เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ใคร ๆ ก็อยากมีหุ่นเพรียวกระชับ แต่ใช่ว่ามันจะเกิดขึ้นได้ปุบปับเสียเมื่อไหร่ สาว ๆ หลายคนที่อยู่ระหว่างการดูแลรูปร่างแม้จะยังไม่เข้าที่ดี แต่ก็ไม่ต้องกลัวเรื่องการสวมใส่เสื้อผ้านะคะ เพราะวันนี้กระปุกดอทคอมมีทิปดี ๆ มาฝากในการเลือกใส่เสื้อผ้าที่จะช่วยพรางหุ่นให้คุณดูเพรียวสวยได้ แถมยังนำเคล็ดลับเรื่องการควบคุมอาหารมาฝากด้วยค่ะ ชักจะอยากรู้กันแล้วใช่ไหมเอ่ย ถ้าอย่างนั้นอย่ารอช้า มาดูไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ
1. พรางสะโพกใหญ่ด้วยกระโปรงทรงดินสอ
สำหรับสาวที่มีสะโพกค่อนข้างใหญ่สามารถพรางให้ดูเล็กลงได้โดยการใส่กระโปรงทรงดินสอสีเข้มอย่าง สีดำหรือน้ำตาล ชายกระโปรงที่สอบเข้าจะทำให้ดูมีทรวดทรงสมส่วนมากขึ้น นอกจากนี้เลือกแมทช์กับท่อนบนที่มีสีอ่อน หรือสีสันสดใสแบบที่คุณชอบ จะเป็นการดึงสายตาให้ไปสนใจที่ท่อนบนของคุณแทนได้ค่ะ
2.ซื้อบราตัวใหม่
จากการสำรวจ สาว ๆ ราว 85% ยังสวมใส่บรากันไม่ถูกต้องนัก กล่าวคือใส่บราที่ทำให้ตำแหน่งของหน้าอกอยู่คล้อยเกินกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้ช่วงตัวดูสั้น ทึบตัน และอวบเกินจริง หากอยากสวมใส่บราที่เหมาะกับสรีระและทำให้รูปร่างดูดีขึ้นด้วย ควรเลือกบราที่ทำให้หน้าอกของคุณอยู่ในระดับที่เหมาะสม มีความห่างระหว่างหน้าอกและเอวที่พอเหมาะ ยิ่งช่วงห่างระหว่างอกและเอวมีมากเท่าไหร่ก็จะทำให้คุณมีช่วงตัวที่ดูยาวและเพรียวขึ้นเท่านั้น แทนที่จะซื้อบราไซส์เดิม ๆ เหมือนกับที่คุณเคยซื้อเมื่อคราวที่แล้ว เลือกซื้อบราตัวใหม่โดยให้พนักงานประจำร้านหรือผู้เชี่ยวชาญวัดขนาดและสัดส่วนที่เหมาะสมกับสรีระของคุณดูค่ะ
3.เสื้อคอวี
ลองสังเกตูดูสิคะว่าสาวอวบทุกคน มักดูดีในเสื้อคอลึกอย่างเช่นคอวี คอเสื้อที่ลึกกว่าเสื้อผ้าทั่วไปทำให้คอดูยาวระหงขึ้น ช่วยให้รูปร่างดูสูงโปร่งขึ้นด้วย ทั้งนี้อย่าลืมดูแลและบำรุงผิวบริเวณช่วงคอและบ่า เพื่อจะได้สวมเสื้อคอวีได้อย่างมั่นใจด้วยนะคะ
4.ชุดชั้นในปรับสรีระ
ชุดชั้นในปรับสรีระเป็นตัวช่วยที่ดีอีกทางหนึ่งของสาว ๆ ค่ะ ใส่เอาไว้ด้านในเสื้อผ้า เก็บส่วนเกินของร่างกาย ทำให้รูปร่างของเราดูกระชับสมส่วน ลองหาซื้อไซส์ที่พอดีกับตัวของคุณ เลือกเนื้อผ้าที่กระชับแต่ระบายอากาศได้ดี อย่าซื้อแบบที่รัดแน่นหรือฟิตเกินไปนะคะ ลองนึกถึงภาพที่เนื้อส่วนเกินปลิ้นออกมาแล้วไม่น่าดูเอาเสียเลย จริงไหมคะ
