หมอแนะ ชอบอาบน้ำเย็น - ไม่มีน้ำอุ่น หน้าหนาวควรทำไง ลดภาระหัวใจ... เลือดไม่หนืด

 
            อาบน้ำเย็นหน้าหนาว เสี่ยงต่อระบบหลอดเลือและหัวใจ หมอแนะ ไม่มีน้ำอุ่น ควรอาบน้ำยังไง ให้ลดภาระหัวใจ... เลือดไม่หนืด 
อาบน้ำเย็นหน้าหนาว

            พฤติกรรมการอาบน้ำของแต่ละคนนั้นต่างกันไป บางคนก็อาบน้ำอุ่น บ้างก็อาบน้ำเย็น แต่ในช่วงที่อากาศหนาว ๆ การอาบน้ำเย็นอาตส่งผลต่อหัวใจและระบบไหลเวียนเลือด ด้วยเหตุนี้จึงเกิดคำถามว่า "ถ้าชอบอาบน้ำเย็น หรือบ้านไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น จะอาบยังไงไม่ให้เลือดหนืดหรือเสี่ยงต่อหัวใจดี ?"

            วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา โพสต์ให้ความรู้ผ่านเพจ หมอเจด ระบุว่า การอาบน้ำเย็นในวันที่หนาว ส่งผลต่อหัวใจและระบบไหลเวียนเลือดมากกว่าที่คิด เพราะน้ำเย็นทำให้เลือดหดตัวกะทันหัน เลือดหนืด หัวใจสูบฉีดแรงขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิร่างกาย อาจทำให้วูบ หน้ามืด เหนื่อยง่าย หรือหัวใจเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว

            อย่างไรก็ตาม มีเทคนิคง่าย ๆ ที่ช่วยให้อาบน้ำเย็นได้ปลอดภัยขึ้น ลดภาระหัวใจ และช่วยให้เลือดไม่หนืดแม้ไม่มีน้ำอุ่น ดังนี้

1. อุ่นร่างกายก่อนประมาณ 3 - 5 นาที


            ก่อนอาบน้ำเย็น ควรทำให้ร่างกาย "อุ่นจากข้างในก่อน" เพื่อให้เลือดตื่นตัว ไม่โดนน้ำเย็นกระตุกแบบฉับพลัน การทำให้ร่างกายอุ่น 3 - 5 นาที จะช่วยให้เลือดสูบฉีดดีขึ้น หลอดเลือดขยายอย่างพอดี เมื่อต้องเจอน้ำเย็น ร่างกายจะไม่หดตัวแรงจนวูบหรือใจสั่น แถมยังช่วยลดความรู้สึกช็อกน้ำเย็นตอนแรกสัมผัสได้ดีมาก 

            ใครที่มักหน้ามืดเวลาอาบน้ำเย็น การเตรียมร่างกายให้ "อุ่นก่อนลงน้ำ" ถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด

2. ใช้วิธี "ลูบ - ประแป้งน้ำ" แทนการราดรวดเดียว


            หลังจากอุ่นร่างกายแล้ว อย่าเพิ่งจ้วงขันราดน้ำเย็นไปเลย เพราะจะทำให้หลอดเลือดหดตัวแบบฉับพลันและหัวใจต้องเร่งสูบเลือดทันที วิธีที่ปลอดภัยกว่าคือ "ประแป้งน้ำ" หรือค่อย ๆ ลูบผิวด้วยน้ำเย็นทีละส่วน เพื่อให้ผิวและหลอดเลือดปรับอุณหภูมิ ละนิด ซึ่งช่วยให้เลือดไหลเวียนต่อเนื่อง ไม่สะดุด และลดอาการวูบจากการเปลี่ยนอุณหภูมิรวดเร็ว แถมวิธีนี้ยังช่วยให้ร่างกายรู้สึกเย็นน้อยลงด้วยเมื่ออาบจริง 

3. เริ่มจากส่วนปลายก่อน ไม่ราดที่อกทันที


            ใครที่เริ่มราดน้ำเย็นลงหน้าอกทันทีอันตรายมา เพราะกระตุ้นหัวใจโดยตรง เกิดการสะดุ้ง หัวใจเต้นเร็ว หรือหายใจติดขัดได้ วิธีที่ถูกต้องคือเริ่มอาบจากส่วนปลายร่างกายก่อน เช่น มือ เท้า แขน ขา แล้วค่อยเลื่อนขึ้นมาเรื่อย ๆ จนถึงลำตัว แล้วค่อยลูบน้ำบริเวณหน้าอกและหัวใจเป็นลำดับสุดท้าย เทคนิคนี้ช่วยให้หลอดเลือดส่วนปลายเป็นตัวปรับอุณหภูมิก่อน ลดแรงกระแทกของน้ำเย็นต่อระบบหัวใจและปอด 

            ใครที่เคยรู้สึกจุกหน้าอกหรือวูบ วิธีนี้ช่วยได้มาก 

4. อย่าอาบน้ำนานเกิน 5–7 นาที


            ใครที่ชอบอาบน้ำนาน ๆ บางคน 20-30 นาทีก็มี ทำให้ร่างกายต้องผลิตความร้อนเพื่อสู้กับความเย็นตลอดเวลา ส่งผลให้หัวใจต้องสูบฉีดแรงขึ้นต่อเนื่อง เลือดข้นขึ้นชั่วคราว และอาจเหนื่อยง่ายหรือมือเท้าเย็นจัดได้ 

            คนที่มีความดันสูง - ต่ำ หรือเคยวูบในห้องน้ำต้องระวังเป็นพิเศษ ควรตั้งเวลาอาบประมาณ 5 - 7 นาทีพอ เพื่อให้ร่างกายสัมผัสน้ำเย็นพอสดชื่น แต่ไม่ทำให้ระบบไหลเวียนทำงานหนักจนเกินไป 

5. เช็ดตัวและใส่เสื้อผ้าอุ่นทันที


            หลังอาบน้ำเย็นเสร็จ ร่างกายจะสูญเสียความร้อนเร็วมาก ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานเกิน 1 - 2 นาที หลอดเลือดจะยังหดตัว และเสี่ยงเลือดหนืดชั่วคราวได้ การเช็ดตัวให้แห้งทันทีและสวมเสื้อผ้าอุ่น เช่น เสื้อไหมพรม ถุงเท้า หรือผ้าคลุมไหล่ ช่วยให้ร่างกายกลับมาอุ่นเร็ว หัวใจทำงานน้อยลงและระบบไหลเวียนฟื้นตัวเร็วขึ้น ใครที่มักหนาวจนสั่นหลังอาบน้ำ การอุ่นตัวเร็วคือกุญแจสำคัญ 

            ทั้งนี้ อาบน้ำเย็นในหน้าหนาวไม่จำเป็นต้องอันตรายเสมอไป ถ้ารู้วิธีปรับตัวให้ถูกต้อง ตั้งแต่เตรียมร่างกายให้อุ่น ค่อย ๆ ปรับอุณหภูมิก่อนอาบ ไม่ราดน้ำที่หน้าอกทันที ไม่อาบนานเกินไป และรีบอุ่นตัวหลังอาบ เทคนิคเหล่านี้ช่วยลดภาระหัวใจ เลือดไม่หนืด ลดอาการวูบ และทำให้อาบน้ำได้ปลอดภัยขึ้น แม้บ้านจะไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นก็ตาม 





เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หมอแนะ ชอบอาบน้ำเย็น - ไม่มีน้ำอุ่น หน้าหนาวควรทำไง ลดภาระหัวใจ... เลือดไม่หนืด อัปเดตล่าสุด 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13:58:54 13,335 อ่าน
TOP
x close