ความจริงเกี่ยวกับโนโรไวรัสที่กำลังระบาดอยู่ในจีน ต้องกังวลไหม จะซ้ำรอยโควิดหรือเปล่า ซึ่ง อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ เข้ามาตอบแล้วว่า ควรปฏิบัติตัวเช่นไร
โรคดังกล่าว มักทำให้เกิดการอักเสบระบบทางเดินอาหาร ผู้ป่วยมักท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียนอย่างรุนแรง ถ้าหากภูมิคุ้มกันต่ำ อาจจะรุนแรงจนถึงเสียชีวิตได้ ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ได้แต่แนะนำให้คนรักษาความสะอาด ล้างมือฆ่าเชื้อบ่อย ๆ
วันที่ 13 ธันวาคม 2567 เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ของนายเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการโพสต์ถึงโนโรไวรัสว่า ในประเทศไทยมีการระบาดโนโรไวรัสทุก ๆ ปี ไม่ใช่เป็นโรคใหม่ โรคนี้มักทำให้เด็กท้องเสีย ต้องระวังเรื่องความสะอาดของที่กิน
โนโรไวรัส เป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดการอักเสบ ไวรัสนี้มีระยะเวลาฟักตัว 12-48 ชั่วโมง ความน่ากลัวคือ มันทนต่อความร้อนและยาฆ่าเชื้อได้ดี แม้กระทั่งแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อก็ไม่สามารถฆ่าไวรัสตัวนี้ได้ ติดเชื้อได้ง่ายแม้ได้รับเชื้อเพียงเล็กน้อย
เกิดจากการรับประทานอาหารและน้ำดื่มที่ไม่เชื้อไวรัสชนิดนี้ปนเปื้อน หรืออาจจะปนเปื้อนที่ภาชนะใส่อาหาร ส่วนมากมักระบาดในช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถงธันวาคม
ไม่ใช่แค่การรับประทานอาหารที่ทำให้เกิดโรคได้ เพราะยังมีการสัมผัสสิ่งของที่มีโนโรไวรัสแล้วนำนิ้วเข้าปาก ก็สามารถทำให้ติดโรคได้เช่นกัน รวมถึงสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง
- ต้องทำความสะอาดอยู่บ่อย ๆ เช่น การล้างมือด้วยสบู่และน้ำอย่างน้อย 20 วินาที โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหาร
- การดื่มน้ำและอาหารที่สะอาด ล้างผักและผลไม้ก่อนรับประทาน
- เสื้อผ้าต้องซักให้สะอาดด้วยผงซักฟอก และอบแห้งด้วยการใช้ความร้อน
- คนป่วยควรหลีกเลี่ยงการทำอาหารให้คนอื่นรับประทาน เพราะมีโอกาสที่ไวรัสจะปนเปื้อนใส่อาหารสูง
ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลศิครินทร์
ตั้งแต่เกิดโรคโควิด 19 ระบาด
หลายคนก็ค่อนข้างตระหนักเวลาที่มีข่าวไวรัสใหม่ ๆ เกิดขึ้น
ต่อให้อยู่ต่างประเทศก็ยังกังวล
เพราะเคยมีประสบการณ์มาแล้วไม่กี่ปีที่ผ่านมา แถมในตอนนี้
ก็ยังมีการตีข่าวว่า โนโรไวรัสกำลังระบาดอยู่ในประเทศจีน
โรคดังกล่าว มักทำให้เกิดการอักเสบระบบทางเดินอาหาร ผู้ป่วยมักท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียนอย่างรุนแรง ถ้าหากภูมิคุ้มกันต่ำ อาจจะรุนแรงจนถึงเสียชีวิตได้ ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ได้แต่แนะนำให้คนรักษาความสะอาด ล้างมือฆ่าเชื้อบ่อย ๆ
วันที่ 13 ธันวาคม 2567 เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ของนายเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการโพสต์ถึงโนโรไวรัสว่า ในประเทศไทยมีการระบาดโนโรไวรัสทุก ๆ ปี ไม่ใช่เป็นโรคใหม่ โรคนี้มักทำให้เด็กท้องเสีย ต้องระวังเรื่องความสะอาดของที่กิน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant
สำหรับโรคโนโรไวรัส ทางโรงพยาบาลศิครินทร์ มีการให้ข้อมูลไว้ดังนี้
โนโรไวรัส เป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดการอักเสบ ไวรัสนี้มีระยะเวลาฟักตัว 12-48 ชั่วโมง ความน่ากลัวคือ มันทนต่อความร้อนและยาฆ่าเชื้อได้ดี แม้กระทั่งแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อก็ไม่สามารถฆ่าไวรัสตัวนี้ได้ ติดเชื้อได้ง่ายแม้ได้รับเชื้อเพียงเล็กน้อย
สาเหตุการเกิดโรคนี้
เกิดจากการรับประทานอาหารและน้ำดื่มที่ไม่เชื้อไวรัสชนิดนี้ปนเปื้อน หรืออาจจะปนเปื้อนที่ภาชนะใส่อาหาร ส่วนมากมักระบาดในช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถงธันวาคม
ไม่ใช่แค่การรับประทานอาหารที่ทำให้เกิดโรคได้ เพราะยังมีการสัมผัสสิ่งของที่มีโนโรไวรัสแล้วนำนิ้วเข้าปาก ก็สามารถทำให้ติดโรคได้เช่นกัน รวมถึงสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง
วิธีการป้องกันโนโรไวรัส
- ต้องทำความสะอาดอยู่บ่อย ๆ เช่น การล้างมือด้วยสบู่และน้ำอย่างน้อย 20 วินาที โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหาร
- การดื่มน้ำและอาหารที่สะอาด ล้างผักและผลไม้ก่อนรับประทาน
- เสื้อผ้าต้องซักให้สะอาดด้วยผงซักฟอก และอบแห้งด้วยการใช้ความร้อน
- คนป่วยควรหลีกเลี่ยงการทำอาหารให้คนอื่นรับประทาน เพราะมีโอกาสที่ไวรัสจะปนเปื้อนใส่อาหารสูง
ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลศิครินทร์