หมอเล่าเคส สาวออฟฟิศ รักสุขภาพ-ไม่ดื่มไม่สูบ พบเป็นมะเร็ง ชี้นิสัยเสี่ยง หลายคนทำ

          หมอเจด เล่าเคสสาวออฟฟิศ อายุแค่ 37 รักสุขภาพ เหล้า-บุหรี่ ไม่มี สุดท้ายพบเป็นมะเร็ง เกิดจากพฤติกรรมเล็ก ๆ ที่ทำเป็นประจำ ชี้ท้องผูกอาจเป็นสัญญาณ

มะเร็ง
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          วันที่ 15 ตุลาคม 2568 นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ออกมาเล่าเคสอุทาหรณ์ผ่านเพจ หมอเจด เกี่ยวกับสาวออฟฟิศวัย 37 ปี ที่ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ รักสุขภาพ แต่สุดท้ายกลับตรวจเจอมะเร็ง 

          โดยระบุว่า เป็นเคสของคนไข้หญิงวัย 37 ปี มาปรึกษาด้วยอาการท้องผูกมาหลายวัน ตอนแรกก็คิดว่าเป็นเพราะช่วงนี้เครียด ทำงานหนัก แต่พอผ่านไปหลายวันอาการกลับไม่ดีขึ้น เริ่มรู้สึกแน่นท้อง กินอะไรก็ท้องอืดง่าย จนตัดสินใจมาหาหมอ และผลตรวจกลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากได้ยินเลย เจอมะเร็งลำไส้ในระยะต้น 

          คนไข้ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบเสี่ยงเลย ออกกำลังกายเกือบทุกวัน กินอาหารคลีน ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ และนอนค่อนข้างเป็นเวลา แต่ลองถามรายละเอียดดู สาเหตุเกิดจากพฤติกรรมเล็ก ๆ ที่ทำเป็นประจำโดยไม่รู้ตัว 

1. ดื่มน้ำน้อยมาก


          ดื่มน้ำไม่ถึงวันละ 1 ลิตร เพราะแค่กลัวเข้าห้องน้ำบ่อย แต่รู้ไหมครับว่า น้ำคือตัวช่วยการขับถ่าย เมื่อร่างกายขาดน้ำ อุจจาระจะจับตัวแน่น แข็ง และเคลื่อนผ่านลำไส้ยากขึ้น ยิ่งเกิดการสะสมของของเสียและสารก่อมะเร็งในลำไส้

2. ชอบกินขนมอบกับกาแฟ


          แม้จะกินอาหารหลักดี แต่ช่วงบ่าย ๆ ชอบ เบเกอรี่ + กาแฟเย็น ซึ่งเต็มไปด้วยพวก น้ำตาล ไขมันทรานส์ และคาเฟอีนสูง ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารรวน ลำไส้อืด และลดการบีบตัวของลำไส้

3. ขาดไฟเบอร์จากธรรมชาติ


          กินอาหารคลีนจริง แต่กลับกินเนื้อสัตว์เยอะ–ผักน้อย บางมื้อไม่มีผักหรือผลไม้เลย ซึ่งไฟเบอร์จะช่วยให้ของเสียเคลื่อนผ่านลำไส้ได้ดี และลดการสัมผัสของสารพิษกับผนังลำไส้ เมื่อไม่มีไฟเบอร์ ลำไส้ก็เหมือนถนนตัน ของเสียสะสมและเกิดการอักเสบเรื้อรังที่ตามมา

4. กลั้นอุจจาระเป็นนิสัย


          เพราะทำงานหน้าคอมพ์ตลอด เลยมักจะกลั้นไว้ก่อน เดี๋ยวทำงานเสร็จก่อนค่อยเข้าห้องน้ำ แต่ทุกครั้งที่กลั้น คือการฝึกให้ลำไส้ทำงานช้าลง จนในที่สุดกลายเป็นภาวะ "ลำไส้ขี้เกียจ" และเกิดอาการท้องผูกเรื้อรัง

          คนไข้ได้เข้ารับการรักษาทันเวลาและตอนนี้อยู่ในช่วงฟื้นฟูตัวเอง จากเคสนี้บอกได้เลยว่าอย่ารอให้ร่างกายส่งสัญญาณเตือนแล้วค่อยสนใจ อาการท้องผูกที่เราคิดว่าเรื่องเล็ก อาจเป็นสัญญาณแรกของความผิดปกติในลำไส้ ถ้ามีอาการบ่อยควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุให้ชัด ฝากด้วยครับ ใครมีคำถามคอมเมนต์ไว้ได้เลยนะครับ
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หมอเล่าเคส สาวออฟฟิศ รักสุขภาพ-ไม่ดื่มไม่สูบ พบเป็นมะเร็ง ชี้นิสัยเสี่ยง หลายคนทำ อัปเดตล่าสุด 16 ตุลาคม 2568 เวลา 13:29:02 14,165 อ่าน
TOP
x close