5.จัดตู้เสื้อผ้าใหม่
หากอยากจะมีเสื้อผ้าที่ใส่แล้วช่วยให้หุ่นดูเพรียวสวย ถึงเวลาต้องโละเสื้อผ้าที่คุณมีในตู้เสื้อผ้า อย่างรองเท้าหุ้มข้อ หรือกางเกงผ้าพลิ้วแนบเนื้ออย่างผ้าซาติน เพราะจะทำให้คุณดูตัน แล้วก็อวบ และหากคุณมีต้นแขนที่อวบ ก็อย่าลืมโละเสื้อแขนกุดออกจากตู้เสื้อผ้าไปด้วย รวมถึงเสื้อยืดตัวใหญ่หลวมโพรกที่ใส่สบายเสียจนลืมดูแลรูปร่าง เพราะยิ่งเสื้อผ้าตัวใหญ่ก็ยิ่งทำให้เราละเลยกับการดูแลรูปร่างได้มากขึ้นเท่านั้นค่ะ
6.คาดเข็มขัด
หยิบเข็มขัดเส้นโปรดมาคาดเอว จะช่วยเน้นให้เห็นส่วนโค้งเว้นของร่างกายมากขึ้น ทำให้ดูผอมลงกว่าเดิม แล้วยังสวยมีสไตล์อีกด้วย
7.สวมเสื้อผ้าที่โชว์ผิว
เลือกเสื้อผ้าที่ให้คุณสามารถโชว์พื้นที่บนร่างกายคุณได้บ้าง เช่น เว้าที่หัวไหล่หรือโชว์แขน การเปิดเผยพื้นที่บนร่างกายบางส่วนจะทำให้ตัวคุณดูโปร่งมากขึ้น เสื้อผ้าที่ปกปิดมากเกินไป จะทำให้ดูทึบตัน และน่าอึดอัดค่ะ
8.อวดขาสวยด้วยโลชั่นปรับสภาพผิว
หากต้องการโชว์ขาสวย ๆ แต่ว่ายังกังวลกับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ และผิวที่แห้งลาย ลองตัวช่วยแบบปัจจุบันทันด่วนอย่างโลชั่นปรับสภาพผิว ที่จะช่วยให้คุณมีเรียวขาที่เรียบเนียน และสีผิวที่สม่ำเสมอ บางยี่ห้อผสมกลิตเตอร์เล็ก ๆ ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นได้ด้วย แถมเดี๋ยวนี้ก็มีแบบสเปรย์ซึ่งใช้งานง่ายกว่ามาให้เลือกซื้อแล้วด้วยค่ะ
9.โพสต์ท่าสวยให้ถ่ายรูปให้ขึ้นกล้อง
หากโอกาสไหนคุณต้องถ่ายรูปแบบเต็มตัว สิ่งที่ควรพึงระลึกเอาไว้ทุกครั้งคือ ทำตัวให้ดูสูงเพรียวเข้าไว้ เชิดหน้าเล็กน้อย เบนไหล่ข้างหนึ่งไปด้านหลัง 75 องศา ทิ้งน้ำหนักตัวที่ขาข้างหลัง จะช่วยทำให้รูปร่างดูเพรียวเและเป็นธรรมชาติ หากคุณกังวลเรื่องต้นแขนใหญ่ ลองยกมือขึ้นเท้าสะเอวงาม ๆ ท่านี้จะช่วยพรางให้ต้นแขนคุณดูเรียวขึ้นได้ค่ะ
10.แต่งหน้าให้ดูมีมิติ
การแต่งหน้าให้ดูมีมิติ หรือการไฮไลท์ เป็นการปรับรูปหน้าให้เป็นไปตามที่ต้องการได้ เพื่อให้หน้าดูอิ่มเป็นธรรมชาติ ลองใช้สีออกมุก หรือมีชิมเมอร์แบบละเอียด ไฮไลท์ส่วนที่ควรจะนูนออกมาจากหน้า อย่างแก้มและรอยพับเปลือกตาค่ะ
11.เลือกใส่ยีนส์ให้เหมาะ
