วงเยอะมาก ทำไงดี ? 10 วิธีนี้ช่วยได้...
- ผมร่วงหลังคลอด สาเหตุเกิดจากอะไร และรับมืออย่างไรดี
- วิธีแก้ผมร่วง 8 สาเหตุหลักทำให้ผมร่วง ที่หนุ่ม ๆ ควรหลีกเลี่ยงก่อนหัวล้าน
ขอบคุณภาพจาก : ประชาสัมพันธ์สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย
ขอบคุณข้อมูลจาก : ประชาสัมพันธ์สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย, เฟซบุ๊ก หมอเวร, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล