หมอเจด เตือน 6 ผักไทยที่คนชอบกินสด อาจมีพิษ และเชื้อโรคสะสม เสี่ยงท้องเสีย เวียนหัว ลำไส้อักเสบ
![ผัก 6 ชนิด กินสดอันตราย ผัก 6 ชนิด กินสดอันตราย]()
โพสต์ดังกล่าว ระบุว่า หลายคนคิดว่าผักพื้นบ้านที่กินสดคู่กับน้ำพริกเป็นของดีและปลอดภัย เพราะไม่ได้ผ่านการแปรรูป แต่จริง ๆ แล้วผักบางชนิดมีพิษธรรมชาติ สารต้านอาหาร หรือเชื้อโรคสะสมที่อาจทำให้ท้องเสีย เวียนหัว หรือทำให้ลำไส้อักเสบได้แบบไม่ทันตั้งตัว ยิ่งถ้ากินเป็นประจำโดยไม่ลวกให้สุก ความเสี่ยงจะยิ่งสูงขึ้น วันนี้จึงรวบรวมผักไทยยอดฮิตที่หลายคนชอบกินสด แต่ควรระวังเป็นพิเศษ พร้อมอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ
- ถั่วฝักยาวมักปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียจากดินและน้ำที่ใช้เพาะปลูก ยิ่งวางทิ้งไว้นานในอุณหภูมิห้อง เชื้อจะเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว และทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย หรือถ่ายเหลวได้ทันทีเมื่อกินสด นอกจากนี้ผิวถั่วยังมีร่องลึกที่ล้างยาก ทำให้เชื้อโรคเกาะอยู่มากกว่าที่เห็นด้วยตาเปล่า ควรลวกน้ำเดือดประมาณ 30 ถึง 60 วินาที จะช่วยลดเชื้อได้เกือบทั้งหมด และทำให้ย่อยง่ายขึ้นโดยไม่เสียความกรอบ
- ชะอมดิบมีกลิ่นฉุนเพราะมีสารระเหยที่อาจทำให้ระคายคอ ไอ คอแห้ง หรือแน่นท้อง โดยเฉพาะในคนที่มีกรดไหลย้อนหรือลำไส้แปรปรวน นอกจากนี้ใบชะอมดิบยังย่อยยาก ทำให้เกิดแก๊สในลำไส้มากขึ้น หากกินบ่อยอาจทำให้แน่นท้องหรือจุกเสียดได้ง่าย แนะนำให้ย่าง ลวก หรือทอดไข่ให้สุก จะช่วยลดสารระเหยลงได้มาก ย่อยง่ายขึ้น และไม่ทำให้ลำไส้ระคายเคือง
- ใบฟักทองดิบมีสารไฟเตตและออกซาเลต ซึ่งไปขัดขวางการดูดซึมแร่ธาตุ เช่น เหล็ก แคลเซียม และสังกะสี หากกินดิบเป็นประจำอาจทำให้เหนื่อยง่าย โลหิตจาง หรือระบบขับถ่ายมีปัญหาเพราะย่อยยาก นอกจากนี้เส้นใยในใบฟักทองดิบยังแข็ง ทำให้ท้องอืดได้ง่าย การลวกหรือนึ่งเพียงไม่กี่นาทีจะช่วยลดสารต้านโภชนาการลงได้มาก ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้นและลดอาการแน่นท้อง
- ดอกแคดิบมีสารขมเข้มข้นที่อาจทำให้กระเพาะหรือลำไส้ระคายเคือง ส่งผลให้แน่นท้อง คลื่นไส้ หรือขับถ่ายผิดปกติ โดยเฉพาะในคนที่กระเพาะไวหรือแพ้ง่าย นอกจากนี้ดอกแคยังมียางตามธรรมชาติที่ทำให้ย่อยช้ากว่าเดิม การลวกให้สุกจะช่วยลดความขมลงมาก ทำให้กินง่าย ย่อยง่าย และยังคงวิตามินเอและไฟเบอร์ที่ดีต่อสุขภาพลำไส้
- ผักกระโดนดิบมีสารซาโปนิน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ เวียนหัว หรือท้องเสียได้หากกินมากเกินไป แม้เป็นผักพื้นบ้านยอดนิยมที่มักกินสดกับน้ำพริก แต่หากล้างไม่ดีหรือกินดิบเป็นประจำ ร่างกายจะต้องรับภาระจากสารนี้มากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ลำไส้อ่อนแอจะมีอาการเร็วกว่าปกติ การลวกให้สุกจะช่วยลดระดับซาโปนินลงอย่างชัดเจน ทำให้ปลอดภัยขึ้นและยังคงไฟเบอร์ที่ดีต่อร่างกาย