เพื่อให้รูปร่างและบุคลิกภาพดูดี ลองสำรวจดูให้แน่ใจว่ายีนส์ตัวเก่งของคุณใส่แล้วเป้าไม่พองหรือย้อยจากตำแหน่งที่ควรจะเป็น ซึ่งนั่นแสดงว่าคุณใส่กางกางที่ไซส์ใหญ่เกินไป แต่หากบริเวณเป้าเป็นรอยจีบย่น นั่นก็แสดงว่ากางเกงคับไปแล้วค่ะ มองหากางเกงที่เนื้อผ้ายืดหยุ่นได้มากกว่าเดิม หรือเปลี่ยนไปใส่กางเกงที่ไซส์ใหญ่ขึ้น อย่าลังเลหรือรู้สึกผิดที่จะซื้อกางเกงตัวใหญ่ขึ้น เพราะสิ่งที่คุณต้องการคือบุคลิกภาพที่ดีและรูปร่างที่ดูสมส่วน เลือกยีนส์ที่ใส่สบายและดูดี ดีกว่ายึดติดกับไซส์เดิมที่ใส่แล้วฟิตนะคะ
12.หลีกเลี่ยงยีนส์เอวต่ำ
หลีกเลี่ยงการใส่กางเกงยีนส์ทรงเอวต่ำ แม้จะเป็นทรงที่กำลังฮิตอยู่ก็ตามที กางเกงเอวต่ำมักจะรัดบริเวณสะโพก จนบางครั้งทำให้ส่วนเกินรอบเอวปลิ้นออกมาไม่น่าดู เหมือนกันคัพเค้กที่บานฟูออกมานอกถ้วยเลยค่ะ เพราะฉะนั้นเลือกกางเกงที่เอวสูงขึ้นมาหน่อย แต่มั่นใจได้ว่าใส่แล้วดูดีกว่าเก่าแน่นอนค่ะ
13.พักผ่อนให้เพียงพอ
ในวันหนึ่ง ๆ นั้นเราควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้อย่างน้อย 7 ชั่วโมง มีผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยด้านเภสัชศาสต์แห่งชิคาโก้ว่า การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ นอกจากจะทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย และหงุดหงิดได้ง่ายแล้ว ยังเพิ่มความอยากอาหารด้วย ซึ่งนั่นหมายความว่าอาจทำให้คุณกินอาหารเข้าไปมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ แล้วสิ่งที่ตามมาก็คือปัญหาเรื่องรูปร่างและน้ำหนักเกินนั่นเอง
14.ยืนให้บุคลิกดี
การยืนหลังตรงนอกจากเป็นการปรับสรีระ และลดการทำงานหนักของกระดูกบริเวณหลังและคอแล้ว ยังทำให้รูปร่างของคุณเพรียวขึ้นด้วย เพื่อปรับบุคลิกให้กับท่ายืน ให้ยืนตัวตรงโดยให้ใบหู ไหล่ สะโพกและหัวเข่า อยู่ในระนาบเดียวกับตาตุ่ม และทิ้งน้ำหนักตัวลงที่เท้าทั้งสองข้าง เท่านี้คุณก็จะได้ท่ายืนที่ปรับสรีระและทำให้บุคลิกภาพดีด้วยค่ะ
15.เคี้ยวอาหารให้ละเอียด
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ทานอาหารค่อนข้างเร็ว คราวนี้คงต้องทานให้ช้าลงแล้วล่ะค่ะ ค่อย ๆ เคี้ยวอาหารในปากให้ละเอียด นอกจากทำให้กระเพาะอาหารไม่ต้องทำงานหนักเกินไปแล้ว ยังทำให้คุณอิ่มพอดี ๆ ด้วย การที่คุณรีบทานอาหารมากเกินไปทำให้บางครั้งบริโภคอาหารเกินพอดี แถมยังเกิดอาการจุกเสียดแน่นอีกด้วย
16.ดื่มน้ำเยอะ ๆ
