เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
สธ.เตือนวัยรุ่นไทยแห่ใช้ยาไอซ์ลดความอ้วน ชี้ทำให้ไม่อยากอาหารจริงแต่ช่วงสั้น ๆ แถมยังอันตรายถึงชีวิต เผยฮิตในหมู่ลูกเศรษฐี
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน กรมการแพทย์กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาเตือนภัยวัยรุ่นไทยถึงการนำยาไอซ์มาใช้ลดความอ้วนเหตุเชื่อว่าเสพแล้วทำให้ผอม ผิวสวย หุ่นดีหลังพบการระบาดหนักในกลุ่มวัยรุ่นหลายจังหวัดทั่วประเทศโดยมีสถิติเพิ่มสูงขึ้นกว่า 3 เท่าตัว ในรอบ 2 ปี
นายแพทย์เรวัติ วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ได้กล่าวเตือนวัยรุ่นทั่วประเทศที่อายุระหว่าง 13-24 ปีอย่าหลงเชื่อในทางที่ผิด กรณีการเสพยาไอซ์แล้วทำให้ไม่อยากอาหารสามารถลดความอ้วนได้ผลดีกว่าทุกด้าน ทำให้ร่างกายผอม และผิวพรรณดีนั้นไม่เป็นความจริง
พร้อมทั้งระบุว่ายาไอซ์เป็นสารเสพติดที่มีฤทธิ์ต่อการกระตุ้นประสาทส่วนหน้า ควบคุมความอยากอาหารไม่ให้เกิดอาการหิว แต่เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะฤทธิ์ยาจะอยู่ได้เพียง 4-6 ชั่วโมง เมื่อฤทธิ์ยาหมดร่างกายก็จะกลับมาอยากอาหารเหมือนเดิมส่งผลให้ผู้เสพต้องเสพต่อเนื่องจนเกิดผลกระทบต่อร่างกายอย่างรุนแรงนอกจากจะทำให้เกิดอาการทางประสาทและอาการทางจิตตามมาแล้วยาไอซ์ยังทำลายระบบทางเดินหายใจ ทำให้หัวใจวายเฉียบพลัน และเสียชีวิตในที่สุดที่สำคัญยาไอซ์ ยังส่งผลให้ผู้ที่เสพมีผิวแห้ง หยาบกร้านด้วย
นอกจากนี้ ทางด้านสถาบันธัญญารักษ์ได้เปิดเผยสถิติอันน่าตกใจ ในรอบ 2 ปี ตั้งแต่ปลายปี 2552-2554 มีผู้เสพยาเสพติดประเภทยาไอซ์สูงถึง 3 เท่าตัว โดยพบทั้งเพศชาย-เพศหญิง อายุน้อยที่สุดอยู่ที่11 ปี โดยมีอาการประสาทหลอนและต้องเข้ารับการบำบัดไม่ต่ำกว่า 6 เดือน และที่สำคัญการระบาดของยานี้อยู่ในกลุ่มลูกเศรษฐี และนักธุรกิจมากที่สุดโดยพบมากในหลายจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายแพทย์เรวัติได้สั่งย้ำสถานบำบัดผู้ติดยาเสพติด 14แห่งทั่วประเทศเร่งให้ความรู้ในเรื่องยาเสพติดอย่างจริงจัง พร้อมกับการบำบัดรักษาก่อนจะจัดอบรมเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก เพื่อให้พ่อแม่-ผู้ปกครองรู้เท่าทันโทษของยาเสพติด โดยหวังว่าจะไม่พบนักเสพหน้าใหม่ส่วนนักเสพที่เคยเสพอยู่แล้ว ก็จะไม่กลับมาเสพซ้ำอีก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
