ขับรถไม่สวมหมวก ระวังอุบัติเหตุ สมองถูกเหวี่ยง เหมือนถูกชนหลายครั้ง

สมอง


          “เบรกหัวคะมำ” ถ้าใครขับขี่รถจักรยานยนต์คงเจอเรื่องนี้กันมาแล้วทั้งนั้น แต่เคยสงสัยไหมว่า ทำไมต้องเป็น “หัว” คะมำ แล้วรู้ไหมว่า ถ้าหัวคะมำแรง ๆ นี่อันตรายถึงสมองเลยทีเดียว วันนี้มีคำตอบมาให้ 

ทำไมเวลาชน หัวมักพุ่งไปก่อน 

          เนื่องจากตำแหน่งของหัวอยู่สูงสุดของร่างกาย แถมยังมีน้ำหนักมากเพราะมีสมองอยู่ภายใน และสมองก็เป็นอวัยวะที่มีน้ำหนักมาก รองจากผิวหนังกับตับ เวลาเบรกกะทันหัน หรือเกิดอุบัติเหตุ น้ำหนักของหัวและความเร็วตอนขับจะทำให้หัวถูกเหวี่ยงไปข้างหน้านำอวัยวะส่วนอื่น และอาจกระแทกเข้ากับสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าจนบาดเจ็บ

          อย่างไรก็ตามอันตรายที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเพียงแค่นี้ 

รถชน

อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ขี่ชนครั้งเดียว แต่สมองเหมือนถูกชนเป็นสิบ

          หลังเกิดอุบัติเหตุ หากพบว่าตัวเองไม่ได้มีบาดแผล ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร อย่าเพิ่งประมาทว่าจะไม่เป็นอะไร เพราะอาจมีอาการบาดเจ็บภายในที่ยังไม่แสดงออกมา โดยเฉพาะผลกระทบที่หัว แรงชนจะทำให้เนื้อสมองที่ลอยอยู่ในน้ำหล่อสมองไขสันหลัง ถูกเหวี่ยงกระแทกผนังกะโหลกไปมา จนเหมือนสมองถูกชนหลายครั้ง 

กันน็อก ก่อนขี่

ดูคลิปเพิ่มเติม คลิก

          ผลกระทบจากเหตุนี้อาจทำให้ผู้บาดเจ็บจำเหตุการณ์ก่อนหน้าไม่ได้ หรือในกรณีรุนแรง อาจถึงขั้นสูญเสียความทรงจำระยะยาว 

การป้องกันที่ดีที่สุด 

          เนื่องจากการบาดเจ็บที่ศีรษะคือสาเหตุหลักของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงรู้สึกเป็นห่วงคนไทยจำนวนมากที่ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะประจำวัน เลยอยากชวนให้ผู้ขับขี่สวมหมวกกันน็อกทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นการเดินทางระยะใกล้หรือไกล เพราะหมวกสามารถลดความรุนแรงจากการบาดเจ็บได้ และไม่ขับขี่ด้วยความเร็วมากจนเกินไป เพราะทุกระดับความเร็วที่มากขึ้น มาพร้อมกับความรุนแรงเมื่อเกิดการชน 


กดติดตามข้อมูลข่าวสาร แคมเปญที่น่าสนใจ และกิจกรรมดี ๆ จาก สสส. เพิ่มเติมได้ที่ : 


ขับรถไม่สวมหมวก ระวังอุบัติเหตุ สมองถูกเหวี่ยง เหมือนถูกชนหลายครั้ง โพสต์เมื่อ 17 พฤศจิกายน 2566 เวลา 13:26:56 6,901 อ่าน
TOP