น้ำมันอะโรมาเธอราพี อาจแฝงอันตราย


น้ำมันหอมระเหย



          นักวิจัยไต้หวันเตือน น้ำมันหอมระเหย มีการทำปฏิกิริยากับอากาศ ทำให้เกิดละอองที่สร้างความระคายเคืองแก่ดวงตา จมูก และลำคอ รวมทั้งทำให้เกิดอาการปวดหัว คลื่นไส้ และทำลายตับกับไตได้ ขณะที่แพทย์ไทยแนะให้ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม

          สำหรับงานวิจัยชิ้นนี้ นักวิจัยได้ศึกษาขนาดและปริมาณของละอองที่เกิดขึ้นเมื่อคนเข้ารับการนวดตามสปาต่าง ๆ โดยพบว่า น้ำมันหอมระเหยเหล่านี้สกัดจากลาเวนเดอร์ ต้นชา ยูคาลิปตัส และเปปเปอร์มินต์ ซึ่งเชื่อกันว่าน้ำมันพวกนี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ทำให้ผิวดี เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยให้นอนหลับ แต่นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเภสัชศาสตร์และวิทยาศาสตร์เจียหนานในไต้หวัน เตือนว่า ไม่ควรมองข้ามผลเสียของน้ำมันเหล่านี้ด้วย

          งานวิจัยซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Environmental Engineering Science ได้วัดปริมาณของละอองเหล่านี้เมื่อมีการใช้น้ำมันถูนวดในสปา 2 แห่งในไต้หวัน และพบว่า น้ำมันที่ทำให้เกิดละอองดังกล่าวเป็นจำนวนมากที่สุด คือ น้ำมันจากลาเวนเดอร์ ต้นชา เปปเปอร์มินต์ มะนาว และยูคาลิปตัส ซ้ำยังมีการพบด้วยว่า น้ำมันอะโรมาทำให้ผู้ป่วยโรคปอดและผู้ป่วยโรคหอบหืดมีอาการกำเริบ

          นอกจากนี้ บรรดานางพยาบาลยังรายงานด้วยว่า คนที่ใช้น้ำมันเหล่านี้ในการอาบน้ำหรือทาผิวหนังในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้ผิวไหม้และเกิดผื่นได้


สปา


          เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.สมเกียรติ ศิริรัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เนื่องจากยังไม่เคยได้รับข้อมูลดังกล่าว แต่คาดว่าในน้ำมันหอมระเหยนั้น อาจจะมีสมุนไพรที่ไม่แท้ผสมอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อนำไปใช้จึงทำให้เกิดการระคายเคืองได้ โดยเฉพาะกลิ่นน้ำหอมที่สกัดมาจากสารสังเคราะห์

          คุณหมอกล่าวต่อว่า น้ำมันที่ใช้ในร้านสปานั้นประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือ

          1.น้ำมันที่สกัดจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน ฯลฯ ซึ่งใช้เป็นตัวละลายน้ำหอม และไม่ทำให้เกิดอาการแพ้เพราะเป็นน้ำมันที่สกัดมาจากธรรมชาติ

          2.กลิ่นน้ำหอมที่เป็นสารสกัด ซึ่งบางคนอาจเกิดอาการแพ้จากกลิ่นน้ำหอมเหล่านี้ จึงทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน หรืออาการระคายเคืองต่าง ๆ

          พูดง่าย ๆ ว่าอาการแพ้ดังกล่าวนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับสารพิษ หรือสารตกค้างในน้ำมันหอมระเหย แต่อาการแพ้นั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิว และปฏิกิริยาตอบสนองของกลิ่นน้ำหอมที่แต่ละคนได้รับมากกว่า ซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่ากลิ่นน้ำหอมใดที่ทำให้แพ้ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ใช้บริการนั้น ต้องสำรวจตัวเองว่ามีอาการแพ้น้ำหอมกลิ่นใด หากทราบถึงสาเหตุ หรือมีอาการคันและมีผื่นแดงขึ้นก็ควรหยุดใช้ทันที

          ในส่วนของผู้ให้บริการนั้นก็ควรใช้น้ำมันหอมระเหยในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรเกิน 30 มิลลิกรัม และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมละเหยจากบริษัทที่เชื่อได้ และได้รับอนุญาตถูกต้องให้ผลิต สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้หรือโรคประจำตัว เช่น โรคผิวหนัง โรคทางเดินหายใจ ก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้บริการ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
 


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
น้ำมันอะโรมาเธอราพี อาจแฝงอันตราย อัปเดตล่าสุด 18 พฤษภาคม 2559 เวลา 17:52:58 21,754 อ่าน
TOP
x close