ฝุ่นจิ๋ว PM2.5 ที่สร้างความเสียหายทางสุขภาพและเศรษฐกิจอย่างมหาศาล คือฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เพราะมีขนาดประมาณ 1 ใน 25 ส่วนของเส้นผ่านศูนย์กลางเส้นผม และถ้าฝุ่นนี้มีปริมาณสูงมากในอากาศร่วมกับความชื้นในอากาศ จะทำให้มองดูคล้ายกับมีม่านหมอกควันปกคลุมไปทั่ว
ขนาดที่เล็กมากทำให้สามารถลอดผ่านการกรองของขนจมูกเข้าสู่ทางเดินหายใจส่วนบน ลงไปยังหลอดลม ถุงลมปอด และซึมผ่านผนังเส้นเลือดฝอยเข้าสู่กระแสเลือดแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมายหลายระบบอวัยวะ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ พันธุกรรม อายุ ความแข็งแรง การมีโรคเรื้อรัง ร่วมด้วยสภาพแวดล้อมและระดับความเข้มข้นของ PM2.5 กับระยะเวลาที่สูดเข้าไปในร่างกาย โดยผลกระทบต่อสุขภาพสามารถแบ่งเป็นระยะดังต่อไปนี้
2. ระยะกึ่งเฉียบพลัน (เป็นเดือนถึงหลายเดือน)
3. ระยะเรื้อรัง (เป็นปีถึงหลายปีหรือชั่วอายุขัย)
ในระยะเฉียบพลันและกึ่งเฉียบพลัน ระบบที่มีผลกระทบได้เร็วและบ่อยสุดคือ ระบบทางเดินหายใจ เมื่อหายใจเอาฝุ่น PM2.5 เข้าไป จะรู้สึกแสบจมูก ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ ทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่างอักเสบ เช่น โพรงจมูก โพรงไซนัส คอ กล่องเสียง หลอดลม และปอด มีการอักเสบ อาจมีการติดเชื้อซ้ำเติมจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย เพราะฝุ่น PM2.5 ทำให้ระบบภูมิต้านทานของร่างกายอ่อนแอลง ทั้งภูมิต้านทานด่านหน้า (ภูมิต้านทานของเยื่อบุระบบการหายใจ) และภูมิต้านทานด่านหลัง (ภูมิต้านทานผ่านระบบภูมิคุ้มกันในน้ำเหลืองและภูมิต้านทานระบบเซลล์)
การป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM2.5 สามารถทำได้ด้วยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง กินอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นติดตามค่าดัชนีคุณภาพอากาศในบริเวณที่ตัวเองอยู่อาศัย หากพบว่าวันใดค่า PM2.5 สูงเกินมาตรฐาน ควรเลี่ยงหรือลดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากจำเป็นต้องอยู่นอกอาคาร ควรสวมหน้ากาก N95 ซึ่งสามารถป้องกันได้ทั้งเชื้อไวรัสโควิด 19 และฝุ่นจิ๋ว PM2.5
(ข้อมูลโดย ศ. นพ.ชายชาญ โพธิรัตน์ อาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)
กดติดตามข้อมูลข่าวสาร แคมเปญที่น่าสนใจ และกิจกรรมดี ๆ จาก สสส. เพิ่มเติมได้ที่ :
Facebook : Social Marketing Thaihealth by สสส.
Line : @thaihealththailand
Tiktok: @thaihealth
Youtube: SocialMarketingTH
Website : Social Marketing การตลาดเพื่อสังคม