เด็กชายอิลแฮม วัย 8 ขวบ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก internationaltobaccoonline.com
หลังจากเคยมีข่าวเด็กชายชาวอินโดนีเซีย วัย 8 ขวบ เป็นสิงห์อมควัน สูบบุหรี่วันละ 2 ซอง เผยแพร่ไปทั่วโลกเมื่อเดือนก่อน ในที่สุด เด็กชายรายดังกล่าวก็เลิกบุหรี่ได้แล้ว หลังได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานสังคมสงเคราะห์เด็กในอินโดนีเซีย
เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เด็กชายอิลแฮม วัย 8 ขวบ ที่มีพฤติกรรมติดบุหรี่อย่างหนัก โดยสูบบุหรี่ถึงวันละ 2 ซอง หรือประมาณ 40 ตัวขึ้นไป ตอนนี้ได้เลิกบุหรี่อย่างเด็ดขาดแล้ว หลังจากเข้ารับการบำบัดจากหน่วยงานสังคมสงเคราะห์เด็ก โดยใช้เวลาบำบัดกว่า 1 เดือน
รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้เด็กชายอิลแฮมติดบุหรี่อย่างหนัก และแสดงพฤติกรรมที่ก้าวร้าวมากเมื่อครอบครัวห้ามปรามไม่ให้สูบบุหรี่ โดยเขาทั้งทุบตีพ่อแม่ ด่าว่าสารพัด และเขวี้ยงปาข้าวของอย่างบ้าคลั่ง จนครอบครัวต้องยอมให้เขาสูบบุหรี่ จึงได้สงบลง แต่หลังจากเรื่องราวของเด็กชายอิลแฮมถูกเผยแพร่ไป ทางหน่วยงานสังคมสงเคราะห์เด็กของอินโดนีเซียก็ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือ และผลปรากฎว่า 1 เดือนให้หลัง นับตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับการบำบัด เด็กชายอิลแฮมสามารถเลิกสูบบุหรี่ได้แล้ว และมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่า 2 กิโลกรัม
อย่างไรก็ดี แม้ว่าเด็กชายอิลแฮมจะได้รับการบำบัดจนเลิกสูบบุหรี่ได้อย่างเด็ดขาดแล้ว แต่ทางหน่วยงานสังคมสงเคราะห์ก็ยังเป็นห่วงว่า เด็กชายอิลแฮมอาจจะกลับมาสูบบุหรี่อีกครั้งก็ได้ ถ้าหากสิ่งแวดล้อมรอบตัวเขายังคงเต็มไปด้วยคนสูบบุหรี่
ทั้งนี้ ปัญหาเด็กสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุยังน้อย ดูเหมือนจะเป็นปัญหาที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วงในอินโดนีเซียเลยทีเดียว โดยจากรายงานของทางการอินโดนีเซียระบุว่า ในแต่ละปีมีรายงานเด็กสูบบุหรี่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 20 ราย
[13 เมษายน] อึ้ง! เด็กอินโดนีเซีย วัย 8 ขวบ สูบบุหรี่วันละ 2 ซอง
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม เว็บไซต์เทเลกราฟ รายงานว่า เด็กชายอิลแฮม วัย 8 ขวบ อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองซากาบูมี ประเทศอินโดนิเซีย ติดบุหรี่อย่างหนัก ซึ่งสูบจัดถึงวันละ 2 ซอง และนับวันยิ่งสูบมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่มีท่าท่าทีว่าจะลดลงหรือเลิกแม้แต่น้อย
นายอูมาร์ พ่อของเด็กสิงห์อมควันวัยกระเตาะ ผู้มีอาชีพขับมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ออกมากล่าวว่า อิลแฮมเริ่มสูบบุหรี่มาตั้งแต่อายุ 4 ขวบแล้ว ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีเขาสูบวันละไม่กี่มวนเท่านั้น แต่นับวันเขากลับสูบหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งตอนนี้สูบได้มากถึงวันละ 2 ซอง อีกทั้งไม่ยอมไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน ซึ่งในแต่ละวันเขาจะเอาแต่สูบบุหรี่กับวิ่งเล่นเท่านั้น ซ้ำร้ายถ้าไม่ได้สูบก็จะโมโหเกรี้ยวกราดถึงขนาดทุบกระจกและทำลายข้าวของในบ้านเลยทีเดียว
ทางด้านคณะกรรมาธิการคุ้มครองเยาวชน ออกมาชี้ให้เห็นว่า ปัญหาดังกล่าวเแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของรัฐบาล ในการควบคุมอุตสาหกรรมยาสูบภายในประเทศ ซึ่งไม่มีการกำหนดอายุขั้นต่ำสำหรับการซื้อหรือสูบบุหรี่อย่างชัดเจน ทำให้การซื้อขายนั้นเป็นไปอย่างง่ายดาย
ทั้งนี้ นอกจากค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารปัจจัยหลักที่นำมาเป็นอันดับหนึ่งแล้ว ประชาชนในประเทศยังเสียเงินไปกับยาสูบตามมาเป็นอันดับสอง โดยบางคนนั้นมีรายได้เลี้ยงชีพแต่ละวันไม่ถึง 60 บาท ด้วยซ้ำ แต่ยังคงมีความต้องการที่จะซื้อบุหรี่มาสูบอยู่ดี และถึงแม้ว่าทางรัฐบาลอินโดนิเซียจะมีการขึ้นภาษีราคายาสูบแล้ว แต่ปรากฏว่าราคายังคงต่ำกว่ามาตรฐานสากลมาก โดยบุหรี่ 1 ซอง มีราคาไม่ถึง 40 บาทเท่านั้น ซึ่งนับว่าค่อนข้างถูกมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ
ตามรายงานขององค์การอนามัยโลก (World Health Organisation) เผยให้ทราบว่า อัตราการสูบบุหรี่ของประชากรในประเทศอินโดนิเซียนับวันยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้น และปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่อย่างน้อยปีละ 400,000 คน และอีก 25,000 คน เสียชีวิตจากการสูดดมควันบุหรี่เข้าไป
