เตือนระวัง โรคไข้ดิน ภัยเงียบในช่วงฤดูฝน เสียชีวิตแล้ว 92 ราย ป่วย 2,036 กลุ่มเสี่ยงผู้ที่มีโรคประจำตัว แนะป้องกันทุกครั้งที่สัมผัสดินหรือลุยน้ำ
วันที่ 2 สิงหาคม 2568 สวพ.FM91 รายงานว่า นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เตือนประชาชนช่วงฤดูฝน ต้องระวังป่วยเป็นโรคเมลิออยโดสิส หรือโรคไข้ดิน หลังพบยอดป่วยจำนวน 2,036 ราย เสียชีวิต 92 ราย อัตราป่วยตายอยู่ที่ 4.52%
จากตัวเลขพบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกร และรับจ้างทั่วไป สูงสุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุเฉลี่ย 58 ปี ผู้เสียชีวิตจะมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ไตวาย และพิษสุราเรื้อรัง ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง หายใจหอบเหนื่อย โดยปัจจัยรับเชื้อเกิดจากการสัมผัสพื้นดิน พื้นน้ำโดยไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน
นอกจากนี้ ยังต้องระวัง โรคเลปโตสไปโรสิส หรือไข้ฉี่หนู หลังพบผู้ป่วยสะสม 1,895 ราย เสียชีวิต 25 ราย อัตราป่วยตาย 1.32% เป็นโรคที่พบมากในฤดูฝน เนื่องจากการลุยน้ำโดยไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน ซึ่งปีนี้พบผู้ป่วยสูงกว่าค่ามัธยฐาน 5 ปีย้อนหลัง โดยผู้ป่วยพบมากในอายุ 60 ปีขึ้นไป เช่นเดียวกับกลุ่มที่เสียชีวิต
ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีน้ำท่วมหลายจังหวัด ขอให้ประชาชนป้องกันตนเองไม่ให้รับเชื้อ เลี่ยงการลุยน้ำ แช่น้ำ แต่ถ้าจำเป็นต้องสวมรองเท้าป้องกัน เป็นรองเท้าบู๊ท และสวมถุงมือ พร้อมทั้งล้างมือบ่อย ๆ
โรคเมลิออยโดสิส หรือ โรคไข้ดิน คืออะไร
เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในดินและน้ำ จากการสัมผัสดินและน้ำเป็นเวลานาน หรือผ่านทางบาดแผล รวมทั้งการดื่มน้ำและรับประทานอาหารที่มีเชื้อปนเปื้นเข้าไป มักพบในกลุ่มผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคธาลัสซีเมีย มะเร็ง วัณโรค และภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น
อาการของโรคไข้ดิน
มีใช้สูง ไอ มีฝีหนองตามร่างกายหรืออวัยวะภายใน เช่น ปอด ตับ ม้าม ไต พบในผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก หากอาการรุนแรงอาจเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ อาการ และความรุนแรงของโรค ขึ้นอยู่กับระบบภูมิคุ้มกัน และปริมาณของเชื้อที่ได้รับ
การป้องกัน
- หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำ ย่ำโคลน หรือสัมผัสดิน และน้ำโดยตรง หากจำเป็นต้องสวมรองเท้าบูท ถุงมือยาง กางเกงขายาวหรือชุดลุยน้ำ
- หากมีบาดแผลที่ผิวหนัง ควรรีบทำความสะอาดบาดแผล และหลีกเลี่ยงการสัมผัสดิน และน้ำจนกว่าแผลนั้น จะแห้งสนิท
- รับประทานอาหารปรุงสุก ดื่มน้ำสะอาด
ขอบคุณข้อมูลจาก สวพ.FM9, สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดสงขลา