x close

แมกนีเซียม ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 ช่วยให้ผ่อนคลาย ดีต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ

           แมกนีเซียม ยี่ห้อไหนดี สำหรับคนที่อยากเสริมแร่ธาตุให้ร่างกาย มาดูกันว่าแมกนีเซียมมีประโยชน์ดีอย่างไร กินตอนไหน ถ้าขาดแมกนีเซียมจะเป็นอย่างไร
แมกนีเซียม

           แมกนีเซียม เป็นแร่ธาตุสำคัญในร่างกายไม่ยิ่งหย่อนกว่าแร่ธาตุตัวอื่นเลย แต่ทว่าก็มีกลุ่มคนที่ขาดแร่ธาตุตัวนี้ จึงอยากเสริมด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแมกนีเซียม ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งรูปแบบเม็ด แคปซูล เม็ดฟู่ และเม็ดเคี้ยว ใครอยากเสริมแมกนีเซียมที่ดีต่อสุขภาพ ลองมาดูว่าควรเลือกซื้ออย่างไร และต้องระวังเรื่องไหนบ้างก่อนรับประทาน

แมกนีเซียม
พบในอาหารชนิดไหนบ้าง

อาหารที่มีแมกนีเซียม

           ปกติร่างกายได้รับแมกนีเซียมจากอาหารที่เรารับประทานประจำวันอยู่แล้ว โดยอาหารที่มีแมกนีเซียมสูง ได้แก่ เนื้อสัตว์, เมล็ดพืช เช่น เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง เป็นต้น, ถั่วเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์ ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นต้น, ผักใบเขียว, ปลาทูน่า, เต้าหู้ขาว, นมและผลิตภัณฑ์จากนม, ดาร์กช็อกโกแลต, ผลไม้ต่าง ๆ เช่น อะโวคาโด กล้วย เป็นต้น

แมกนีเซียม ประโยชน์มีอะไรบ้าง

  • ช่วยให้การทำงานของเซลล์ภายในร่างกายปกติ 

  • ช่วยให้ระบบประสาทและกล้ามเนื้อทำงานมีประสิทธิภาพ 

  • ช่วยนำแคลเซียมไปสู่เนื้อเยื่อต่าง ๆ และเสริมความแข็งแรงของกระดูกและฟัน

  • ช่วยในการเผาผลาญไขมันและเปลี่ยนเป็นพลังงาน

  • ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม 

  • เสริมประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย เพราะช่วยเรื่องการหดตัวและคลายตัวของกล้ามเนื้อและหลอดเลือด ช่วยลดโอกาสในการเกิดตะคริว

  • ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการไมเกรน

  • ช่วยกระตุ้นการทำงานของวิตามินบี ซี และอี 

  • ลดการเกร็งตัวของผนังหลอดเลือด ขยายหลอดเลือด ช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานตามปกติ

  • ช่วยลดอาการซึมเศร้าด้วยการลดเคมีในระบบประสาท

  • ช่วยลดการอักเสบ

  • ช่วยลดอาการผิดปกติก่อนมีประจำเดือน

  • ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และมีส่วนช่วยควบคุมฮอร์โมนเมลาโทนินที่ช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น

  • ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน

ปริมาณแมกนีเซียม
ที่ควรได้รับต่อวัน

           องค์กรโภชนาการของสหรัฐอเมริกา (US RDA) แนะนำว่าผู้ใหญ่เพศชายควรได้รับแมกนีเซียมวันละ 400-420 มิลลิกรัม ผู้ใหญ่เพศหญิงควรได้รับแมกนีเซียมวันละ 300-320 มิลลิกรัม แต่หากตั้งครรภ์ควรได้รับแมกนีเซียมเพิ่มเป็นวันละ 360-400 มิลลิกรัม

จะเป็นอย่างไรหากขาดแมกนีเซียม

แมกนีเซียม ประโยชน์

          ถ้าร่างกายขาดแมกนีเซียมจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ไม่ค่อยอยากกินอาหาร นำมาซึ่งอาการอ่อนล้า เฉื่อยชา นอกจากนี้ยังส่งผลต่อระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น

  • มีผลต่อระบบประสาท ทำให้มีอาการชา

  • การทำงานของกล้ามเนื้อผิดปกติ อาจทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็ง ค้าง ชักกระตุก และเป็นตะคริวบ่อย ปวดกล้ามเนื้อตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

  • ปวดหัวไมเกรน และสำหรับคนที่เป็นอยู่แล้วจะยิ่งมีความรุนแรงและมีความถี่ในการเป็นมากขึ้น

  • ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ อาจเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน

  • จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

  • เพิ่มความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองและความดันโลหิตสูง

  • เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน

  • เพิ่มความเสี่ยงภาวะซึมเศร้า

          เมื่อทราบแล้วว่าแมกนีเซียมมีความสำคัญกับร่างกายถึงเพียงนี้ ในกลุ่มคนที่มักขาดแมกนีเซียมจึงควรรับประทานแมกนีเซียมให้ได้ปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน โดยนอกจากการรับประทานอาหารทั่วไปแล้ว อาจเลือกรับประทานในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก็ได้เช่นกัน

อาหารเสริมแมกนีเซียมเหมาะกับใคร

          ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแมกนีเซียมเหมาะสำหรับกลุ่มคนต่อไปนี้

  • ผู้ที่ใช้สมองเยอะ มีความเครียด พักผ่อนน้อย นอนไม่หลับ

  • นักกีฬา ผู้ที่ชอบออกกำลังกาย

  • ผู้ที่บริโภคอาหารที่มีแมกนีเซียมน้อย เช่น ไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่กินผัก-ผลไม้ หรืออดอาหารเป็นเวลานาน

  • ผู้สูงอายุที่มักขาดสารอาหาร

  • ผู้ที่ชอบดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และน้ำอัดลมเป็นประจำ

  • ผู้ที่เป็นตะคริวหรือชาตามปลายประสาทบ่อย ๆ

  • ผู้ที่มีอาการปวดหัวไมเกรน

แมกนีเซียม ยี่ห้อไหนดี

1. แมกนีเซียม Amsel Magnesium Plus

แมกนีเซียม Amsel Magnesium Plus

ภาพจาก : amselnutraceutical.com

          แมกนีเซียม จากแบรนด์แอมเซล เป็นอาหารเสริมที่นอกจากมีแมกนีเซียมออกไซด์แล้ว ยังเพิ่มแมกนีเซียม อะมิโน แอซิด คีเลต ที่ช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมแมกนีเซียมได้ดีขึ้นและไม่เหลือตกค้าง พร้อมด้วยวิตามินซี และวิตามินบี พรีมิกซ์ ที่มีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ต้านการอักเสบ และลดการเกิดตะคริว 

  • วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง พร้อมมื้ออาหาร

  • ขนาดบรรจุ : 30 แคปซูล

  • ราคาปกติ : 280 บาท

คำเตือน

  • ควรกินอาหารหลากหลายให้ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยาหรือแพ้ส่วนประกอบของยาวิตามินบีรวม

  • ควรเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น ห่างจากแสงแดด

2. แมกนีเซียม Blackmores Bio Magnesium Advance + D3

Blackmores Bio Magnesium Aavance + D3

ภาพจาก : blackmores.co.th

          แบลคมอร์ส ไบโอ แมกนีเซียม แอดวานซ์ + ดี3 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ประกอบไปด้วยแมกนีเซียมออกไซด์ ที่มีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ มาพร้อมวิตามินดี 3 ที่มีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส และยังมีวิตามินซี วิตามินบี 6 รวมถึงแร่ธาตุแมงกานีสอีกด้วย

  • วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1 เม็ด ทุกวัน

  • ขนาดบรรจุ : 50 เม็ด

  • ราคาปกติ : 455 บาท

คำเตือน

  • อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค 

  • ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค 

  • เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน 

  • ควรกินอาหารหลากหลายให้ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ

3. แมกนีเซียม Magnesium Plus Vitamin

แมกนีเซียม พลัส วิตามิน

ภาพจาก : thpherbal.com

          แมกนีเซียม พลัส วิตามิน มาในรูปแบบแคปซูลนิ่ม ผสมผสานแมกนีเซียมออกไซด์ และแมกนีเซียม แลคเตท แอนไฮดรัส (Magnesium Lactate Anhydrous) ซึ่งมีส่วนช่วยในการสร้างกระดูกและฟัน ทำให้เซลล์ของร่างกายทำงานปกติ อีกทั้งมีการเพิ่มแร่ธาตุอย่างซิงก์ ทองแดง แมงกานีส และวิตามินต่าง ๆ ทั้งวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 และวิตามินบี 12 

  • วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล พร้อมมื้ออาหารทุกวัน

  • ขนาดบรรจุ : 30 แคปซูล

  • ราคาปกติ : 220 บาท

คำเตือน

  • อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค 

  • เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน 

  • ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค 

  • ควรกินอาหารหลากหลายให้ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ

4. แมกนีเซียม Swiss Energy Magnesium

Swiss Energy Magnesium

ภาพจาก : swissenergythailand.com

          สวิสเอ็นเนอร์จี้ Dr.Frei หลอดนี้มีส่วนผสมของแมกนีเซียมซัลเฟตที่ดูดซึมได้ดี ไม่ตกค้าง มาในรูปแบบเม็ดฟู่ รสส้ม ปราศจากน้ำตาล ให้พลังงานเพียง 6 กิโลแคลอรีต่อเม็ด เหมาะสำหรับผู้ที่นอนหลับยากหรือมีภาวะเครียดสะสม โดยใน 1 เม็ด มีส่วนผสมของแมกนีเซียม 150 มิลลิกรัม พร้อมวิตามีนบี 6 วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และวิตามินบี 12 ที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของแมกนีเซียม

  • วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1 เม็ด ละลายในน้ำเปล่า 200 มิลลิลิตร รับประทานก่อนนอน

  • ขนาดบรรจุ : 20 เม็ด

  • ราคาปกติ : 390 บาท

คำเตือน

  • อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค 

  • ควรกินอาหารหลากหลายให้ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ

5. แมกนีเซียม Interpharma Magnesium plus B Complex

Interpharma Magnesium plus B Complex

ภาพจาก : interpharma.co.th

          อินเตอร์ฟาร์มา แมกนีเซียม พลัส บี คอมเพล็กซ์ นำเข้าจากประเทศเยอรมนี ตัวยาเป็นรูปแบบเม็ดฟู่ รสเลมอน ไม่มีน้ำตาล มีส่วนผสมของแมกนีเซียมถึง 350 มิลลิกรัมต่อเม็ด และวิตามินบีรวมอีก 8 ชนิด ได้แก่ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินบี 7 หรือไบโอติน วิตามินบี 9 และวิตามินบี 12 โดยส่วนประกอบทุกตัวเป็น 100% Thai RDI สำหรับคนไทย หรือให้ปริมาณ 100% ตามที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน

  • วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1 เม็ด ละลายในน้ำเปล่า 200 มิลลิลิตร พร้อมมื้ออาหารหรือหลังอาหาร  

  • ขนาดบรรจุ : 20 เม็ด

  • ราคาปกติ : 390 บาท

คำเตือน

  • เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน

  • ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค

6. แมกนีเซียม GNC Magnesium

GNC Magnesium

ภาพจาก : gnc.co.th

          จี เอ็น ซี ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแมกนีเซียม นำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกา ใน 1 เม็ด ประกอบด้วยแมกนีเซียม 250 มิลลิกรัม โดยมีส่วนผสมของแมกนีเซียมออกไซด์ และแมกนีเซียมกลูโคเนต เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมความแข็งแรงของกระดูก กล้ามเนื้อ และระบบประสาทโดยเฉพาะ

  • วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1 เม็ด 

  • ขนาดบรรจุ : 90 เม็ด

  • ราคาปกติ : 550 บาท

คำเตือน

  • เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน

  • ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค

7. แมกนีเซียม SWISSE Magnesium

SWISSE Magnesium

ภาพจาก : swisse.co.th

          สวิสเซ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตจากประเทศออสเตรเลีย ประกอบด้วยแมกนีเซียมซิเตรตเพียงชนิดเดียว 150 มิลลิกรัม ที่มีส่วนช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูกและฟัน และยังช่วยคงสภาพปกติของการทำงานระบบประสาทและกล้ามเนื้อ

  • วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1 เม็ด และดื่มน้ำตามมาก ๆ 

  • ขนาดบรรจุ : 60 เม็ด

  • ราคาปกติ : 600 บาท

คำเตือน

  • เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน

วิธีเลือกซื้ออาหารเสริมแมกนีเซียม

แมกนีเซียม อาหารเสริม

  • เลือกตามรูปแบบของอาหารเสริมแมกนีเซียม ซึ่งมีทั้งแบบเม็ด แคปซูล เม็ดฟู่ แบบผงชง เม็ดเคี้ยว ให้เลือกตามความสะดวกในการรับประทาน

  • เช็กปริมาณแมกนีเซียมในแต่ละแบรนด์ว่ามีปริมาณเท่าไร น้อยหรือมากเกินความต้องการหรือไม่ โดยทั่วไปปริมาณที่แนะนำรับประทานคือ 300-500 มิลลิกรัมต่อวัน หรือใช้ในปริมาณตามที่แพทย์สั่ง