- มันสำปะหลังดิบมีสารไกลโคไซด์ที่สามารถเปลี่ยนเป็นไซยาไนด์ในร่างกาย ทำให้มึนงง อาเจียน หายใจลำบาก หรือเกิดพิษรุนแรงได้ในเวลาไม่กี่นาที แม้กินเพียงเล็กน้อยก็อันตราย โดยเฉพาะในเด็ก ผู้สูงอายุ หรือคนที่ตับอ่อนแอ มันสำปะหลังต้องต้มในน้ำเดือดจนสุกทั่วถึงเท่านั้น จึงจะสามารถทำลายพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ห้ามกินดิบทุกกรณี
ผักพื้นบ้านกินสดอร่อยก็จริง แต่หลายชนิดมีพิษธรรมชาติ เชื้อโรค หรือสารต้านโภชนาการที่อาจทำให้ลำไส้อักเสบ ท้องเสีย เวียนหัว หรือทำให้ดูดซึมสารอาหารได้น้อยลง โดยเฉพาะถั่วฝักยาว ชะอม ใบฟักทอง ดอกแค ผักกระโดน และมันสำปะหลัง ซึ่งอันตรายเมื่อกินดิบ หากอยากกินให้ปลอดภัย แนะนำให้ลวก นึ่ง หรือผัดเบา ๆ ก่อนทุกครั้ง จะช่วยลดพิษ ลดเชื้อโรค และทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้นมาก
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก หมอเจด

วันที่ 6 ธันวาคม 2568 นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์
รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา
โพสต์ให้ความรู้ด้านสุขภาพผ่านเพจเฟซบุ๊ก หมอเจด เกี่ยวกับผักหลายชนิดที่บางคนชื่นชอบกินดิบ ๆ
แต่หากไม่ได้นำมาลวกให้สุกก่อนอาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
โพสต์ดังกล่าว ระบุว่า หลายคนคิดว่าผักพื้นบ้านที่กินสดคู่กับน้ำพริกเป็นของดีและปลอดภัย เพราะไม่ได้ผ่านการแปรรูป แต่จริง ๆ แล้วผักบางชนิดมีพิษธรรมชาติ สารต้านอาหาร หรือเชื้อโรคสะสมที่อาจทำให้ท้องเสีย เวียนหัว หรือทำให้ลำไส้อักเสบได้แบบไม่ทันตั้งตัว ยิ่งถ้ากินเป็นประจำโดยไม่ลวกให้สุก ความเสี่ยงจะยิ่งสูงขึ้น วันนี้จึงรวบรวมผักไทยยอดฮิตที่หลายคนชอบกินสด แต่ควรระวังเป็นพิเศษ พร้อมอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ
1. ถั่วฝักยาวสด : เชื้อโรคสูงกว่าที่คิด เสี่ยงท้องเสียเฉียบพลัน
- ถั่วฝักยาวมักปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียจากดินและน้ำที่ใช้เพาะปลูก ยิ่งวางทิ้งไว้นานในอุณหภูมิห้อง เชื้อจะเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว และทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย หรือถ่ายเหลวได้ทันทีเมื่อกินสด นอกจากนี้ผิวถั่วยังมีร่องลึกที่ล้างยาก ทำให้เชื้อโรคเกาะอยู่มากกว่าที่เห็นด้วยตาเปล่า ควรลวกน้ำเดือดประมาณ 30 ถึง 60 วินาที จะช่วยลดเชื้อได้เกือบทั้งหมด และทำให้ย่อยง่ายขึ้นโดยไม่เสียความกรอบ
2. ชะอมสด : ระคายคอ แน่นท้อง เพราะสารระเหยตามธรรมชาติ