น้ำนี่แหละค่ะ เครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่กำลังพยายามไดเอ็ตอยู่ ดีต่อสุขภาพแล้วก็ยังไม่มีเรื่องของแคลลอรี่ให้ต้องกังวลอีกด้วย หากใครติดนิสัยชอบทานน้ำหวาน น้ำอัดลมที่แม้จะเป็นแบบไดเอ็ต หรือน้ำผลไม้ซึ่งยังมีส่วนผสมของน้ำตาลอยู่ก็ตาม ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนมาเป็นการจิบน้ำเปล่าแทนดีกว่าค่ะ วิธีนี้จะช่วยให้คุณควบคุมน้ำหนักได้ง่ายขึ้นเยอะเลย
17.ทานผลไม้
สาว ๆ หลายคนมักกังวลที่ต้องบังคับตัวเองให้ทานน้ำให้ได้อย่างน้อย 8 แก้ว เหมือนกับที่ตำราเพื่อสุขภาพหลาย ๆ เล่มบอกมา แต่ความจริงนั้นปริมาณน้ำที่เหมาะสมต่อร่างกายคนเรานั้นต่างกันออกไป การดื่มน้ำเยอะเกินไปก็เท่ากับว่าคุณสูญเสียแร่ธาตุและสารอาหารบางส่วนไปกับปัสสาวะด้วย หากคุณมีปัญหาดื่มน้ำเยอะแล้วต้องเข้าห้องน้ำบ่อย ลองเปลี่ยนจากการดื่มน้ำ เป็นการทานผลไม้ที่มีส่วนประกอบของน้ำสูง อย่าง แตงโม แคนตาลูป กีวี่ ฯลฯ ดูก็ได้ค่ะ นอกจากร่างกายจะได้รับน้ำแล้ว ยังสดชื่นจากความหวานตามธรรมชาติของผลไม้อีกด้วย
18.ลดอาหารรสเค็ม
อาหารที่มีรสเค็มหรือมีธาตุโซเดียมสูง ทำให้คุณมีอาการบวมน้ำได้ เนื่องจากร่างกายต้องทำการกักเก็บน้ำเพื่อขับโซเดียมออกมา เพราะฉะนั้นลดการทานอาหารที่มีรสชาติเค็มจัดเถอะนะคะ
19.เลือกของทานเล่นที่มีประโยชน์
ถ้าคุณยังไม่สามารถเลิกนิสัยการหยิบของทานเล่นเข้าปากระหว่างช่วงมื้ออาหารได้ ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนนิสัยดูทีละน้อย โดยเริ่มต้นจากการเปลี่ยนขนมขบเคี้ยวพวกนั้นมาเป็นของที่มีประโยชน์อย่างพวกถั่วต่าง ๆ ผลไม้อบแห้ง ลูกพรุน หรือว่าจะลองหาซื้อซีเรียลชนิดแท่งมาติดกระเป๋าไว้ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวนี้มีให้เลือกหลายสูตร แถมยังรสชาติอร่อยอีกต่างหาก เตรียมของพวกนี้ไว้ใกล้มือ แบบที่อยากกินจุบจิบเมื่อไรก็คว้ามาใส่ปากได้ อิ่มท้องเล็ก ๆ แล้วยังมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วยค่ะ
20.เลือกทานมื้อเย็นให้เหมาะสม
หากวันไหนคุณเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องไปดินเนอร์แบบฝรั่ง ซึ่งมักเป็นอาหารที่มีแคลอรี่สูง ถ้าเป็นไปใด้ขอให้ทางร้านแยกซอสออกจากอาหาร หากอาหารจานนั้นเป็นแบบที่ต้องราดซอสลงไปท่วม พยายามหลีกเลี่ยงขนมปังสำหรับทานคู่กับอาหาร และเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีรสหวานค่ะ ที่สำคัญทานแต่พออิ่มนะคะ
21.งดมื้อค่ำ
กระบวนการเผาผลาญอาหารของร่างกายจะค่อย ๆ ชะลอการทำงานลงตามช่วงเวลาของวันด้วย ยิ่งเย็นการเผาผลาญอาหารยิ่งต่ำ เพราะฉะนั้นควรบริโภคอาหารที่มีแคลอรี่สูงในช่วงกลางวัน ลดปริมาณแคลอรี่และงดของหวานในช่วงมื้อเย็น รวมทั้งงดทานมื้อดึกด้วยค่ะ
