ประเทศไทยมีคนใช้มอเตอร์ไซค์มากที่สุดในโลก และมีคนเสียชีวิตจากการขับขี่มากที่สุดในโลกเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม มีคนจำนวนหนึ่งที่รอดตายมาได้ และในวันนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ชวนพวกเขามาแชร์ประสบการณ์เฉียดตาย เพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับนักขี่ และช่วยกันหาทางป้องกัน
อย่างไรก็ตาม มีคนจำนวนหนึ่งที่รอดตายมาได้ และในวันนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ชวนพวกเขามาแชร์ประสบการณ์เฉียดตาย เพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับนักขี่ และช่วยกันหาทางป้องกัน
เรื่องที่ 1 ... คิดว่าไม่รอด
• การสวมหมวกกันน็อกช่วยลดโอกาสการเสียชีวิตจากการบาดเจ็บที่ศีรษะ 43% สำหรับคนขี่ 58% สำหรับคนซ้อนท้าย
เรื่องแรก เป็นคำบอกเล่ามาจากหน่วยกู้ภัยที่ไปถึงที่เกิดเหตุ แล้วพบร่างชาย 2 คนติดอยู่ใต้รถสิบแปดล้อ ตอนนั้นทุกคนคิดเหมือนกันว่า ไม่น่ามีใครรอด...
โชคไม่ได้ช่วย
แต่ไป ๆ มา ๆ ชายทั้งสองรอดมาได้ชนิดที่หลายคนคงใช้คำว่า โชคช่วย แต่เมื่อได้ฟังจากปากพวกเขาจะรู้ว่า แท้จริงแล้วอะไรช่วยไว้ !
โชคไม่ได้ช่วย
แต่ไป ๆ มา ๆ ชายทั้งสองรอดมาได้ชนิดที่หลายคนคงใช้คำว่า โชคช่วย แต่เมื่อได้ฟังจากปากพวกเขาจะรู้ว่า แท้จริงแล้วอะไรช่วยไว้ !
นายอ่องป้า ลุงส่วย คนขี่มอเตอร์ไซค์ เล่าให้ฟังว่า วันนั้นออกไปทำงานตามปกติ จู่ ๆ มีรถสิบแปดล้อวิ่งย้อนศรเข้ามาหา เขาพยายามเบรกและเบี่ยงหลบ แต่ไม่ทัน รถชนเข้าอย่างจัง ตัวเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถสิบแปดล้อ ได้รับบาดเจ็บหนัก ต้องผ่าตัดที่ท้องและขา
ขณะที่นายณัฐภูมิ เงาคำ เพื่อนที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วยกัน บอกว่า วินาทีนั้นคิดว่าตายแน่นอน แต่สุดท้ายทั้งคู่กลับรักษาชีวิตไว้ได้ เมื่อถามพวกเขาว่า คิดว่าอะไรช่วยไว้ เป็นโชคช่วยหรือเปล่า
พวกเขายืนยันว่า ไม่ใช่เพราะโชค แต่เพราะวันนั้นทั้งคู่สวมหมวกกันน็อก ! ทำให้ศีรษะของทั้งคู่ไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง เพราะดูจากสภาพหมวกกันน็อกหลังเกิดเหตุ ทำให้มั่นใจว่า ถ้าเป็นศีรษะเพียว ๆ เรื่องคงไม่จบแบบนี้เป็นแน่แท้
ขณะที่นายณัฐภูมิ เงาคำ เพื่อนที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วยกัน บอกว่า วินาทีนั้นคิดว่าตายแน่นอน แต่สุดท้ายทั้งคู่กลับรักษาชีวิตไว้ได้ เมื่อถามพวกเขาว่า คิดว่าอะไรช่วยไว้ เป็นโชคช่วยหรือเปล่า
พวกเขายืนยันว่า ไม่ใช่เพราะโชค แต่เพราะวันนั้นทั้งคู่สวมหมวกกันน็อก ! ทำให้ศีรษะของทั้งคู่ไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง เพราะดูจากสภาพหมวกกันน็อกหลังเกิดเหตุ ทำให้มั่นใจว่า ถ้าเป็นศีรษะเพียว ๆ เรื่องคงไม่จบแบบนี้เป็นแน่แท้