- ชะอมดิบมีกลิ่นฉุนเพราะมีสารระเหยที่อาจทำให้ระคายคอ ไอ คอแห้ง หรือแน่นท้อง โดยเฉพาะในคนที่มีกรดไหลย้อนหรือลำไส้แปรปรวน นอกจากนี้ใบชะอมดิบยังย่อยยาก ทำให้เกิดแก๊สในลำไส้มากขึ้น หากกินบ่อยอาจทำให้แน่นท้องหรือจุกเสียดได้ง่าย แนะนำให้ย่าง ลวก หรือทอดไข่ให้สุก จะช่วยลดสารระเหยลงได้มาก ย่อยง่ายขึ้น และไม่ทำให้ลำไส้ระคายเคือง
3. ใบฟักทองและยอดฟักทองสด : สารต้านโภชนาการสูง ทำให้ดูดซึมแร่ธาตุได้น้อยลง
- ใบฟักทองดิบมีสารไฟเตตและออกซาเลต ซึ่งไปขัดขวางการดูดซึมแร่ธาตุ เช่น เหล็ก แคลเซียม และสังกะสี หากกินดิบเป็นประจำอาจทำให้เหนื่อยง่าย โลหิตจาง หรือระบบขับถ่ายมีปัญหาเพราะย่อยยาก นอกจากนี้เส้นใยในใบฟักทองดิบยังแข็ง ทำให้ท้องอืดได้ง่าย การลวกหรือนึ่งเพียงไม่กี่นาทีจะช่วยลดสารต้านโภชนาการลงได้มาก ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้นและลดอาการแน่นท้อง
4. ดอกแคสด : ขมจัด กระตุ้นลำไส้ ทำให้อืดแน่นได้ง่าย
- ดอกแคดิบมีสารขมเข้มข้นที่อาจทำให้กระเพาะหรือลำไส้ระคายเคือง ส่งผลให้แน่นท้อง คลื่นไส้ หรือขับถ่ายผิดปกติ โดยเฉพาะในคนที่กระเพาะไวหรือแพ้ง่าย นอกจากนี้ดอกแคยังมียางตามธรรมชาติที่ทำให้ย่อยช้ากว่าเดิม การลวกให้สุกจะช่วยลดความขมลงมาก ทำให้กินง่าย ย่อยง่าย และยังคงวิตามินเอและไฟเบอร์ที่ดีต่อสุขภาพลำไส้
5. ผักกระโดน : ซาโปนินสูง กินดิบมากเสี่ยงเวียนหัวและคลื่นไส้
- ผักกระโดนดิบมีสารซาโปนิน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ เวียนหัว หรือท้องเสียได้หากกินมากเกินไป แม้เป็นผักพื้นบ้านยอดนิยมที่มักกินสดกับน้ำพริก แต่หากล้างไม่ดีหรือกินดิบเป็นประจำ ร่างกายจะต้องรับภาระจากสารนี้มากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ลำไส้อ่อนแอจะมีอาการเร็วกว่าปกติ การลวกให้สุกจะช่วยลดระดับซาโปนินลงอย่างชัดเจน ทำให้ปลอดภัยขึ้นและยังคงไฟเบอร์ที่ดีต่อร่างกาย
6. มันสำปะหลัง : เสี่ยงพิษไซยาไนด์ ห้ามกินดิบเด็ดขาด
- มันสำปะหลังดิบมีสารไกลโคไซด์ที่สามารถเปลี่ยนเป็นไซยาไนด์ในร่างกาย ทำให้มึนงง อาเจียน หายใจลำบาก หรือเกิดพิษรุนแรงได้ในเวลาไม่กี่นาที แม้กินเพียงเล็กน้อยก็อันตราย โดยเฉพาะในเด็ก ผู้สูงอายุ หรือคนที่ตับอ่อนแอ มันสำปะหลังต้องต้มในน้ำเดือดจนสุกทั่วถึงเท่านั้น จึงจะสามารถทำลายพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ห้ามกินดิบทุกกรณี
กินผักดิบต้องระวังอย่างไรบ้าง
ผักพื้นบ้านกินสดอร่อยก็จริง แต่หลายชนิดมีพิษธรรมชาติ เชื้อโรค หรือสารต้านโภชนาการที่อาจทำให้ลำไส้อักเสบ ท้องเสีย เวียนหัว หรือทำให้ดูดซึมสารอาหารได้น้อยลง โดยเฉพาะถั่วฝักยาว ชะอม ใบฟักทอง ดอกแค ผักกระโดน และมันสำปะหลัง ซึ่งอันตรายเมื่อกินดิบ หากอยากกินให้ปลอดภัย แนะนำให้ลวก นึ่ง หรือผัดเบา ๆ ก่อนทุกครั้ง จะช่วยลดพิษ ลดเชื้อโรค และทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้นมาก
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก หมอเจด