  • ตรวจสอบชนิดของแมกนีเซียมที่เป็นส่วนผสม โดยมีอยู่หลายชนิด เช่น

    • แมกนีเซียมซิเตรต และแมกนีเซียมคีเลต ดูดซึมได้ดีที่สุด สามารถรับประทานได้ตอนท้องว่าง เหมาะกับผู้ที่ขาดแมกนีเซียมมาก ๆ เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่อดอาหารเป็นเวลานาน

    • แมกนีเซียมซัลเฟต, แมกนีเซียมแอล-ทรีโอเนต สามารถดูดซึมได้ดีรองลงมา โดยแมกนีเซียมแอล-ทรีโอเนต เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาปวดไมเกรน

    • แมกนีเซียมออกไซด์ดูดซึมได้น้อย และอาจมีอาการข้างเคียงในระบบทางเดินอาหาร จึงควรรับประทานพร้อมอาหาร แต่จะมีราคาถูกกว่าแมกนีเซียมชนิดอื่น

  • เลือกจากวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ ที่เป็นส่วนผสมเพิ่มเติม โดยบางยี่ห้ออาจเป็นแมกนีเซียมแบบเพียว ๆ แต่บางยี่ห้อมีส่วนผสมของสารอาหารอื่น ๆ เพิ่มมาด้วย เช่น

    • วิตามินบีรวม ที่มีส่วนช่วยส่งเสริมการทำงานของแมกนีเซียม และบรรเทาอาการปวดไมเกรน

    • แคลเซียม วิตามินดี วิตามินเค มีส่วนช่วยเรื่องกระดูกและฟัน

    • สังกะสี มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบสมองและประสาท

  • ตรวจสอบส่วนผสมของอาหารเสริมแมกนีเซียม เพื่อหลีกเลี่ยงส่วนประกอบที่ตัวเองมีอาการแพ้

  • ตรวจสอบรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ ทั้งวันผลิต วันหมดอายุ ผู้ผลิต คำแนะนำในการใช้ รวมทั้งเครื่องหมาย อย.

  • หากใช้ยา สมุนไพร หรือรับประทานอาหารเสริมอยู่ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสริมแมกนีเซียม

แมกนีเซียม กินตอนไหนดี

แมกนีเซียม กินตอนไหน

          แมกนีเซียมสามารถรับประทานเวลาใดก็ได้ แต่โดยส่วนใหญ่แนะนำให้กินหลังอาหารเย็นหรือก่อนนอน เนื่องจากแมกนีเซียมมีส่วนช่วยบำรุงประสาท จัดการความเครียด และทำให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย ทั้งยังทำให้นอนหลับสนิทขึ้น

ข้อควรระวังในการรับประทาน

  • บุคคลทั่วไปควรรับประทานแมกนีเซียมในขนาดที่แนะนำต่อวัน

  • ผู้มีปัญหาอาหารไม่ย่อยเป็นประจำควรรับประทานแมกนีเซียมหลังอาหารครึ่งชั่วโมง เนื่องจากถ้ารับประทานพร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันที แมกนีเซียมอาจลดกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้อาหารไม่ย่อย

  • ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตต่ำควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน เพราะแมกนีเซียมอาจทำให้ความดันโลหิตต่ำลงอีก

  • เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน

  • ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ มีปัญหาเกี่ยวกับไต ไม่ควรรับประทาน 

  • ผู้ที่รับประทานยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความผิดปกติของหัวใจ ยาปฏิชีวนะ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทาน

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทาน

  • อ่านฉลากและข้อควรระวังก่อนบริโภค

  • การรับประทานแมกนีเซียมมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น มีอาการท้องเสีย คลื่นไส้ และปวดท้อง

           ใครอยากเสริมแมกนีเซียมลองพิจารณาจากยี่ห้อที่เราแนะนำกันได้เลย อย่างไรก็ตาม เราควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ตามสัดส่วนที่เหมาะสม ร่วมกับพักผ่อนให้เพียงพอและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่ดีโดยรวม

บทความที่เกี่ยวข้องกับแมกนีเซียม

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แมกนีเซียม ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 ช่วยให้ผ่อนคลาย ดีต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ อัปเดตล่าสุด 10 มิถุนายน 2567 เวลา 14:48:18 14,662 อ่าน
TOP