หมอเผยอาการหลังติดโรคฝีดาษลิง รวมข้อมูลจาก 16 ประเทศ พบมีผื่นส่วนใหญ่ในใต้ร่มผ้า และส่วนใหญ่เป็นแบบตุ่มหนอง ลักษณะคล้ายกับซิฟิลิส บางเคสหมอยังสับสน
โรคฝีดาษลิง กำลังเป็นโรคที่ทั่วโลกจับตา
ซึ่งมีหลายประเทศแล้วที่เริ่มพบมีผู้ติดเชื้อ และหนึ่งในนั้นคือประเทศไทย
พบหนุ่มวัย 27 ชาวไนจีเรีย ที่รู้ตัวว่าติดเชื้อขณะท่องเที่ยวอยู่ที่
จ.ภูเก็ต ก่อนจะหลบหนีการรักษาข้ามไปประเทศกัมพูชา
จนมีรายงานว่าถูกจับกุมตัวได้แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (23 กรกฎาคม 2565)
ขณะที่ต่อมาองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้โรคฝีดาษลิง
เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธาณสุขระดับโลก
อ่านข่าว : จับได้แล้ว ! หนุ่มไนจีเรียผู้ป่วยฝีดาษลิง พบซ่อนตัวในอพาร์ตเมนต์ใกล้กรุงพนมเปญ
อ่านข่าว : จับได้แล้ว ! หนุ่มไนจีเรียผู้ป่วยฝีดาษลิง พบซ่อนตัวในอพาร์ตเมนต์ใกล้กรุงพนมเปญ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (22 กรกฎาคม 2565) ผศ. ดร.นพ.ปวิน นำธวัช อาจารย์ประจำภาควิชาระบาดวิทยาคลินิกและชีวสถิติ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล ได้มีการให้ข้อมูลถึงลักษณะอาการ และการดำเนินโรคของโรคฝีดาษลิง ผ่านทวิตเตอร์@Pawin Numthavaj อ้างอิงจากรายงานของทีมนักวิจัยระหว่างประเทศที่มีการรายงานไว้ในงานวิจัยรวมรวมเคส 528 เคส จากการรายงานใน 16 ประเทศ ซึ่งรวบรวมจากการรายงานโดยสมัครใจของแพทย์ที่เจอโรค แล้วมาแชร์ลักษณะและรูปแบบเคสที่เจอกัน อาจจะไม่แสดงถึงลักษณะทั้งหมดที่จะเป็นไปได้ของโรค เนื่องจากอาจมีกรณีคนไข้ไม่ยอมมาตรวจที่โรงพยาบาล หรือไม่ให้ข้อมูล
กลุ่มผู้ป่วยที่พบจาก 528 เคส มีดังนี้…
- เป็นผู้ชาย 99 เปอร์เซ็นต์ และ Trans 1 เปอร์เซ็นต์
- Homosexual 96 เปอร์เซ็นต์
- HIV + 41 เปอร์เซ็นต์
- ชาวผิวขาว 75 เปอร์เซ็นต์
- มาพร้อมโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่น 29 เปอร์เซ็นต์
อาการหลัก ๆ ของโรคฝีดาษลิง
- มีผื่น 95 เปอร์เซ็นต์ (ในบริเวณใต้ร่มผ้า 73 เปอร์เซ็นต์ แขนขา 55 เปอร์เซ็นต์ และใบหน้า 25 เปอร์เซ็นต์) ส่วนใหญ่มีน้อยกว่า 5 จุด มีผื่นเกิน 20 จุดแค่ 11 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผื่นส่วนใหญ่เป็นแบบตุ่มหนอง (Vesiculopustular) รองลงมาคือเป็นแบบหลุม (Ulcer)
- มีไข้ 62 เปอร์เซ็นต์
- มีต่อมน้ำเหลืองโต 56 เปอร์เซ็นต์
- มีอาการเจ็บคอ 21 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ แม้ส่วนใหญ่คิดว่าฝีดาษลิงจะติดจากการใกล้ชิดเวลาร่วมเพศ แต่บอกไม่ได้ว่าเพราะใกล้ชิด หรือติดทางเพศสัมพันธ์ แต่พบว่าในจำนวน 32 คน ที่ได้ตรวจ PCR ของไวรัสในน้ำอสุจิ พบไวรัสถึง 29 คน แต่ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นไวรัสจริง หรือซากไวรัส
สำหรับอาการและการดำเนินโรค พบว่ายังไม่มีผู้เสียชีวิต มี 13 เปอร์เซ็นต์ ต้องนอนโรงพยาบาลเพราะมีอาการปวดจากแผล อาทิ ผู้ป่วยมีแผลที่ทวารหนักแล้วอุจจาระไม่ได้ หรือมีบางรายติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนที่แผล ซึ่งฝีดาษลิงมีลักษณะคล้ายโรคจำพวก Syphilis จนบางเคสหมอที่ทำการรักษาถึงขั้นสับสนว่าเป็น Syphilis ก็มี
ขอบคุณข้อมูลจาก ทวิตเตอร์@Pawin Numthavaj