22.เปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกาย
คุณสามารถใช้เวลาเพียง 45 นาที ในการปั่นจักยาน หรือวิ่งบนลู่ โดยค่อย ๆ เพิ่มระดับความเร็วขึ้นทุก ๆ 5 นาที ซึ่งให้ผลได้เท่ากับการที่คุณออกกำลังกายเบา ๆ ร่วมชั่วโมง เพียงแค่คุณเปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกายก็จะทำให้สามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้เร็วขึ้นกว่าเดิม หรือเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้นในเวลาที่เท่ากันได้ค่ะ
23.ออกกำลังกายแบบที่เหมาะกับตัวคุณ
อย่างไรก็ตามการออกกำลังกายก็ยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการดูแลรูปร่าง จริงอยู่ว่าคุณอาจไม่สามารถออกกำลังกายแบบที่ตำราดูแลรูปร่างแนะนำเอาไว้ แต่อย่างน้อยคุณก็สามารถเลือกรูปแบบการออกกำลังกายที่เหมาะกับตัวคุณเองได้ หากคุณตื่นเช้าอาจจะออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งรอบ ๆ บริเวณบ้าน หากเวลาไม่พออาจเปลี่ยนเป็นการทำโยคะหรือพิลาทีสในยามเย็นแทน หรือหาวิธีออกกำลังกายเบา ๆ ในช่วงวันอย่างการเดินขึ้นบันไดแทนขึ้นลิฟท์ก็ได้ค่ะ
24.ทานมื้อย่อยให้บ่อยขึ้น
สำหรับคนที่ทานอาหาร 3 มื้อหลักแล้วย่อยเร็ว หิวง่าย อันมีสาเหตุจากระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำระหว่างวัน ทำให้เกิดอาการโหย และอาจทำให้ทานอาหารมากเกินความต้องการของร่างกายในมื้อถัดไป เพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเช่นนี้ คุณสามารถเพิ่มมื้อย่อย ๆ ระหว่างวันได้ แทนที่จะกิน 3 มื้อใหญ่ คุณอาจเปลี่ยนเป็น 5 มื้อย่อยในหนึ่งวันแทน โดยอย่าลืมควบคุมปริมาณแคลอรี่โดยรวมของอาหารทุกมื้อในวันนั้นด้วยนะคะ การเปลี่ยนเป็นทานอาหารมื้อเล็กแต่บ่อยขึ้น จะช่วยควบคุมไม่ให้คุณหิวโหยจนกินไม่เลือกในมื้อหลักได้ค่ะ
25.บริหารต้นขา
ท่ากายบริหารที่ช่วยกระชับต้นขาและน่องได้ดี คือท่านอนตะแคงแล้วยกขาขึ้นลง และท่ายืนแยกปลายเท้าแบบนักบัลเลต์ ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อต้นขาและน่องเกร็ง ทำให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น กายบริหารท่านี้ให้ได้ 3 เซ็ท เซ็ทละ 10-15 ครั้ง โดยทำให้ได้ 3 วันต่อสัปดาห์ นอกจากขาของคุณจะเพรียวกระชับสวยแล้วยังช่วยกระชับสะโพกอีกด้วยค่ะ
