ครอบครัว 3 คน เป็นมะเร็งติดต่อกัน แพทย์ชี้เพราะนิสัยการกิน 1 อย่าง เป็นปัญหาหลายบ้าน

 
           เผยเคสเตือน ครอบครัว 3 คน ตรวจพบเป็นมะเร็งทางเดินอาหารติดต่อกัน แพทย์ชี้เพราะนิสัยการกิน 1 อย่าง เชื่อเป็นปัญหาหลายบ้าน

มะเร็ง

              เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ SETN รายงานว่า เหลียวจี้ติ้ง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยาและมะเร็งวิทยา ประจำโรงพยาบาลโรงพยาบาลชางกุง เมโมเรียล เขตหลินโข่ว ในไต้หวัน ได้โพสต์คลิปวิดีโอทางช่องยูทูบ เพื่อเตือนเกี่ยวกับนิสัยการประหยัดอดออมผิดวิธี สามารถเป็นหนทางไปสู่โรคมะเร็งได้อย่างที่หลายคนอาจนึกไม่ถึง และพฤติกรรมนี้อาจจะเป็นปัญหาในหลายบ้านด้วยเช่นกัน

              โดยมีเคสตัวอย่างของครอบครัวหนึ่งในไต้หวัน ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งทางเดินอาหารติดต่อกัน 3 คน หลังจากตรวจร่างกายตามขั้นตอนทางการแพทย์และซักประวัติก็ทำให้ทราบว่า ครอบครัวนี้มีพฤติกรรมบริโภคอาหารเหลือเก็บ เนื่องจากต้องการประหยัดเงิน และทำเช่นนี้มาเป็นเวลานาน จนส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงดังกล่าว  

              "บางคนรู้สึกเสียดายจนไม่สามารถทิ้งอาหารได้ และมักกินอาหารเหลือ นั่นคือพฤติกรรมที่นำไปสู่โรคมะเร็งทางเดินอาหาร เราเจอผู้ป่วยมะเร็งในเคสแบบนี้เป็นจำนวนมาก" ดร.เหลียวจี้ติ้ง กล่าว

              ทั้งนี้ ดร.เหลียวจี้ติ้ง เผยว่า ในประสบการณ์ทางการแพทย์ 30 ปีของเขา มักจะพบผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเพราะประหยัดเงิน ในกรณีนี้คือผู้ที่ชอบกินอาหารเหลือ แม้ว่าตู้เย็นจะช่วยยืดอายุการเก็บรักษาของอาหารได้ แต่ก็ไม่สามารถป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะผักใบเขียว หากทิ้งไว้ข้ามคืนจะผลิตสารไนโตรซามีนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในอาหาร

              นอกจากนี้หลายครอบครัวยังมีนิสัยประหยัด ชอบซื้อผลไม้และผักที่ลดราคา หรือตัดส่วนที่ขึ้นราของผลไม้แล้วกินต่อ โดยอาหารที่ขึ้นราจะผลิตสารอะฟลาทอกซิน เพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งตับ หากรับประทานเป็นเวลานาน อาจส่งผลทางอ้อมต่อการทำงานของระบบทางเดินอาหาร และอาจกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์มะเร็งได้ รวมไปถึงการกินอาหารแปรรูปเพื่อประหยัดเงินและเวลา ซึ่งไม่เพียงแค่มีน้ำตาลและโซเดียมสูง แต่ยังมีสารเติมแต่งซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกด้วย

              นอกจากนี้ ดร.เหลียวจี้ติ้ง ยังเตือนบางครอบครัวที่มีนิสัยประหยัด รีบปิดเครื่องดูดควันทันทีหลังจากทำอาหารเสร็จ เพื่อประหยัดค่าไฟ ซึ่งในขณะนั้นยังมีควันและสารอันตรายหลงเหลืออยู่ในครัว ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพปอด จึงแนะนำให้เปิดเครื่องดูดควันตั้งแต่ก่อนทำอาหาร และเปิดต่อไปจนถึงหลังจากทำอาหารเสร็จ 3-5 นาที  

              "อย่าเสียสละสุขภาพทางเดินหายใจของคุณ เพียงเพื่อประหยัดค่าไฟเพียงเล็กน้อย" ดร.เหลียวจี้ติ้ง กล่าว



ขอบคุณข้อมูลจาก SETN, CTWANT

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ครอบครัว 3 คน เป็นมะเร็งติดต่อกัน แพทย์ชี้เพราะนิสัยการกิน 1 อย่าง เป็นปัญหาหลายบ้าน โพสต์เมื่อ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 14:54:01 9,080 อ่าน
TOP
x close