• ผลการสำรวจพบว่า อุบัติเหตุจากการขับขี่มักเกิดในระยะ 5 กิโลเมตร จากบ้าน
อีกเรื่องเป็นเหตุการณ์ที่เชื่อว่าหลายคนเคยทำ นั่นก็คือ การขี่มอเตอร์ไซค์ไปไกล้ ๆ ก็เลยคิดว่าไม่ต้องสวมหมวกกันน็อกก็ได้
เนติพงษ์ เสงี่ยมพงษ์ ก็คิดแบบนั้น วันหนึ่งเขาขี่มอเตอร์ไซค์ไปหาเพื่อนที่ปากซอย คิดว่าไม่ไกลเลยไม่ได้สวมหมวก แต่อีกนิดเดียวจะถึงที่หมายอยู่แล้ว ชะตาชีวิตก็พลิกผัน รถของเขาประสบอุบัติเหตุชนเข้ากับมอเตอร์ไซค์อีกคันอย่างแรง
รู้สึกตัวอีกทีคืออยู่บนเตียงของโรงพยาบาล เนื้อตัวเต็มไปด้วยแผล แขนร้าว มีแผลร้ายแรงบริเวณใต้ตา และสมองกระทบกระเทือนจนมีเลือดออก เขาต้องอยู่ในการดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์นานเป็นเดือนกว่าจะผ่านระยะวิกฤตมาได้
เนติพงษ์ เสงี่ยมพงษ์ ก็คิดแบบนั้น วันหนึ่งเขาขี่มอเตอร์ไซค์ไปหาเพื่อนที่ปากซอย คิดว่าไม่ไกลเลยไม่ได้สวมหมวก แต่อีกนิดเดียวจะถึงที่หมายอยู่แล้ว ชะตาชีวิตก็พลิกผัน รถของเขาประสบอุบัติเหตุชนเข้ากับมอเตอร์ไซค์อีกคันอย่างแรง
รู้สึกตัวอีกทีคืออยู่บนเตียงของโรงพยาบาล เนื้อตัวเต็มไปด้วยแผล แขนร้าว มีแผลร้ายแรงบริเวณใต้ตา และสมองกระทบกระเทือนจนมีเลือดออก เขาต้องอยู่ในการดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์นานเป็นเดือนกว่าจะผ่านระยะวิกฤตมาได้
เข็ดแล้ว
ต่อมาภายหลังเขาได้ดูคลิปวินาทีชีวิตของตัวเองที่หน่วยกู้ภัยถ่ายไว้ และได้บอกความรู้สึกไว้ว่า
“ดูแล้วกลัวมาก ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะตกอยู่ในสภาพแบบนั้น รอดมาได้ครั้งนี้สอนให้รู้ว่า จะไปไหน ใกล้หรือไกล ไม่ชะล่าใจแล้ว ต้องสวมหมวกกันน็อกตลอด”
ต่อมาภายหลังเขาได้ดูคลิปวินาทีชีวิตของตัวเองที่หน่วยกู้ภัยถ่ายไว้ และได้บอกความรู้สึกไว้ว่า
“ดูแล้วกลัวมาก ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะตกอยู่ในสภาพแบบนั้น รอดมาได้ครั้งนี้สอนให้รู้ว่า จะไปไหน ใกล้หรือไกล ไม่ชะล่าใจแล้ว ต้องสวมหมวกกันน็อกตลอด”
ชาย 3 คนนี้เป็นกรณีตัวอย่างที่ยังถือว่าจบลงด้วยดี แต่ในความเป็นจริงมีคนอีกมากมายที่ไม่มีโอกาสผ่านเหตุการณ์และนำสิ่งที่เกิดขึ้นมาเป็นบทเรียนให้กับตัวเองได้ ส่วนคนที่ยังไม่เคยเจอกับตัวก็ไม่อยากให้ประมาท เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ลองเอาเรื่องราวเหล่านี้มาคอยเตือนใจให้สวมหมวกกันน็อกทุกครั้งที่ขับขี่ ไม่ขับขี่เร็วเกิน ปฏิบัติตามกฎจราจรกันเถอะนะ
คลิปประสบการณ์ เขาคิดว่าไม่น่ารอด
คลิปประสบการณ์ เขาคิดว่าไม่น่ารอด
คลิปประสบการณ์ ก็แค่ปากซอย
กดติดตามข้อมูลข่าวสาร แคมเปญที่น่าสนใจ และกิจกรรมดี ๆ จาก สสส. เพิ่มเติมได้ที่ :
Website : Social Marketing การตลาดเพื่อสังคม
Facebook : Social Marketing Thaihealth by สสส.
Line : @thaihealththailand
Tiktok : @thaihealth
Youtube : SocialMarketingTH