ท่า downward dog
ท่า crescent moon
26.ออกกำลังกายเพื่อกระชับช่วงลำตัว
ท่าออกกำลังกายเพื่อกระชับช่วงลำตัวที่ทำได้ไม่ยาก คือการทำโยคะท่าหมาก้ม หรือท่าสุนัขแลลง (downward dog) ซึ่งจะช่วยขจัดความเมื่อยล้า ทำให้กระดูกสันหลังคลายตัว คลายกล้ามเนื้อน่อง เข่า อาการแข็งตึงที่ส้นเท้า และบรรเทาอาการตึงหัวไหล่ และอีกหนึ่งท่าคือท่าพระจันทร์เสี้ยว (crescent twist, crescent moon) ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับหลังและสะโพกค่ะ ทั้งผ่อนคลายและเสริมความแข็งแรงกระชับช่วงตัวให้แบบนี้แล้ว อย่าลืมนำไปฝึกฝนกันดูนะคะ
27.อย่าให้มือว่างหากไปปาร์ตี้
หากต้องไปปาร์ตี้ซึ่งมีอาหารมากมายให้คุณเลือกทานได้ตามสบาย พยายามหาสิ่งของเช่นแก้วน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำพั้นซ์ น้ำผลไม้หรือว่าไวน์ก็ตาม ถือติดมือเอาไว้ เพื่อที่มือจะได้ไม่ว่างจนไปหยิบอะไรทานจนมากเกินไปค่ะ
28.ทานเหลือไม่ต้องห่อกลับ
หากไปทานอาหารนอกบ้านแล้วเหลือ สาว ๆ มักจะเสียดายและสั่งพนักงานให้นำใส่ห่อเพื่อเอากลับบ้าน ซึ่งสาว ๆ บางคนก็อดใจไม่ได้ที่จะแกะมากินอีกครั้งเมื่อกลับถึงบ้าน แต่รู้ไหมคะว่า นี่เท่ากับเป็นการทานอาหารเกินความต้องการของร่างกาย เพื่อหลีกเลี่ยงกรณีที่คุณไม่สามารถห้ามใจตัวเองได้เช่นนี้ ก็ตัดปัญหาด้วยการกินให้จบไปที่ร้านเลยค่ะ แม้จะทานเหลือก็ตัดใจไม่ห่อกลับบ้านดีกว่านะคะ
29.ทานผักผลไม้สด
หลังจากเติมกระเพาะอาหารไปกับอาหารที่ผ่านการปรุงด้วยความร้อนไปเสียบ่อยแล้ว ลองหันมาทานผักผลไม้สดดูบ้างดีกว่าค่ะ นอกจากจะช่วยกระตุ้นการย่อยและการดูดซึมอาหารให้ดีขึ้นแล้ว ยังได้วิตามินและเกลือแร่มากกว่าผักผลไม้ที่ผ่านการปรุงมาแล้วอีกด้วย
30.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มฟองฟู่
เครื่องดื่มฟองฟู่ทั้งหลายเกิดจากการทำปฏิกิริยาของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่อัดเข้าไปทำปฏิกิริยากับน้ำ เมื่อทานเข้าไปทำให้เกิดลมในกระเพาะอาหารกลายเป็นอาการท้องอืดตามมา ซึ่งสาว ๆ บางคนก็จะรู้สึกว่าท้องบวมพองขึ้น พลอยให้ไม่มั่นใจในรูปร่างตามไปด้วย เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากเป็นกังวลกับเรื่องจุกจิกแบบนี้ก็หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีฟองฟู่ดีกว่าค่ะ
31.หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดก๊าซ
หากวันไหนสาว ๆ อยากจะมั่นใจว่ามีท้องที่เรียบสวย การเลือกทานอาหารก็มีส่วนช่วยได้เช่นกันค่ะ เช่นนั้นแล้ว คุณสาว ๆ ควรเลือกทานอาหารที่จะไม่ทำให้ท้องของคุณดูพองป่องขึ้นมา โดยหลีกเลี่ยงอาหารที่มีซอร์บิทอล ซึ่งเป็นสารให้รสหวานที่สกัดจากผลไม้ เช่น พีช แอปเปิ้ล พรุน ฯลฯ แล้วนำมาแต่งเติมรสชาติของอาหารโดยเฉพาะในลูกอมและหมากฝรั่ง เพราะร่างกายเราใช้เวลาค่อนข้างนานในการดูดซึมสารตัวนี้ นั่นหมายถึงจะเกิดก๊าซขึ้นระหว่างกระบวนการย่อยนี้มากตามไปด้วย
หากต้องการความหวานให้เลือกความหวานที่ได้จากน้ำตาลแทนจะดีกว่าค่ะ รวมถึงเลี่ยงอาหารที่มีแป้งมาก อย่างมันฝรั่ง ข้าว ข้าวโพด ขนมปัง ซึ่งแป้งเหล่านี้จะทำให้เกิดก๊าซมากระหว่างกระบวนการย่อยที่ลำไส้เล็ก เพราะฉะนั้น ถ้าหากอยากมีหน้าท้องที่แบนราบอย่างมั่นใจ ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารทั้งสองตัวนี้นะคะ
32.งดกาแฟ
เปลี่ยนจากการดื่มกาแฟเป็นจิบชาเขียวร้อน ๆ แทนดีกว่าค่ะ สารในชาเขียวจะช่วยลดระดับฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการเปลี่ยนแป้งไปเป็นไขมันสะสมในร่างกาย อันส่งผลโดยตรงต่อน้ำหนักตัว เมื่อฮอร์โมนอินซูลินลดลง การเปลี่ยนแป้งไปเป็นไขมันสะสมก็น้อยลงด้วย ขณะเดียวกันชาเขียวก็ยังให้สารคาเฟอีนที่จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าได้เช่นเดียวกับกาแฟถ้วยโปรดของคุณด้วยค่ะ
33.เพิ่มโปรตีนให้กับมื้อเช้า
อาหารที่มีโปรตีนสูงได้รับการวิจัยแล้วว่า ช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนัก เพราะโปรตีนจะเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้ร่างกาย โดยไม่สร้างชั้นไขมันเพิ่มเติม เพราะฉะนั้นอย่าลืมเติมโปรตีนเข้าไปในอาหารมื้อเช้าที่สำคัญของคุณด้วยนะคะ โปรตีนสำหรับมื้อเช้าที่ทานได้ง่าย ๆ ได้แก่ผลิตภัณฑ์จากนม อย่างเช่นโยเกิร์ต ลองโยเกิร์ตแบบไขมัน 0% แล้วโรยด้วยถั่วและผลไม้ต่าง ๆ นอกจากอิ่มท้องแล้วยังได้ประโยชน์แน่นอนค่ะ
โอ้โห เห็นไหมคะ วีธีที่จะช่วยให้คุณสาว ๆ มีรูปร่างเพรียวสมส่วม ทั้งการเลือกเสื้อผ้าช่วยพรางหุ่น และการเลือกทานอาหารซึ่งจะเป็นการดูแลรูปร่างคุณในระยะยาว มีอยู่มากมายเลยทีเดียว ถ้าทำตามได้หมดทุกข้อ รับรองว่าสาว ๆ จะมีรูปร่างที่เพรียวสวยสมส่วนขึ้นได้แน่นอนค่ะ ลองนำไปใช้กันดูนะคะเราเป็นเอาใจช่วยให้สาว ๆ ทุกคนสวยมั่นใจได้อย่างที่ต้องการค่ะ
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย